ทางออกนอกตำรา : เศรษฐีใหม่แจ้งเกิด ยาจกกระจาย รวยล้นฟ้า-จนดักดาน

08 ธ.ค. 2561 | 13:31 น.
เศรษฐีใหม่-2 ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในสังคมการเมือง สังคมนักธุรกิจขณะนี้ ไม่มีเรื่องไหนร้อนแรงเท่า “ความเหลื่อมลํ้าของสังคม” เมื่อ “เจ้าสำนักเตา-บรรยง พงษ์พานิช” อดีตคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ ซูเปอร์บอร์ด ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคิน ภัทร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวที่สะท้านไปทั้งเมืองว่า...

ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมลํ้าสูงที่สุดในโลกไปแล้ว …ตามข้อมูลของ CS Global Wealth Report 2018 ที่ออกมาเมื่อเดือนตุลาคม มีข้อมูลที่น่าเป็นห่วงมากว่า ถ้านับในด้านความมั่งคั่ง แล้ว ไทยแลนด์ได้อันดับ 3 ในการสำรวจเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สามารถแซงทั้งรัสเซีย ทั้งอินเดีย ฉลุยขึ้นป้ายอันดับ 1

เมื่อ 2 ปีที่แล้วคนไทย 1% แรก ตกประมาณ 5 แสนคน มีทรัพย์สินรวม 58.0% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ

มาปีนี้ (2018) คนไทย 1% มีเพิ่มเป็น 66.9% รวยขึ้นอื้อเลยครับ …แซงรัสเซียที่ลดจาก 78% เหลือแค่ 57.1% ตกไปเป็นที่ 2 ขณะที่ตุรกีมาแรงทั้งๆ ที่ีเศรษฐกิจไม่ดี แต่คนรวยกลับเพิ่มสัดส่วนขึ้นได้เป็น 54.1% แซงอินเดียที่ตกไปเป็นที่ 4 จาก 58.4% เหลือแค่เพียง 51.5% แล้ว
inequality นอกจาก 4 ประเทศนี้ ก็ไม่มีประเทศไหนในโลกอีกแล้วที่คนรวย 1% มีเกินครึ่ง…ประเทศที่ดีที่สุดคือ เบลเยียม ที่ 1% มีแค่ 20.1% ตามด้วยออสเตรเลีย 22.4%

พี่ไทย ที่ตีปี๊บว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้ว กำลังเข้าสู่ยุคโชติช่วงใหม่ เห็นตัวเลขนี้ก็คงพอเข้าใจได้ว่าทำไมรากหญ้ายังบ่นอู้ และที่เขาว่าแข็งบน-อ่อนล่างมันเป็นยังไง

เจ้าสำนักเตาบรรยายได้อารมณ์ยิ่งว่า พอไปดูรายละเอียด ยิ่งอยากเอาเท้าก่ายหน้าผาก… เพราะคนไทยที่จนสุด 10% มีทรัพย์สิน 0% ถ้ารวมหนี้น่าจะติดลบ ขณะที่ถ้านับ 50% หรือตกประมาณ 25 ล้านคน ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ยังมีแค่ 1.7% ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าไอ้ 1% แรก หรือ 5 แสนคนแรกมันเอาไปหมด …

ที่น่ากังวลก็คือมันสะท้อนว่า คนครึ่งประเทศ เป็นพวก “หาเช้ากินคํ่า” หรือไม่ก็ “เดือนชนเดือน” ไม่มีเหลือเก็บเหลือออม แถมกำลังจะแก่ก่อนมีเงินออมซะอีกด้วย...

เรื่องนี้กลายเป็นคมหอกปลายดาบสาดใส่รัฐบาล นายกฯ ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จั๋งหนับ นักการเมือง นักเลงคีย์บอร์ด ปากกล้าขาสั่น ได้ทียิงกระสุนปืนผาหน้าไม้สารพัดถล่มใส่ยับไม่มีชิ้นดี

[caption id="attachment_358857" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

10 คล้อยหลังอีก 2 วัน วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไปก่อนวันที่ 30 กันยายน 2561 พบว่าน.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2561 ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ปีนี้ หมอเสริฐถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 77,129 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 13,602 ล้านบาท หรือ 21.41%

หุ้นที่หมอเสริฐถือครองมี 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) 18.47% รวมมูลค่า 73,786.86 ล้านบาท บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) 10.61% มูลค่า 2,985.22 ล้านบาท บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% มูลค่า 75.48 ล้านบาท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหา ริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) 24.60% มูลค่า 281.75 ล้านบาท

อันดับ 2 เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรก เมื่อนำหุ้น GULF เปิดขายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ในราคา 45 บาท ราคาปัจจุบันวิ่งที่ 75-76.25 บาทเพิ่มขึ้นถึง 69.44% สารัชถ์ที่ถือหุ้น GULF ในสัดส่วน 35.44% มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 57,645 ล้านบาท

อันดับ 3 สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) มูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 42,209.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,940.11 ล้านบาท หรือ 26.87% เมื่อรวมกับหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) ในสัดส่วน 0.92% มูลค่า 17 ล้านบาท ปีนี้สมโภชน์รวยขึ้นกว่า 8 พันล้านบาท

อันดับ 4 ชูชาติ เพ็ชรอำไพ เจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) ก้าวขึ้นจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 35,392 ล้านบาท รวยขึ้น 9,664 ล้านบาท หรือ 37.56% ชูชาติถือครองหุ้นMTC 33.96% มูลค่า 34,742 ล้านบาท

อันดับ 5 ดาวนภา เพชรอำไพ ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.96% มูลค่า 34,740 ล้านบาท รวยขึ้น 9,360 ล้านบาท หรือ 36.88%

อันดับ 6 อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ขยับขึ้นจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 32,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,580.30 ล้านบาท หรือ 16.17% ฯลฯ
11 12.. 13 14 15 17 ทั้ง 2 เรื่องอาจมีที่มาที่ไปต่างกัน แต่เป็นตัวสะท้อนว่าในประเทศนี้ มีคนอยู่ 3 ประเภท คือ คนรวย คนจน และ ชนชั้นกลาง คนรวยนับวันก็รวยเอาๆ คนจนยิ่งนับวันยิ่งจนลง

เหนือกว่านั้นความรวยกระจายตัวออกไปในหมู่ที่ไม่ใช่เจ้าสัวเดิม แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมาจากการใช้โอกาสทางธุรกิจวิ่งแซงเจ้าสัวดั้งเดิมจนแทบหมด ไม่ว่าจะเป็น “สารัชถ์-สมโภชน์-ชูชาติ-ดาวนภา” ล้วนมาจากนํ้าพักนํ้าแรงทั้งสิ้น มิใช่ทรัพย์สมบัติบรรพบุรุษในอดีตอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม สะท้อนว่าแม้ว่ารัฐบาลจะโหมกระหนํ่ามาตรการในการดูแลเยียวยาสารพัด แต่คนจนกลุ่มเดิมของประเทศ และ คนรุ่นใหม่ รุ่นปัจจุบันยังยากจนอยู่เช่นเดิม เห็นได้จากการสำรวจของหอการค้าไทยถึง สถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยปี 2561 พบว่า มีมูลค่า 3.16 แสนบาท/ครัวเรือน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่สำรวจมาเมื่อปี 2552 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.8% เทียบกับปี 2560 ที่มีหนี้เฉลี่ย 2.99 แสนบาท/ครัวเรือน

มันบอกเราว่า ยิ่งพัฒนาช่องว่างความรวยจนวิ่งหนีถี่ห่างออกไปทุกขณะ เหมือนผู้เฒ่าไม้เท้าทองคำ กับผู้เฒ่าไม้เท้าลำไผ่ ผู้ยิ่งใหญ่ ที่น้าแอ๊ด-ยืนยง โอภากุล เขียนและบรรเลงอย่างกินใจไว้ ตั้งแต่ปี 2527 ผ่านรัฐบาลต่างๆ มาจนมีนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศร่วม 11-12 คนแล้ว ไล่จาก “ป๋าเปรม-น้าชาติ-อานันท์-สุจินดา-บรรหาร-ชวลิต-ชวน-ทักษิณ-อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์” ก็ยังแก้ไม่ตก และนับว่ายิ่งเกิปรากฏการณ์รวยล้นฟ้า จนดักดานกระจายอยู่ทั่วประเทศ..
63265
"ผู้เฒ่าไม้เท้าทองคํา สร้างตึกสูงลํ้า เสียดฟ้าเสียดเมฆ นั่งคิดคํานวณตัวเลข ทุกคํ่าทุกเช้า คิดแต่เอากําไร

เฝ้าดูตาม้าตาเรือ ความคิดเหลือเฟือ เต็มห้องแอร์คอนดิชัน จิบบรั่นดีคลี่คลายความฝัน ทุกคืนทุกวันฝันถึงผลกําไร...

มีที่ดินพันหมื่นแสนไร่ รถยนต์มากมาย กว่าร้านขายรถยนต์ บริวารวิ่งกันสับสน ต้องเลี้ยงผู้คน แทนฝูงวัวควาย"
“ผู้เฒ่าถือไม้เท้าลําไผ่ นั่งทอดหายใจ อยู่ใต้ต้นดอกจาน ฝันถึงเมล็ดพืชที่หว่าน เป็นกิจการของเกษตรกร

เฝ้าดูมดหนูแมลง จะมากลั่นแกล้ง กัดกินพืชไร่ ปีนี้ถ้าไม่ดีดังปีกลาย ต้องขอความเห็นใจ จากเฒ่าไม้ทองคํา

นาที่นาของผู้เฒ่าลําไผ่ เอาจํานองไว้กับผู้เฒ่าทองคํา ดอกเบี้ยบานยิ่งกว่าผลผลิต ถ้าไม่ติดฝนแล้ง แมลงลงกัดกิน

เฝ้าดูตามดตาแมง ดังฟ้าฝนกลั่นแกล้ง ไม่มีเหลือผลผลิต แม่นละหรือที่ว่าฟ้าลิขิต ฟ้าไม่มีชีวิต แต่คนมีจิตมีนํ้าใจ”

“เฒ่าชราคว้าไม้ไผ่ลำอ่อน ลุกขึ้นเขียนดินดอน สะท้อนความในใจ

เรามันจนเราก็จนต่อไป ใครจะรวยเท่าใด ก็ปล่อยให้รวยเสียให้เข็ด

เรามันจนเราก็จนต่อไป ใครจะรวยเท่าใด ก็ปล่อยให้รวยเสียให้เข็ด

เรามันจนเราก็จนต่อไป ใครจะรวยเท่าใด ก็ปล่อยให้รวยเสียให้เข็ด” 

| คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
| โดย : บากบั่น บุญเลิศ
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3425 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 9- 12 ธ.ค.2561
595959859