"ฟิล์มกรองแสง" เปิดศึกไตรมาส 4!!

12 ธ.ค. 2561 | 04:48 น.
ผ่ากลยุทธ์ธุรกิจตลาดฟิล์มกรองแสง 1,600 ล้านบาท ค่ายโซล่าการ์ด ดึง 'พีเค' นั่งเก้าอี้ผู้บริหาร หวังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าผุดเอ็กซ์คลูซีฟช็อปและเจาะเข้าหาโชว์รูมรถยนต์ 600 แห่งในเขตกรุงเทพ ด้าน ไฮ-คูล กางแผนรุกต่างประเทศ ประเดิมเวียดนาม ก่อนจะลุยให้ครบ CLMV

นายคุณัชญ์ เลิศรัตนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซล่าการ์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายพร้อมติดตั้งฟิล์มสะท้อนความร้อนสำหรับรถยนต์ ฟิล์มนิรภัย ฟิล์มใสกันรอย และฟิล์มติดตั้งอาคาร ภายใต้แบรนด์ "Solar Gard" เปิดเผยว่า แนวทางรุกตลาดในช่วงไตรมาส 4 ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารด้วยการแต่งตั้ง "พีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร" พิธีกรชื่อดัง เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และเสริมงานด้านการตลาด เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

"เราได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท แซง-โกแบ็ง โซล่าการ์ด จำกัด จากสหรัฐอเมริกา ให้เป็นผู้ทำตลาดในไทย ซึ่งแบรนด์นี่ได้รับการยอมรับในกลุ่มรถซูเปอร์คาร์ อย่าง เฟอร์รารี่, โรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน ขณะที่ การทำตลาดในไทยนั้น เราก็มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย หรือ รถที่มีราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป และรถใหม่ป้ายแดง โดยสินค้าของเรามีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.4-3.6 หมื่นบาท และล่าสุด เราได้เปิดตัวฟิล์มใสปกป้องสีรถยนต์ กันรอยขีดข่วน และหินดีดใส่ โดยมีราคาแนะนำอยู่ที่ 1.4 แสนบาท"


film 2

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งขยายช่องทางการจำหน่าย จากปัจจุบันที่สามารถเจาะเข้าไปในเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ในเขตกรุงเทพฯ กว่า 200 แห่ง ตามเป้าหมายภายในต้นปีหน้าจะต้องเพิ่มเป็น 600 แห่ง และบริษัทยังเตรียมเปิดร้านเอ็กซ์คลูซีฟภายใต้ชื่อ "โซล่า การ์ด เซ็นเตอร์" ที่จำหน่ายเฉพาะฟิล์มกรองแสงของโซล่า การ์ด แบรนด์เดียวเท่านั้น โดยสาขาแรกเป็นการลงทุนของบริษัท ด้วยเม็ดเงิน 5 ล้านบาท บนถนนบรมราชชนนี และจะเริ่มเปิดดำเนินการในต้นปีหน้า

"ร้านต้นแบบจะลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท และตามแผนที่วางไว้ในเบื้องต้นจะมีสาขาที่บรมราชชนนี, เลียบทางด่วนรามอินทรา, เชียงใหม่ โดยบริษัทต้องการเปิดจำนวน 7 แห่งในปีหน้า"

นายคุณัชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2562 ไว้ที่ 75 ล้านบาท หรือ ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ขณะที่ รายได้รวมของทั้งบริษัทเมื่อรวมกับรายได้ฟิลม์อาคารก็จะอยู่ที่ 100 ล้านบาท

ด้าน แบรนด์ ไฮ-คูล นายโฉลก วณิชชากรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิลม์กรองแสงติดรถยนต์ ฟิลม์อาคาร และฟิล์มนิรภัยสัญชาติไทย ภายใต้แบรนด์ Hi-Kool (ไฮ-คูล) เปิดเผยว่า แผนงานของบริษัทหลังจากนี้จะมุ่งไปที่ตลาด CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้มีการเติบโต อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคความเชื่อมั่นต่อสินค้าแบรนด์ไทย

"เรามีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างเต็มรูปแบบภายใน 3-5 ปี โดยมีเป้ายอดขาย 100-150 ล้านบาท ซึ่งในเริ่มแรกที่ได้เจาะเข้าไป คือ เวียดนาม เพราะตลาดรถยนต์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยบริษัทได้มีการตั้งทีมพัฒนาธุรกิจ (Business Development) สำหรับตลาดในเวียดนาม และพบว่า 6 เดือนที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายแล้ว 20 ล้านบาท"


บาร์ไลน์ฐาน

นายโฉลก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 ปีแรก จะเน้นสร้างแบรนด์และขยายตลาดในประเทศกลุ่ม CLMV หลังจากนั้นจะขยายไปยังฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียต่อไป

ขณะที่ เป้าหมายในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ 650 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 15% แบ่งเป็น ยอดขายในประเทศ 630 ล้านบาท และยอดขายต่างประเทศ เฉพาะตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 20 ล้านบาท ส่วนในปี 2562 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 730 ล้านบาท หรือเติบโต 17%

ขณะที่ อีกหนึ่งค่ายไมดาส (MIDAS) ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ฟิล์มนิรภัยกระจกบังลมหน้า, Midas PPF Ultra Shine สารเคลือบความเงาแบบพิเศษ, ฟิล์มกันรอย ผิวด้าน (Matte) และ Midas Iceberg ฟิล์มกรองแสง แบบใส โดยสนนราคาสินค้า 1.8-4.5 หมื่นบาท พร้อมกันนั้นยังเตรียมสื่อสารการตลาดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ การทำกิจกรรมโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงการขยายเครือข่ายเพิ่มอีก 10 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 25 แห่ง


หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,425 วันที่  9 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว