ฟาสต์ฟิตมึน "ช็อปช่วยชาติ" !! รอค่ายยางเคาะสูตร "บี-ควิก - MMS" เล็งเล่นโปรโมชันเอง
ฟาสต์ฟิตรอเก้อ! ปีนี้รัฐบาลจำกัดลดหย่อนภาษีแค่ "ยางล้อที่ผลิตในประเทศ" ไม่รวมค่าบริการและอื่น ๆ ... "บี-ควิก" รอความชัดเจนจากค่ายผู้ผลิตยางรถยนต์และคูปองจากรัฐบาล ส่วน "เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์เซอร์วิส" เซ็งขายยางนอกเยอะกว่ายางไทย เล็งจัดเต็มส่วนลด ของแถม ไม่ต้องรอคืนภาษี
"มาตรการช็อปช่วยชาติ" ของรัฐบาลประจำปี 2561 ที่หวังกระตุ้นกำลังซื้อระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 2561 - 16 ม.ค. 2562 โดยให้ประชาชนนำใบเสร็จไปหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท ทว่าปีนี้รัฐบาลเฉพาะเจาะจงลงไปที่ 3 สินค้า คือ 1.ยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถจักรยานยนต์ และยางล้อรถจักรยาน 2.หนังสือและอี-บุ๊ก (หนังสือที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์) และ 3.สินค้าจากโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป)
ในส่วนยางรถ รัฐบาลหวังสื่อสารความช่วยเหลือไปถึงชาวสวนยาง การระบายสต๊อกยาง และพยุงราคายาง ดังนั้น จึงจำกัดสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีสำหรับยางที่ผลิตในประเทศ หรือ ยางที่มีส่วนผสมของนํ้ายางพาราในประเทศเท่านั้น ขณะเดียวกันยังไม่ครอบคลุมถึงค่าแรงในการเข้าไปใช้บริการ (ต่างจากมาตรการปีที่แล้วที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด)
สำหรับธุรกิจ "ฟาสต์ฟิต" หรือ ศูนย์บริการรถยนต์หลังหมดระยะประกัน ที่มูลค่าตลาดเติบโตขึ้นทุกปีตามยอดขายรถยนต์ แต่ปัจจุบันมีผู้เล่นหลายราย แข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะบริการเปลี่ยนยางและถ่ายนํ้ามันเครื่อง
สำหรับธุรกิจฟาสต์ฟิตในเมืองไทยปี 2560 มีมูลค่าตลาดกว่า 3 หมื่นล้านบาท นำโดย รายใหญ่ "บี-ควิก" (146 สาขา) และกลุ่มผู้ผลิตยาง "บริดจสโตน" ดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์แอค, ค็อกพิท, ออโต้ บอย (รวมเกือบ 400 สาขา) ส่วน "มิชลิน" มีไทร์พลัส (117 สาขา) และ "กู๊ดเยียร์" มีออโต้แคร์ (73 สาขา) รวมถึง "เอ็มเอ็มเอส" ในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย (16 สาขา) ล่าสุด "เซ็นทรัล" ยังขยับลุยธุรกิจนี้ผ่านแบรนด์ "ออโต้วัน" โดยตั้งเป้าขยายสาขาตาม "ไทวัสดุ" ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ให้ครบ 40 แห่ง ภายใน 2 ปี
ทว่าจากสภาพตลาดปีนี้ แม้หลายค่ายยอดขายจะเติบโต แต่สถานการณ์ธุรกิจไม่พุ่งแรงเหมือนช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากสภาพเศรษฐกิจ ผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะที่ มาตรการช็อปช่วยชาติยังจำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ยางล้อ จึงไม่ส่งเสริมธุรกิจมากนักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
"ภาพรวมของตลาดยางรถยนต์ไทยในช่วงที่ผ่านมาซบเซา โดยประเมินว่า ตลาดติดลบเกือบ 10% ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจทั้งของโลกและในประเทศ ทำให้ประชาชนไม่มีการจับจ่ายใช้สอย มีการยืดระยะเวลาในการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ซึ่งมิใช่แค่เพียงยางรถยนต์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงนํ้ามันเครื่อง, แบตเตอรี่" นางสาวบุศรารัตน์ อัสสรัตนกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายปฏิบัติการ ศูนย์บริการรถยนต์ บี-ควิก กล่าวและว่า
กรณีมาตรการช็อปช่วยชาติของรัฐบาล บี-ควิกยังไม่มีเงื่อนไขของแคมเปญ หรือ ข้อกำหนดในการใช้คูปองดังกล่าวออกมา แต่คาดว่า หลังจากวันที่ 10 ธ.ค. 2561 ถึงจะประกาศอีกทีหนึ่ง ปัจจุบัน บี-ควิกมียางรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยวางจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วน 80% และอีก 20% เป็นยางนำเข้า
"ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าถามเข้ามาเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว แต่เรายังไม่มีรายละเอียดชัดเจน อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นตลาดยาง เชื่อว่าอีก 2 อาทิตย์ ตลาดจะคึกคัก" นางสาวบุศรารัตน์ กล่าว
"ฐานยานยนต์" สำรวจโปรโมชันของบี-ควิกในตอนนี้ มีทั้งผ่อนยาง 0% นาน 10 เดือน ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทุกขนาด และรับประกันบาด, บวม, แตก, ตำ 1 ปี พร้อมบริการตรวจเช็กฟรี 30 รายการ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 2561 นอก จากนี้ ยังมีแคมเปญพิเศษ "ลุ้นหมุนล้อ ซีซัน 2" โดยลูกค้าแอดไลน์แอกเคาต์ร่วมลุ้นรับส่วนลดยาง, แบตเตอรี่, นํ้ามันเครื่อง มูลค่า 100-250 บาท หรือ รับส่วนลด 10% และฟรีเวาเชอร์ห้องพักโรงแรม
ส่วนค่ายยางรถยนต์ พบว่า มิชลินมีการออกโปรโมชันหนุนช็อปช่วยชาติด้วยการแจกฟรีบัตรของขวัญ มูลค่าสูงสุด 800 บาท เมื่อซื้อยาง 4 เส้น ตามร้านที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
โดยลูกค้าที่ซื้อยางมิชลิน 4 เส้น ในรุ่นเอ็นเนอร์จี เอ็กซ์เอ็ม 2 ภายในวันที่ 1 ธ.ค. 2561 - 31 ม.ค. 2562 รับฟรีบัตรของขวัญเทสโก้โลตัส มูลค่าสูงสุด 800 บาท หรือ เปลี่ยนยางในรุ่นมิชลิน ไพรมาซี่ 4, มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4, มิชลิน ไพรมาซี่เอสยูวี และมิชลิน แอลทีเอ็กซ์ฟอร์ซ ฟรีบัตรเงินสดเทสโก้โลตัส มูลค่า 500 บาท ส่วนการนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีในโครงการช็อปช่วยชาติ มิชลินจะแจ้งรายละเอียดในการใช้คูปองในวันที่ 15 ธ.ค. นี้
สำหรับ "บริดจสโตน" จัดโปรโมชันเปลี่ยนยาง 4 เส้น ที่ Cockpit, A.C.T และ AutoBoy ทุกสาขา ในรุ่น Turanza T005A หรือ Ecopia รุ่น EP300/EP850 รับฟรีบัตรเติมนํ้ามัน มูลค่าตั้งแต่ 500-1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 2561
ด้าน "เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์เซอร์วิส" ธุรกิจฟาสต์ฟิตในเครือเอ็มจีซี เอเชีย เพิ่งเปิดสาขาที่ 16 ที่ซอยเพชรเกษม โดยนายสุดเขต จันทร์เฉลี่ย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจฟาสต์ฟิตปีนี้ไม่ร้อนแรงเหมือนที่ผ่าน ๆ มา เพราะผู้คนชะลอการใช้เงิน เช่น การซ่อมบำรุง หรือ การเปลี่ยนยางอาจจะยืดการใช้งานไปเป็น 4 ปี
ในส่วนมาตรการช็อปช่วยชาติปีที่แล้ว ช่วยให้ยอดขาย "เอ็มเอ็มเอส" เพิ่มขึ้นจากปกติ 15-20% แต่ปีนี้จำกัดเฉพาะล้อยาง คงกระตุ้นธุรกิจฟาสต์ฟิตได้ไม่มาก และตอนนี้เรากำลังรอสรุปจากค่ายยางรถยนต์เรื่องรายละเอียดต่าง ๆ อีกที
"โครงการปีนี้ เรากำลังรอความชัดเจนจากค่ายยางรถยนต์ ขณะเดียวกัน ยางส่วนมากที่ขายในเอ็มเอ็มเอสเป็นยางนำเข้าจากมาเลเซีย จีน ดังนั้น เราจึงออกแคมเปญให้ลูกค้าแบบไม่ต้องรอสิทธิ์ลดหย่อนภาษีของรัฐบาล เช่น ส่วนลด ของแถม หรือ ซื้อยาง 2 เส้น แถม 2 เส้น พร้อมคูปองส่วนลดสำหรับการใช้บริการครั้งหน้า" นายสุดเขต กล่าว
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,425 วันที่ 9 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561
"มาตรการช็อปช่วยชาติ" ของรัฐบาลประจำปี 2561 ที่หวังกระตุ้นกำลังซื้อระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 2561 - 16 ม.ค. 2562 โดยให้ประชาชนนำใบเสร็จไปหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท ทว่าปีนี้รัฐบาลเฉพาะเจาะจงลงไปที่ 3 สินค้า คือ 1.ยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถจักรยานยนต์ และยางล้อรถจักรยาน 2.หนังสือและอี-บุ๊ก (หนังสือที่อยู่ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์) และ 3.สินค้าจากโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป)
ในส่วนยางรถ รัฐบาลหวังสื่อสารความช่วยเหลือไปถึงชาวสวนยาง การระบายสต๊อกยาง และพยุงราคายาง ดังนั้น จึงจำกัดสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีสำหรับยางที่ผลิตในประเทศ หรือ ยางที่มีส่วนผสมของนํ้ายางพาราในประเทศเท่านั้น ขณะเดียวกันยังไม่ครอบคลุมถึงค่าแรงในการเข้าไปใช้บริการ (ต่างจากมาตรการปีที่แล้วที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด)
สำหรับธุรกิจ "ฟาสต์ฟิต" หรือ ศูนย์บริการรถยนต์หลังหมดระยะประกัน ที่มูลค่าตลาดเติบโตขึ้นทุกปีตามยอดขายรถยนต์ แต่ปัจจุบันมีผู้เล่นหลายราย แข่งขันกันดุเดือด โดยเฉพาะบริการเปลี่ยนยางและถ่ายนํ้ามันเครื่อง
สำหรับธุรกิจฟาสต์ฟิตในเมืองไทยปี 2560 มีมูลค่าตลาดกว่า 3 หมื่นล้านบาท นำโดย รายใหญ่ "บี-ควิก" (146 สาขา) และกลุ่มผู้ผลิตยาง "บริดจสโตน" ดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์แอค, ค็อกพิท, ออโต้ บอย (รวมเกือบ 400 สาขา) ส่วน "มิชลิน" มีไทร์พลัส (117 สาขา) และ "กู๊ดเยียร์" มีออโต้แคร์ (73 สาขา) รวมถึง "เอ็มเอ็มเอส" ในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย (16 สาขา) ล่าสุด "เซ็นทรัล" ยังขยับลุยธุรกิจนี้ผ่านแบรนด์ "ออโต้วัน" โดยตั้งเป้าขยายสาขาตาม "ไทวัสดุ" ธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ให้ครบ 40 แห่ง ภายใน 2 ปี
ทว่าจากสภาพตลาดปีนี้ แม้หลายค่ายยอดขายจะเติบโต แต่สถานการณ์ธุรกิจไม่พุ่งแรงเหมือนช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากสภาพเศรษฐกิจ ผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ขณะที่ มาตรการช็อปช่วยชาติยังจำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ยางล้อ จึงไม่ส่งเสริมธุรกิจมากนักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
"ภาพรวมของตลาดยางรถยนต์ไทยในช่วงที่ผ่านมาซบเซา โดยประเมินว่า ตลาดติดลบเกือบ 10% ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจทั้งของโลกและในประเทศ ทำให้ประชาชนไม่มีการจับจ่ายใช้สอย มีการยืดระยะเวลาในการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ซึ่งมิใช่แค่เพียงยางรถยนต์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงนํ้ามันเครื่อง, แบตเตอรี่" นางสาวบุศรารัตน์ อัสสรัตนกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายปฏิบัติการ ศูนย์บริการรถยนต์ บี-ควิก กล่าวและว่า
กรณีมาตรการช็อปช่วยชาติของรัฐบาล บี-ควิกยังไม่มีเงื่อนไขของแคมเปญ หรือ ข้อกำหนดในการใช้คูปองดังกล่าวออกมา แต่คาดว่า หลังจากวันที่ 10 ธ.ค. 2561 ถึงจะประกาศอีกทีหนึ่ง ปัจจุบัน บี-ควิกมียางรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยวางจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วน 80% และอีก 20% เป็นยางนำเข้า
"ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าถามเข้ามาเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว แต่เรายังไม่มีรายละเอียดชัดเจน อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นตลาดยาง เชื่อว่าอีก 2 อาทิตย์ ตลาดจะคึกคัก" นางสาวบุศรารัตน์ กล่าว
"ฐานยานยนต์" สำรวจโปรโมชันของบี-ควิกในตอนนี้ มีทั้งผ่อนยาง 0% นาน 10 เดือน ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทุกขนาด และรับประกันบาด, บวม, แตก, ตำ 1 ปี พร้อมบริการตรวจเช็กฟรี 30 รายการ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 2561 นอก จากนี้ ยังมีแคมเปญพิเศษ "ลุ้นหมุนล้อ ซีซัน 2" โดยลูกค้าแอดไลน์แอกเคาต์ร่วมลุ้นรับส่วนลดยาง, แบตเตอรี่, นํ้ามันเครื่อง มูลค่า 100-250 บาท หรือ รับส่วนลด 10% และฟรีเวาเชอร์ห้องพักโรงแรม
ส่วนค่ายยางรถยนต์ พบว่า มิชลินมีการออกโปรโมชันหนุนช็อปช่วยชาติด้วยการแจกฟรีบัตรของขวัญ มูลค่าสูงสุด 800 บาท เมื่อซื้อยาง 4 เส้น ตามร้านที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
โดยลูกค้าที่ซื้อยางมิชลิน 4 เส้น ในรุ่นเอ็นเนอร์จี เอ็กซ์เอ็ม 2 ภายในวันที่ 1 ธ.ค. 2561 - 31 ม.ค. 2562 รับฟรีบัตรของขวัญเทสโก้โลตัส มูลค่าสูงสุด 800 บาท หรือ เปลี่ยนยางในรุ่นมิชลิน ไพรมาซี่ 4, มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4, มิชลิน ไพรมาซี่เอสยูวี และมิชลิน แอลทีเอ็กซ์ฟอร์ซ ฟรีบัตรเงินสดเทสโก้โลตัส มูลค่า 500 บาท ส่วนการนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีในโครงการช็อปช่วยชาติ มิชลินจะแจ้งรายละเอียดในการใช้คูปองในวันที่ 15 ธ.ค. นี้
สำหรับ "บริดจสโตน" จัดโปรโมชันเปลี่ยนยาง 4 เส้น ที่ Cockpit, A.C.T และ AutoBoy ทุกสาขา ในรุ่น Turanza T005A หรือ Ecopia รุ่น EP300/EP850 รับฟรีบัตรเติมนํ้ามัน มูลค่าตั้งแต่ 500-1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 2561
ด้าน "เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์เซอร์วิส" ธุรกิจฟาสต์ฟิตในเครือเอ็มจีซี เอเชีย เพิ่งเปิดสาขาที่ 16 ที่ซอยเพชรเกษม โดยนายสุดเขต จันทร์เฉลี่ย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจฟาสต์ฟิตปีนี้ไม่ร้อนแรงเหมือนที่ผ่าน ๆ มา เพราะผู้คนชะลอการใช้เงิน เช่น การซ่อมบำรุง หรือ การเปลี่ยนยางอาจจะยืดการใช้งานไปเป็น 4 ปี
ในส่วนมาตรการช็อปช่วยชาติปีที่แล้ว ช่วยให้ยอดขาย "เอ็มเอ็มเอส" เพิ่มขึ้นจากปกติ 15-20% แต่ปีนี้จำกัดเฉพาะล้อยาง คงกระตุ้นธุรกิจฟาสต์ฟิตได้ไม่มาก และตอนนี้เรากำลังรอสรุปจากค่ายยางรถยนต์เรื่องรายละเอียดต่าง ๆ อีกที
"โครงการปีนี้ เรากำลังรอความชัดเจนจากค่ายยางรถยนต์ ขณะเดียวกัน ยางส่วนมากที่ขายในเอ็มเอ็มเอสเป็นยางนำเข้าจากมาเลเซีย จีน ดังนั้น เราจึงออกแคมเปญให้ลูกค้าแบบไม่ต้องรอสิทธิ์ลดหย่อนภาษีของรัฐบาล เช่น ส่วนลด ของแถม หรือ ซื้อยาง 2 เส้น แถม 2 เส้น พร้อมคูปองส่วนลดสำหรับการใช้บริการครั้งหน้า" นายสุดเขต กล่าว
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,425 วันที่ 9 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561
