'อุตฯ' จัดชุดใหญ่ "ของขวัญปีใหม่" แก่ผู้ประกอบการ
กระทรวงอุตสาหกรรมมอบของขวัญปีใหม่แก่ผู้ประกอบการหลากหลายสาขา หวังลดภาระให้กับเอสเอ็มอี พร้อมส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของชุมชนโดยรอบ ชี้! เป็นการทำงานต่อเนื่องของทุกหน่วยงานภายใต้สังกัด
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อมอบของขวัญปีใหม่ 2562 ประจำกระทรวง ให้แก่ผู้ประกอบการ ว่า ของขวัญปีใหม่ของกระทรวงที่จะมอบให้กับผู้ประกอบการเป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องของทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดตามแผนงานที่ชัดเจนของกระทรวง ประกอบด้วย การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอมอีในชุมชน โดยเป็นการช่วยเหลือที่กระทรวงไปบูรณาการร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งเป็นการปรับกลไกลให้เข้าถึงสะดวกมากขึ้น
ทั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปทั่วไทย จาก 6% หรือ 4% ตลอดอายุของสัญญา พร้อมปรับลดระยะเวลาการพิจารณาสินเชื่อลงเหลือ 6 วันทำการ จากเดิมที่จะต้องใช้ระยะเวลา 45 วัน ภายใต้กรอบวงเงินทั้งหมด 250 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมภาคการผลิต (วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเอสเอ็มอี ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) จำนวน 1,200 ราย
การสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ มอก.S โดยการมอบคูปองให้กับผู้ประกอบการจำนวน 30,000 บาท ในการเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับรองมาตรฐาน มอก.S ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็คือ เอสเอ็มอีจำนวน 500 ราย โดยทั้ง 2 มาตรการดังกล่าวนี้ จะช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการได้, การจัดทำแอพพลิเคชันสินค้าอุตสาหกรรมชุมชนของกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้ชื่อ "77 จังหวัด มีดี มาโชว์" โดยเป็นการคัดสรรองดี ของเด่น ซึ่งเป็นสินค้าอุตสาหกรรมชุมชนของ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นสินค้าที่เชื่อมโยงเรื่องราววิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของจังหวัด ปัจจุบันรวบรวมแล้วกว่า 240 ผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการเปิดตัววันที่ 22 ธ.ค. 2561
การจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC) ซึ่งจะครบ 77 จังหวัด ในปี 2562 ตั้งแต่ต้นปี, สร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเต็มที่ในต้นปี 2562 เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์, โครงการ "เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน" โดยจะมีการออกตรวจสุขภาพให้กับชุมชนรอบเหมืองทั้งหมด ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนโดยรอบสถานประกอบการและบริเวณใกล้เคียง จำนวน 30,000 ราย, โครงการ กนอ. สานฝัน ปันอาชีพ มุ่งสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นช่วยพัฒนาอาชีพให้กับชุมชนโดยรอบ
การยกเลิกการต่ออายุใบอนุญาตโรงงาน ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ให้สามารถต่อใบอนุญาติได้เลยโดยไม่ต้องมาขอ และจะมีการดำเนินการตรวจสอบต่อภายหลัง โดยปัจจุบันเรื่องอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาและส่งเรื่องเข้า สลค. เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และก่อนเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. เป็นลำดับต่อไป, การใช้ระบบการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มระบบ (Fully e-Payment) ในการชำระค่าบริการของหน่วยงานระดับกรมในกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีการเก็บค่าธรรมเนียม
โครงการจัดการสวนยาง จัดการชีวิต เพื่ออนาคตที่มั่นคง ของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ปี 4 โดย กนอ. ร่วมกับคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินโครงการจัดการสวนยาง การจัดการชีวิตเพื่ออนาคตที่มั่นคงของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมยางพาราและโครงการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรฐกิจพิเศษชายแดน SEZ (สระแก้ว สงขลา ตาก) โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ชุมชนใกล้เคียงรอบพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้รับการอบรมและมีการรับรองมาตรฐานด้านอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับหากเกิดแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมรวม 3 ปี 440 ราย
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อมอบของขวัญปีใหม่ 2562 ประจำกระทรวง ให้แก่ผู้ประกอบการ ว่า ของขวัญปีใหม่ของกระทรวงที่จะมอบให้กับผู้ประกอบการเป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องของทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดตามแผนงานที่ชัดเจนของกระทรวง ประกอบด้วย การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอมอีในชุมชน โดยเป็นการช่วยเหลือที่กระทรวงไปบูรณาการร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งเป็นการปรับกลไกลให้เข้าถึงสะดวกมากขึ้น
ทั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปทั่วไทย จาก 6% หรือ 4% ตลอดอายุของสัญญา พร้อมปรับลดระยะเวลาการพิจารณาสินเชื่อลงเหลือ 6 วันทำการ จากเดิมที่จะต้องใช้ระยะเวลา 45 วัน ภายใต้กรอบวงเงินทั้งหมด 250 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมภาคการผลิต (วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเอสเอ็มอี ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) จำนวน 1,200 ราย
การสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ มอก.S โดยการมอบคูปองให้กับผู้ประกอบการจำนวน 30,000 บาท ในการเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับรองมาตรฐาน มอก.S ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็คือ เอสเอ็มอีจำนวน 500 ราย โดยทั้ง 2 มาตรการดังกล่าวนี้ จะช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการได้, การจัดทำแอพพลิเคชันสินค้าอุตสาหกรรมชุมชนของกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้ชื่อ "77 จังหวัด มีดี มาโชว์" โดยเป็นการคัดสรรองดี ของเด่น ซึ่งเป็นสินค้าอุตสาหกรรมชุมชนของ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นสินค้าที่เชื่อมโยงเรื่องราววิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของจังหวัด ปัจจุบันรวบรวมแล้วกว่า 240 ผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการเปิดตัววันที่ 22 ธ.ค. 2561
การจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ITC) ซึ่งจะครบ 77 จังหวัด ในปี 2562 ตั้งแต่ต้นปี, สร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ โดยจะเปิดให้บริการอย่างเต็มที่ในต้นปี 2562 เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์, โครงการ "เหมืองแร่ปลอดภัย ห่วงใยประชาชน" โดยจะมีการออกตรวจสุขภาพให้กับชุมชนรอบเหมืองทั้งหมด ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนโดยรอบสถานประกอบการและบริเวณใกล้เคียง จำนวน 30,000 ราย, โครงการ กนอ. สานฝัน ปันอาชีพ มุ่งสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นช่วยพัฒนาอาชีพให้กับชุมชนโดยรอบ
การยกเลิกการต่ออายุใบอนุญาตโรงงาน ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ให้สามารถต่อใบอนุญาติได้เลยโดยไม่ต้องมาขอ และจะมีการดำเนินการตรวจสอบต่อภายหลัง โดยปัจจุบันเรื่องอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาและส่งเรื่องเข้า สลค. เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และก่อนเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. เป็นลำดับต่อไป, การใช้ระบบการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มระบบ (Fully e-Payment) ในการชำระค่าบริการของหน่วยงานระดับกรมในกระทรวงอุตสาหกรรมที่มีการเก็บค่าธรรมเนียม
โครงการจัดการสวนยาง จัดการชีวิต เพื่ออนาคตที่มั่นคง ของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ปี 4 โดย กนอ. ร่วมกับคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินโครงการจัดการสวนยาง การจัดการชีวิตเพื่ออนาคตที่มั่นคงของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมยางพาราและโครงการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรฐกิจพิเศษชายแดน SEZ (สระแก้ว สงขลา ตาก) โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ชุมชนใกล้เคียงรอบพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้รับการอบรมและมีการรับรองมาตรฐานด้านอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับหากเกิดแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมรวม 3 ปี 440 ราย
