‘ยันม่าร์’ ห่วงแล้งฉุดยอด ส่งรุ่นใหม่ปั๊มรายได้2 พันล้าน

09 มี.ค. 2559 | 11:00 น.
ยันม่าร์ชี้ภัยแล้ง-หนี้สินครัวเรือนทำเกษตรกรกำลังซื้อหด หวังมาตรการรัฐช่วยกระตุ้น เชื่อครึ่งปีหลังกำลังซื้อกลับมาคึกคัก ตั้งยอดขายปี 59 โต 30% จากปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 5.2 พันล้าน ล่าสุดเปิดตัวแทร็กเตอร์รุ่นใหม่ "ลิมิเต็ด อิดิชั่น" เล็งเป้ายอดขายรุ่นนี้ 3 พันคัน มูลค่า 2 พันล้าน

นายโคจิ ยามาชิตะ ประธานบริหาร บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี.จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรของเกษตรกรไทยเปลี่ยนไปมาก โดยเปลี่ยนมาใช้รถแทร็กเตอร์แทนรถไถแบบเดินตามมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบายและความคุ้มค่าในการใช้งาน เป็นโอกาสให้บริษัทเข้ามารุกตลาดรถแทร็กเตอร์อย่างจริงจัง โดยการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ยันม่าร์ให้มีความพรีเมียมมากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวรถแทร็กเตอร์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น(YANMAR LIMITED EDITION TRACTOR X MANCHESTER UNITED EF514MU) มีเป้าหมายในการเข้าถึงกลุ่มเกษตรกรยุคใหม่หรือสมาร์ท ฟาร์เมอร์(Smart Farmer)โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 3 พันคัน คิดเป็นมูลค่าราว 2 พันล้านบาท โดยจำหน่ายราคา 6.5 แสนบาทต่อคัน

"เรายังมีกิจกรรมการส่งเสริมการขายเช่น แพ็คเกจบำรุงรักษาเชิงป้องกัน 1.5 พันชั่วโมง ขยายระยะเวลารับประกันจากเดิม 1 ปีเป็น 3 ปี กิจกรรมโรดโชว์เพื่อนำรถแทร็กเตอร์ไปทดลองขับถึงที่ซึ่งจะเน้นพื้นที่การเกษตรที่เป็นพืชไร่โดยเตรียมงบไว้ประมาณ 200 ล้านบาทหรือ 10% ของยอดขาย"

ด้านนายธานัท โฆวัฒนวินฑะ ผู้อำนวยการบริหารบริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด กล่าวว่าในปีที่ผ่านมาตลาดรถแทร็กเตอร์ในไทยมีการชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำและปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกรทำให้การเติบโตของตลาดโดยรวมลดลง 10% โดยในส่วนของบริษัทมีผลประกอบการในปี 2558 อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 70% และ 30% ส่งออกไปตลาดต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เวียดนาม และออสเตรเลีย

สำหรับในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 7 พันล้านบาทหรือขยายตัว 30% จากปีก่อนแบ่งเป็นสัดส่วน 70% เป็นยอดขายจากรถแทร็กเตอร์ 20% เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็ก และอีก 10% เป็นรถเกี่ยวข้าว โดยตลาดรถแทร็กเตอร์ขนาดเครื่องยนต์ 30-50 แรงม้า มีตลาดใหญ่อยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน 60% รองลงมาภาคเหนือ 25% ภาคกลาง10% และภาคใต้5% ทั้งนี้ยันม่าร์มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 10-15% ของตลาดรถแทร็กเตอร์ ถือเป็นอันดับ 2 รองจากคูโบต้า โดยภาพรวมของตลาดรถแทร็กเตอร์ในปี 2558 อยู่ที่ 3.5 หมื่นคัน โดยในปีนี้แนวโน้มตลาดแทร็กเตอร์ขนาด 30-50 แรงม้าน่าจะยังไม่กลับมาเนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงจากปัญหาภัยแล้ง ดังนั้นคาดปีนี้ยอดขายรถแทร็กเตอร์ในปี 2559 จะกลับมาคิดเป็นสัดส่วน90-95% ของยอดขายปีที่ผ่านมา ส่วนจะกลับมาที่ 100% น่าจะได้เห็นใน 2-3 ปีข้างหน้า

"ผลผลิต และราคาพืชผลทางการเกษตรเป็นตัวชี้วัดกำลังซื้อของเกษตรกรในการซื้อรถแทร็กเตอร์รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาก็น่าจะช่วยให้กำลังซื้อกลับมาบ้าง แต่คงไม่มากเพราะหนี้สินต่อครัวเรือนของเกษตรกรเองขณะนี้ยังถือว่าสูงทะลุ 80% ของจีดีพี อย่างไรก็ดีเชื่อว่าครึ่งหลังของปีนี้กำลังซื้อของเกษตรกรน่าจะกลับมาจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ส่วนปัจจัยเสี่ยงหลักคือราคาพืชผลที่ตกต่ำ ขณะที่การแข่งขันในตลาดรถเพื่อการเกษตรค่อนข้างสูง"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,135 วันที่ 6 - 9 มีนาคม พ.ศ. 2559