'ลิงขี่แพะ' เล็งรายได้โต 10% รุกออนไลน์เจาะคนยุคใหม่
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะ ต.เกาะยาวใหญ่ เผยกลยุทธ์การทำตลาด มุ่งออกงานแสดงสินค้าสร้างการรับรู้ คู่ทำการตลาดออนไลน์เจาะคนยุคใหม่ พร้อมออกผลิตภัณฑ์ครีมนวดผมเพิ่มทางเลือก เชื่อรายได้ปีนี้โตขึ้นได้ 10% จากปีที่ผ่านมา
นางสาวรุ่งอรุณ โคตภักดี สมาชิกและผู้ประสานงาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะ ต.เกาะยาวใหญ่ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนํ้านมแพะ (GOAT’S Milk) ภายใต้โลโก "ลิงขี่แพะ" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กลยุทธ์การทำตลาดในระยะต่อไปของวิสาหกิจฯ คือ การออกงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในกลุ่มของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น งานแสดงสินค้าโอท็อป งานแสดงสินค้าทั่วประเทศ และงานแสดงสินค้าประจำอำเภอ เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้าให้แพร่ขยายมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา จากเดิมที่จะจำหน่ายอยู่ภายในศูนย์ของวิสาหกิจชุมชนฯ
วิสาหกิจฯ ยังได้เพิ่มช่องทางการทำตลาดออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ที่นิยมสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ช่วยให้ประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยวิสาหกิจฯ ได้สร้างเพจเฟซบุ๊กขึ้นมาเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคค ซึ่งปัจจุบัน ได้มีคำสั่งซื้อผ่านช่องทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาด และยังมีต้นทุนในการดำเนินการที่ไม่สูงมากนัก
ล่าสุด วิสาหกิจฯ ยังได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมไปสู่การทำเป็นครีมนวดผมนํ้านมแพะ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้วิสาหกิจฯ จากเดิมที่จะมีผลิตภัณฑ์เป็นสบู่และครีมอาบนํ้าน้ำนมแพะ, โลชั่นนํ้านมแพะ, แชมพูนํ้านมแพะ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้งาน
"จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ยอดรายได้ของวิสาหกิจฯ เติบโตขึ้นได้ประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา โดยอาจจะเป็นการเติบโตที่ไม่สูงมาก แต่จะเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปตามกลยุทธ์ในการทำตลาด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้วิสาหกิจฯ จะมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปยังวัตถุดิบอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร เป็นต้น"
นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้การดำเนินงานของวิสาหกิจฯ คือ การใช้นํ้านมแพะจากที่เลี้ยงกันเองภายในชุมชน ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญยังเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยคุณสมบัติที่สำคัญของนํ้านมแพะ คือ การเป็นไลโพโซมธรรมชาติ ซึ่งสามารถ ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย โดยที่ไขมันในนํ้านมแพะจะมีโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้ กระจายตัวได้ดี ดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย
ทั้งนี้ นํ้านมแพะยังมีกรดคาพรีลิกที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีวิตามินเอช่วยสร้างเซลล์ผิวหนัง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้ผิวและผมแข็งแรง อีกทั้งยังมีวิตามินบี 2 เสริมสร้างกระบวนการให้พลังงานแก่ร่างกายและจำเป็นต่อผิวหนัง รวมถึงมีวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้สดใส
อนึ่ง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะ ต.เกาะยาวใหญ่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 มีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวของกลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงแพะ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากบนเกาะ เดิมมีวัตถุประสงค์เลี้ยงเพื่อการจำหน่ายเนื้อในการบริโภค เนื่องจากคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและจะมีการรับประทานเนื้อแพะเป็นหลัก รวมถึงการนำเนื้อแพะไปทำบุญตามหลักของศาสนา โดยวิสาหกิจมีแนวคิดในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ และนำมาซึ่งการแปรรูปนํ้านมแพะเพื่อจำหน่ายในที่สุด
หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 13-15 ธันวาคม 2561
นางสาวรุ่งอรุณ โคตภักดี สมาชิกและผู้ประสานงาน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะ ต.เกาะยาวใหญ่ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนํ้านมแพะ (GOAT’S Milk) ภายใต้โลโก "ลิงขี่แพะ" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กลยุทธ์การทำตลาดในระยะต่อไปของวิสาหกิจฯ คือ การออกงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในกลุ่มของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น งานแสดงสินค้าโอท็อป งานแสดงสินค้าทั่วประเทศ และงานแสดงสินค้าประจำอำเภอ เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้าให้แพร่ขยายมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา จากเดิมที่จะจำหน่ายอยู่ภายในศูนย์ของวิสาหกิจชุมชนฯ
วิสาหกิจฯ ยังได้เพิ่มช่องทางการทำตลาดออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ที่นิยมสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ช่วยให้ประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยวิสาหกิจฯ ได้สร้างเพจเฟซบุ๊กขึ้นมาเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคค ซึ่งปัจจุบัน ได้มีคำสั่งซื้อผ่านช่องทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาด และยังมีต้นทุนในการดำเนินการที่ไม่สูงมากนัก
ล่าสุด วิสาหกิจฯ ยังได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมไปสู่การทำเป็นครีมนวดผมนํ้านมแพะ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้วิสาหกิจฯ จากเดิมที่จะมีผลิตภัณฑ์เป็นสบู่และครีมอาบนํ้าน้ำนมแพะ, โลชั่นนํ้านมแพะ, แชมพูนํ้านมแพะ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้งาน
"จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ยอดรายได้ของวิสาหกิจฯ เติบโตขึ้นได้ประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา โดยอาจจะเป็นการเติบโตที่ไม่สูงมาก แต่จะเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปตามกลยุทธ์ในการทำตลาด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้วิสาหกิจฯ จะมีการต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปยังวัตถุดิบอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มาจากการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร เป็นต้น"
นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้การดำเนินงานของวิสาหกิจฯ คือ การใช้นํ้านมแพะจากที่เลี้ยงกันเองภายในชุมชน ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญยังเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยคุณสมบัติที่สำคัญของนํ้านมแพะ คือ การเป็นไลโพโซมธรรมชาติ ซึ่งสามารถ ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย โดยที่ไขมันในนํ้านมแพะจะมีโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้ กระจายตัวได้ดี ดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย
ทั้งนี้ นํ้านมแพะยังมีกรดคาพรีลิกที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีวิตามินเอช่วยสร้างเซลล์ผิวหนัง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้ผิวและผมแข็งแรง อีกทั้งยังมีวิตามินบี 2 เสริมสร้างกระบวนการให้พลังงานแก่ร่างกายและจำเป็นต่อผิวหนัง รวมถึงมีวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้สดใส
อนึ่ง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะ ต.เกาะยาวใหญ่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 มีจุดเริ่มต้นมาจากการรวมตัวของกลุ่มเกษตรผู้เลี้ยงแพะ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากบนเกาะ เดิมมีวัตถุประสงค์เลี้ยงเพื่อการจำหน่ายเนื้อในการบริโภค เนื่องจากคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและจะมีการรับประทานเนื้อแพะเป็นหลัก รวมถึงการนำเนื้อแพะไปทำบุญตามหลักของศาสนา โดยวิสาหกิจมีแนวคิดในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ และนำมาซึ่งการแปรรูปนํ้านมแพะเพื่อจำหน่ายในที่สุด
หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 13-15 ธันวาคม 2561
