MFCปั๊ม NAV เพิ่มจากสาขา เป้าเป็น 30% ลั่นยึดแชมป์ ‘สำรองเลี้ยงชีพ’ ปีนี้1.56 แสนล้าน

07 มี.ค. 2559 | 09:00 น.
MFC เผยกลยุทธ์ปี 59 จับมือพาร์ทเนอร์ร่วมพัฒนากองทุน –เพิ่ม NAV จากฐานลูกค้าตจว.เป็น 30% ปูพรมขยายสาขาเพิ่ม 3-4 แห่ง ลั่นรักษาแชมป์ต่อเนื่อง "กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" หลัง ลงนามบริหารเม.ย.นี้อีก 2 แห่ง "รสก.-บริษัทค่ายรถยนต์"มูลค่า 1.5 หมื่นล้าน พร้อมตั้งเป้าออกกองทุนรวม 26 กอง ดัน NAVทุกประเภทปีนี้โต 29% สู่ระดับ 4.7 แสนล้าน และรายได้ที่ 1.16 พันล้าน

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC ) กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2559 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภท (NAV) ในปีนี้เป็น 4.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% จากสิ้นปี 2558 ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.64 แสนล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 1.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.1% จากสิ้นปี 2558 ที่มีรายได้ 909 ล้านบาท

โดยปีนี้บริษัทมีแผนจะออกกองทุนรวมทิ้งสิ้น 26 กองทุน มูลค่าระดมทุนรวม 1.51 หมื่นล้านบาท แยกเป็น Term Fund จำนวน 9 กองทุน มูลค่าระดม 5.80 พันล้านบาท และ Target Fund จำนวน 17 กองทุน มูลค่า 9.30 พันล้านบาท เทียบจากปี 2558 ที่ออกจำนวน 19 กองทุน มูลค่า 7.99 พันล้านบาท และบริษัทยังมีแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ เช่นเดียวกับกองทุนตราสารหนี้ (ผสมลงทุนใน/ตปท.) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น ทั้งยังเป็นบลจ.แห่งแรกที่รับเป็นทรัสตี ให้กับบริษัทอสังหาฯหลายแห่ง

ในส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะนี้มี 2 หน่วยงานที่ลงนามข้อตกลงให้บริษัทบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยลูกค้าจะย้ายสินทรัพย์มาในเดือนเมษายนนี้ เป็นรัฐวิสาหกิจ 1 แห่ง ขนาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1 หมื่นล้านบาท และค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ 1 แห่ง ขนาดกองทุน 5 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจาเอกชนอีกรายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งมีขนาดกองทุน 1 หมื่นล้านบาท

" ปี 2558 ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่ MFC สามารถครองส่วนแบ่งการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นอันดับ 1 สัดส่วน 15.93% (มูลค่าทั้งระบบ 8.84 แสนล้านบาท) หรือที่มูลค่า 1.41 แสนล้านบาท โดยมีกองทุนภายใต้การจัดการ 30 กองทุน จาก 4 ปีที่แล้วที่เรายังเป็นอันดับ 2 (ปัจจุบันแชร์อันดับ 2,3 คือ บลจ.กสิกรไทย, บลจ.ทิสโก้ที่ 15.61% และ 13.44% ตามลำดับ) และมั่นใจว่าจะรักษาแชมป์ได้ต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่า NAV กองทุนเลี้ยงชีพจะเพิ่มอย่างต่ำเป็น 1.56 แสนล้านบาท หรือโต 10.64% จาก 2 หน่วยงานที่ย้ายมาให้บริหารขนาด 1.5 หมื่นล้านบาท" กรรมการผู้จัดการ MFC กล่าวและว่า

กลยุทธ์หลักปีนี้ บริษัทจะหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อมาร่วมพัฒนาธุรกิจ พัฒนารูปแบบกองทุนและเพิ่มประสิทธิภาพบริหาร โดยเน้นรายที่มีความชำนาญด้านกองทุนอสังหาฯ, กองทุนโกลบอลและตราสารหนี้ ซึ่งขณะนี้มีหลายสาขาที่ติดต่อเข้ามาแล้ว และจะขยายสาขาในต่างจังหวัดเพิ่ม 3-4 สาขา อาทิที่จังหวัดนครราชสีมา, อุบลราชธานี, สงขลา และสุราษฏร์ธานี จากปัจจุบันที่มี 7 สาขา (รวมสาขากทม.) โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่ม NAV จากสาขาเป็น 30% จากปัจจุบันยังอยู่ที่ 10%

ด้านนายชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายตราสารทุน สายบริหารกองทุน MFC ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้จะอยู่ระดับ 1,445 จุด ปรับลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 1,560 จุด และหากกรณีที่แย่สุด คาดดัชนีหุ้นไทยอาจลงมาแตะที่ 1,100 จุด

"เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญภาวะ "2 สูง-2 ต่ำ" คือ สภาพคล่องและความผันผวนสูง ขณะที่ดอกเบี้ยและการเติบโตเศรษฐกิจต่ำ โดยประเมินว่าหากเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอ แต่ไม่ถึงขั้นถดถอย การดำเนินนโยบายการเงินยังผ่อนคลาย ภาวะเช่นนี้ยังเอื้อต่อตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets ) รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย แต่ในสถานการณ์ที่ worse case คือเศรษฐกิจโลกอ่อนแอและปัจจัยในประเทศลงทุนภาครัฐช้า, งบกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มี จะทำให้นักลงทุนขายสินทรัพย์ทิ้งและหันมาถือเงินสดมากขึ้น"

ขณะที่นางพัณณรัชต์ บรรพโต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารกองทุน MFC กล่าวเสริมว่า MFC ปรับเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ 2.8% จากเดิมที่ 3.2% และเงินเฟ้อที่ 0.6% เนื่องจาก 1. ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนที่คาดว่าปีนี้จะเติบโตเพียง 6.5%และปี 2560 ที่ 6.3% ส่งผลต่อภาคส่งออกไทย 2.ราคาน้ำมันโลกยังปรับตัวต่ำ จากอุปทานส่วนเกิน 3.ปัจจัยกดดันจากการปรับขึ้นของดอกเบี้ยเฟด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,135 วันที่ 6 - 9 มีนาคม พ.ศ. 2559