จากความมุ่งมั่นของคนอยากมีเงิน ... สู่นักธุรกิจพันล้าน
จากคำถามง่าย ๆ ว่า "คุณฝันอยากเป็นอะไร" ... "ผมอยากเป็นคนมีเงิน" ความฝันที่ใคร ๆ ก็คิด แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมาชัดเจน ๆ เพราะเกรงจะถูกตำหนิ ถูกล้อ แต่สำหรับนักธุรกิจหนุ่มวัย 27 ปี ที่ชื่อ "คมสัน แซ่ลี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลซ เอ็กซ์เพรส จำกัด เขามีความคิดที่ชัดเจนและมุ่งมั่นมาตั้งแต่เด็ก
'คมสัน' สร้างบริษัทของเขาขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น กับการทำธุรกิจเพื่อรองรับอี-คอมเมิร์ซแบบครบวงจร โดยบุกเบิกตั้งแต่ธุรกิจพื้นฐานที่อี-คอมเมิร์ซต้องการ นั่นคือ ธุรกิจการจัดส่งพัสดุ กับคอนเซ็ปต์บริการแบบ Door-to-Door ด้วยบริการรับฟรีถึงหน้าบ้าน และบริการจัดส่งถึงมือผู้รับทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในวันถัดไป โดยเขาก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาเมื่อ 9 พ.ค. 2560 จากจุดเริ่มต้นพนักงานเพียง 10 คน แล้วขยับเพิ่มเป็น 80 คน และปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดกว่า 1,600 คน จนถึงสิ้นปีนี้จะมีพนักงานเกือบ 2,000 คน กับการจัดส่งพัสดุที่เติบโตเฉลี่ย 100% ต่อเดือน
ย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นการทำธุรกิจของผู้ชายคนนี้ ฟังแล้วหลาย ๆ คนอาจจะต้องอึ้งกับวิธีการและความคิดของเขา แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่อยู่ที่ว่า "คุณกล้าทำอย่างเขาหรือเปล่า?"
'คมสัน' เริ่มอาชีพค้าขายและทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี ด้วยความชื่นชอบการค้าขาย เมื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ คณะวิทยาการจัดการ เขาเริ่มค้าขายกับร้านค้าหน้ามหาวิทยาลัย โดยนำสินค้าจากร้านขายของชำที่บ้านมาส่งในตอนเช้าและกลับมาเก็บเงินตอนเย็น พร้อมรับออร์เดอร์วันถัดไป และด้วยความสามารถด้านภาษาจีน เขายังรับสอนเด็ก ๆ จนทำให้มีรายได้เดือนละกว่า 3 หมื่นบาท
พอขึ้นเรียนปี 2 เทอม 2 'คมสัน' ก็มีโอกาสได้ร่วมทำธุรกิจกับนักลงทุนจากจีน ทำท่าทรายที่ลำปาง ส่งทรายให้กับ บริษัท เอสซีจีฯ ซึ่งบริษัทนี้ทำธุรกิจขาดทุนมาตลอดเดือนละกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากมีปัญหาคอร์รัปชันในองค์กรสูงมาก เมื่อเขารับทำงานด้วยข้อตกลง 3 ข้อ คือ 1.อำนาจเด็ดขาด 2.ห้ามแบ่งเงินปันผล และ 3.เงินลงทุน 1 ก้อนใหญ่ และทันทีที่เขาทำงาน สิ่งแรกที่ทำ คือ การไล่พนักงานคอร์รัปชันออก หลังจากนั้นจัดตั้งแผนกช่างเพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักร และเมื่อมีรายได้ เขาก็นำเงินไปซื้อบ่อทรายทุกที่ในลำปาง เขาทำงานขึ้นเดือนที่ 8 ก็สามารถสร้างกำไรได้ถึง 15 ล้านบาทต่อเดือน
แต่ ... 'คมสัน' ไม่ได้ประสบความสำเร็จตลอดทุกครั้ง เขาล้มเหลวกับการทำธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่ ด้วยความมั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองฉลาด และมีความสามารถด้านภาษา แต่การทำธุรกิจไม่ได้ต้องการเพียงเท่านั้น ประสบการณ์และทักษะการบริหารถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เมื่อขาด 2 สิ่งนี้ ธุรกิจโรงแรมจึงไปไม่รอด แต่ด้วยความชอบและสนุกที่ได้ทำธุรกิจ เขาไม่ลดละที่จะเริ่มต้นใหม่
จากการที่มีภรรยาเป็นคนจีนอยู่ต่างประเทศ ทำให้เขาต้องส่งพัสดุบ่อย ๆ ทำให้เขาเริ่มศึกษาธุรกิจขนส่งอย่างจริงจัง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมค่าขนส่งจึงแพง และพบว่าเงินส่วนใหญ่ของค่าขนส่งตกอยู่กับบริษัทขนส่ง หรือ Shipping (ชิปปิ้ง) นั่นเอง เขาจึงเปิดธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ เดิมทีเปิดจากไทยส่งไปจีน พอทำที่ไทยสำเร็จ ก็ไปทำต่อที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน 'คมสัน' บอกว่า ธุรกิจนี้เขาไม่มีประสบการณ์ก็จริง แต่การศึกษาข้อมูลและการเรียนรู้ ทำให้ทุกอย่างสามารถเดินหน้าและประสบความสำเร็จ
"ตอนเริ่มต้นเราก็ลำบาก เพราะเขาไม่เชื่อถือ อายุเราน้อย มาคุยธุรกิจ ช่วงแรกเราจึงต้องยอมไม่ได้กำไรอยู่กว่าครึ่งปี เพื่อสร้างโวลุ่มให้พาร์ตเนอร์ต่าง ๆ เห็น ทำให้เขายอมรับและให้เครดิต"
จากความสำเร็จในจุดนี้ 'คมสัน' ยังเดินหน้าต่อ เขาเริ่มศึกษาธุรกิจขนส่ง หรือ "โลจิสติกส์" มากขึ้น ด้วยการไปศึกษาดูระบบกับบริษัทขนส่งในจีนถึง 4 เดือน และเริ่มมองเห็นโอกาส จากความพร้อมของประเทศไทยที่ไม่ได้ด้อยกว่าจีน ทั้งระบบการขนส่งพื้นฐาน ระบบการสื่อสาร เขามีไอเดียที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยการทำงานขนส่งให้รวดเร็วแม่นยำ และไอเดียนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นธุรกิจ โดยเริ่มต้นจากทีมงานเพียง 10 คน ที่เขาไปได้นักพัฒนาระบบมือดีจาก 'อาลีบาบา' ประเทศจีน มาร่วมงาน และหนึ่งในนั้น คือ ผู้พัฒนาระบบอาลีเพลย์ และจากการเริ่มต้นเพียง 4 เดือน เขาก็ได้เงินทุนก้อนแรก 130 ล้านบาท จากบริษัทชั้นนำของโลก
"ทำไมต้องเป็นผมที่เขายอมมาลงทุนด้วย นี่คือ สิ่งที่นักลงทุนสงสัย สาเหตุก็เพราะผมมีทีมงานที่แข็งแกร่งและจังหวะโอกาสที่ใช่ ซึ่งถ้าผ่านช่วงนั้นไปแล้ว มันก็จะไม่เกิด อย่างแรก ผมทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก ผมมีความพยายาม มีความมุ่งมั่นและทำจริง ทีมของผมเป็น All Star ผมมีคนเก่ง ๆ ที่มาจาก "ดีเอชแอล ลาซาด้า อาลีเพลย์" มาร่วมงานด้วย ... คนสำคัญหมดทุกอย่างตอนเริ่มต้น" หลังจากเปิดตัว "แฟลช เอ็กซ์เพรส" มีคนร่วมงานเพิ่มจาก 10 คน เป็น 80 คน และมีคนมาร่วมลงทุนด้วยอีก 2,000 ล้านบาท
'คมสัน' วางแผนธุรกิจของเขาชัดเจน เขาลงทุนกับการจ้างคนมีประสบการณ์มาช่วยพัฒนาและผลักดันองค์กรให้เติบโต นอกจากทีม All Star ที่เป็นผู้บริหารมาช่วยคิด ช่วยวางแผน เขาก็มีทีมผู้ตรวจสอบเป็นทีมปฏิบัติการดำเนินงานต่าง ๆ และทีมผู้ดำเนินการ โดยรูปแบบการบริหารของเขาจะคล้าย ๆ ของอาลีบาบา คือ ความสามารถในการสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การปฏิบัติตาม Core Value หรือ ค่านิยมขององค์กร 5 ข้อ คือ 1.ลูกค้าเป็นที่หนึ่ง 2.มุ่งผลลัพธ์ 3.การทำงานเป็นทีม 4.ความซื่อสัตย์ และ 5.รักในงานที่ทำ โดยปัจจัยทั้งความสามารถในการทำงานและการปฏิบัติตาม Core Value มีความสำคัญเท่ากัน
จากความที่เป็นคนชัดเจนและจริงจังกับการทำงาน 'คมสัน' ได้วางแผนการเติบโตของเขาไว้แล้วว่า ปีหน้าเขาจะเปิด "แฟลช เอ็กซ์เพรส" พร้อมกันในอีก 3 ประเทศ และภายใน 3 ปี จะเปิดครบ 10 ประเทศในอาเซียน และที่สำคัญ เป้าหมายของ "แฟลช เอ็กซ์เพรส" ไม่ใช่เป็นแค่บริษัทโลจิสติกส์ แต่จะเป็นบริษัทไอทีที่นำเทคโนโลยีเข้ามาทำงานของอี-คอมเมิร์ซเติบโตและขยายตัวได้ โดยเขาจะให้บริการแบบครบวงจรกับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซทั้งหลาย โดยเขาจะสร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้ทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน เชื่อมโยงหากันได้
เมื่อถามถึงความมั่นใจในเป้าหมายที่ตั้งไว้ 'คมสัน' ตอบชัดเจนว่า ความมั่นใจเกิดขึ้นจากประสบการณ์ เพราะเขาเคยประสบความสำเร็จมาแล้ว และเคยล้มเหลวมาแล้ว ซึ่งเขารู้ว่าเขาประสบความสำเร็จจากอะไร และล้มเหลวจากอะไรในอดีต เขาคิดแบบเด็ก อยากทำทุกอย่างพร้อม ๆ กัน ทำให้ทีมงานเหนื่อย ตัวเองก็เหนื่อย แต่ตอนนี้เขาโฟกัสที่เรื่องเดียว แล้วเดินไปข้างหน้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ชัดเจน
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3426 ระหว่างวันที่ 13 - 15 ธันวาคม 2561
'คมสัน' สร้างบริษัทของเขาขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น กับการทำธุรกิจเพื่อรองรับอี-คอมเมิร์ซแบบครบวงจร โดยบุกเบิกตั้งแต่ธุรกิจพื้นฐานที่อี-คอมเมิร์ซต้องการ นั่นคือ ธุรกิจการจัดส่งพัสดุ กับคอนเซ็ปต์บริการแบบ Door-to-Door ด้วยบริการรับฟรีถึงหน้าบ้าน และบริการจัดส่งถึงมือผู้รับทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในวันถัดไป โดยเขาก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาเมื่อ 9 พ.ค. 2560 จากจุดเริ่มต้นพนักงานเพียง 10 คน แล้วขยับเพิ่มเป็น 80 คน และปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดกว่า 1,600 คน จนถึงสิ้นปีนี้จะมีพนักงานเกือบ 2,000 คน กับการจัดส่งพัสดุที่เติบโตเฉลี่ย 100% ต่อเดือน
ย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นการทำธุรกิจของผู้ชายคนนี้ ฟังแล้วหลาย ๆ คนอาจจะต้องอึ้งกับวิธีการและความคิดของเขา แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่อยู่ที่ว่า "คุณกล้าทำอย่างเขาหรือเปล่า?"
'คมสัน' เริ่มอาชีพค้าขายและทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 19 ปี ด้วยความชื่นชอบการค้าขาย เมื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ คณะวิทยาการจัดการ เขาเริ่มค้าขายกับร้านค้าหน้ามหาวิทยาลัย โดยนำสินค้าจากร้านขายของชำที่บ้านมาส่งในตอนเช้าและกลับมาเก็บเงินตอนเย็น พร้อมรับออร์เดอร์วันถัดไป และด้วยความสามารถด้านภาษาจีน เขายังรับสอนเด็ก ๆ จนทำให้มีรายได้เดือนละกว่า 3 หมื่นบาท
พอขึ้นเรียนปี 2 เทอม 2 'คมสัน' ก็มีโอกาสได้ร่วมทำธุรกิจกับนักลงทุนจากจีน ทำท่าทรายที่ลำปาง ส่งทรายให้กับ บริษัท เอสซีจีฯ ซึ่งบริษัทนี้ทำธุรกิจขาดทุนมาตลอดเดือนละกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากมีปัญหาคอร์รัปชันในองค์กรสูงมาก เมื่อเขารับทำงานด้วยข้อตกลง 3 ข้อ คือ 1.อำนาจเด็ดขาด 2.ห้ามแบ่งเงินปันผล และ 3.เงินลงทุน 1 ก้อนใหญ่ และทันทีที่เขาทำงาน สิ่งแรกที่ทำ คือ การไล่พนักงานคอร์รัปชันออก หลังจากนั้นจัดตั้งแผนกช่างเพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักร และเมื่อมีรายได้ เขาก็นำเงินไปซื้อบ่อทรายทุกที่ในลำปาง เขาทำงานขึ้นเดือนที่ 8 ก็สามารถสร้างกำไรได้ถึง 15 ล้านบาทต่อเดือน
แต่ ... 'คมสัน' ไม่ได้ประสบความสำเร็จตลอดทุกครั้ง เขาล้มเหลวกับการทำธุรกิจโรงแรมที่เชียงใหม่ ด้วยความมั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองฉลาด และมีความสามารถด้านภาษา แต่การทำธุรกิจไม่ได้ต้องการเพียงเท่านั้น ประสบการณ์และทักษะการบริหารถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เมื่อขาด 2 สิ่งนี้ ธุรกิจโรงแรมจึงไปไม่รอด แต่ด้วยความชอบและสนุกที่ได้ทำธุรกิจ เขาไม่ลดละที่จะเริ่มต้นใหม่
จากการที่มีภรรยาเป็นคนจีนอยู่ต่างประเทศ ทำให้เขาต้องส่งพัสดุบ่อย ๆ ทำให้เขาเริ่มศึกษาธุรกิจขนส่งอย่างจริงจัง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมค่าขนส่งจึงแพง และพบว่าเงินส่วนใหญ่ของค่าขนส่งตกอยู่กับบริษัทขนส่ง หรือ Shipping (ชิปปิ้ง) นั่นเอง เขาจึงเปิดธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ เดิมทีเปิดจากไทยส่งไปจีน พอทำที่ไทยสำเร็จ ก็ไปทำต่อที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน 'คมสัน' บอกว่า ธุรกิจนี้เขาไม่มีประสบการณ์ก็จริง แต่การศึกษาข้อมูลและการเรียนรู้ ทำให้ทุกอย่างสามารถเดินหน้าและประสบความสำเร็จ
"ตอนเริ่มต้นเราก็ลำบาก เพราะเขาไม่เชื่อถือ อายุเราน้อย มาคุยธุรกิจ ช่วงแรกเราจึงต้องยอมไม่ได้กำไรอยู่กว่าครึ่งปี เพื่อสร้างโวลุ่มให้พาร์ตเนอร์ต่าง ๆ เห็น ทำให้เขายอมรับและให้เครดิต"
จากความสำเร็จในจุดนี้ 'คมสัน' ยังเดินหน้าต่อ เขาเริ่มศึกษาธุรกิจขนส่ง หรือ "โลจิสติกส์" มากขึ้น ด้วยการไปศึกษาดูระบบกับบริษัทขนส่งในจีนถึง 4 เดือน และเริ่มมองเห็นโอกาส จากความพร้อมของประเทศไทยที่ไม่ได้ด้อยกว่าจีน ทั้งระบบการขนส่งพื้นฐาน ระบบการสื่อสาร เขามีไอเดียที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายและช่วยการทำงานขนส่งให้รวดเร็วแม่นยำ และไอเดียนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นธุรกิจ โดยเริ่มต้นจากทีมงานเพียง 10 คน ที่เขาไปได้นักพัฒนาระบบมือดีจาก 'อาลีบาบา' ประเทศจีน มาร่วมงาน และหนึ่งในนั้น คือ ผู้พัฒนาระบบอาลีเพลย์ และจากการเริ่มต้นเพียง 4 เดือน เขาก็ได้เงินทุนก้อนแรก 130 ล้านบาท จากบริษัทชั้นนำของโลก
"ทำไมต้องเป็นผมที่เขายอมมาลงทุนด้วย นี่คือ สิ่งที่นักลงทุนสงสัย สาเหตุก็เพราะผมมีทีมงานที่แข็งแกร่งและจังหวะโอกาสที่ใช่ ซึ่งถ้าผ่านช่วงนั้นไปแล้ว มันก็จะไม่เกิด อย่างแรก ผมทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก ผมมีความพยายาม มีความมุ่งมั่นและทำจริง ทีมของผมเป็น All Star ผมมีคนเก่ง ๆ ที่มาจาก "ดีเอชแอล ลาซาด้า อาลีเพลย์" มาร่วมงานด้วย ... คนสำคัญหมดทุกอย่างตอนเริ่มต้น" หลังจากเปิดตัว "แฟลช เอ็กซ์เพรส" มีคนร่วมงานเพิ่มจาก 10 คน เป็น 80 คน และมีคนมาร่วมลงทุนด้วยอีก 2,000 ล้านบาท
'คมสัน' วางแผนธุรกิจของเขาชัดเจน เขาลงทุนกับการจ้างคนมีประสบการณ์มาช่วยพัฒนาและผลักดันองค์กรให้เติบโต นอกจากทีม All Star ที่เป็นผู้บริหารมาช่วยคิด ช่วยวางแผน เขาก็มีทีมผู้ตรวจสอบเป็นทีมปฏิบัติการดำเนินงานต่าง ๆ และทีมผู้ดำเนินการ โดยรูปแบบการบริหารของเขาจะคล้าย ๆ ของอาลีบาบา คือ ความสามารถในการสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ การปฏิบัติตาม Core Value หรือ ค่านิยมขององค์กร 5 ข้อ คือ 1.ลูกค้าเป็นที่หนึ่ง 2.มุ่งผลลัพธ์ 3.การทำงานเป็นทีม 4.ความซื่อสัตย์ และ 5.รักในงานที่ทำ โดยปัจจัยทั้งความสามารถในการทำงานและการปฏิบัติตาม Core Value มีความสำคัญเท่ากัน
จากความที่เป็นคนชัดเจนและจริงจังกับการทำงาน 'คมสัน' ได้วางแผนการเติบโตของเขาไว้แล้วว่า ปีหน้าเขาจะเปิด "แฟลช เอ็กซ์เพรส" พร้อมกันในอีก 3 ประเทศ และภายใน 3 ปี จะเปิดครบ 10 ประเทศในอาเซียน และที่สำคัญ เป้าหมายของ "แฟลช เอ็กซ์เพรส" ไม่ใช่เป็นแค่บริษัทโลจิสติกส์ แต่จะเป็นบริษัทไอทีที่นำเทคโนโลยีเข้ามาทำงานของอี-คอมเมิร์ซเติบโตและขยายตัวได้ โดยเขาจะให้บริการแบบครบวงจรกับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซทั้งหลาย โดยเขาจะสร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้ทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน เชื่อมโยงหากันได้
เมื่อถามถึงความมั่นใจในเป้าหมายที่ตั้งไว้ 'คมสัน' ตอบชัดเจนว่า ความมั่นใจเกิดขึ้นจากประสบการณ์ เพราะเขาเคยประสบความสำเร็จมาแล้ว และเคยล้มเหลวมาแล้ว ซึ่งเขารู้ว่าเขาประสบความสำเร็จจากอะไร และล้มเหลวจากอะไรในอดีต เขาคิดแบบเด็ก อยากทำทุกอย่างพร้อม ๆ กัน ทำให้ทีมงานเหนื่อย ตัวเองก็เหนื่อย แต่ตอนนี้เขาโฟกัสที่เรื่องเดียว แล้วเดินไปข้างหน้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ชัดเจน
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3426 ระหว่างวันที่ 13 - 15 ธันวาคม 2561
