แอพฯ ‘Hungry Hub’ชูความต่างดันรายได้ร้านอาหารมากกว่า 100 ล้าน

06 ธ.ค. 2561 | 11:24 น.
Hungry Hub (ฮังกรี้ ฮับ) แอพพลิเคชั่นจองร้านอาหารด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม คุมงบได้ ไม่เหมือนใครในเมืองไทย อิ่มอร่อยไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์และเซ็ตเมนู (Set Menu Sharing) ที่ร้านอาหารแบบ a la carte (อาลาคาร์ท) นวัตกรรมใหม่แห่งการพลิกโฉมศักยภาพธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในกรุงเทพฯ สร้างทางเลือกสุดฉลาดด้วยแนวการรับประทานอาหารแบบได้ประโยชน์ทั้งนักชิมและผู้ประกอบการ

ปัจจุบัน Hungry Hub มีผู้ใช้บริการจองโต๊ะร้านอาหารกว่า 280,000 คน และสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ให้กับร้านอาหารที่เข้าร่วม โดยมียอดค่าใช้จ่ายต่อการจองโต๊ะเฉลี่ย 2,100 บาท นับเป็นการเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนสูงขึ้นถึง 50% กับ 3 แพ็คเกจการรับประทานที่แตกต่างบนแอพพลิเคชั่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ All You Can Eat โปรโมชั่นอิ่มอร่อยแบบไม่อั้นแบบบุฟเฟ่ต์เฉพาะร้านอาหารที่มีเมนูอาหารตามสั่ง หรือแบบ a la carte (อาลาคาร์ท) เท่านั้น Party Pack แพ็คเกจที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอเมนูชุดพิเศษสำหรับกลุ่มนักรับประทานในร้านตั้งแต่ 2 - 4 คนขึ้นไป พร้อมส่วนลดอย่างน้อย 20% สำหรับร้านอาหารที่ไม่ค่อยมีส่วนลด และ Buffet Plus ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา กับข้อเสนอตัวเลือกเมนูพิเศษสำหรับลูกค้า Hungry Hub เท่านั้น และส่วนลดที่เพิ่มมากขึ้นจากโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ที่มีอยู่เดิมอีกด้วย

Surasit Sachdev 2
นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hungry Hub เน้นย้ำถึงเหตุผลของการเป็นแอพพลิเคชั่นจองร้านอาหารที่ดีที่สุดว่า “Hungry Hub ช่วยให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเข้าถึงโอกาสในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะการจองโต๊ะแบบกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองหรืองานเลี้ยงอาหารค่ำของบริษัท ซึ่งสามารถควบคุมงบประมาณได้ ขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ว่า จะได้ร้านอาหารที่มีสถานที่ อาหาร และบรรยากาศเหมาะสมที่สุด โดยเราจะแนะนำร้านอาหารใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย”
ด้านร้านออเดรย์ คาเฟ่ (Audrey Café) ร้านอาหารชื่อดังที่มี 8 สาขาในไทย เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เป็นพันธมิตรกับ Hungry Hub มากว่า 2 ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ที่เติบโตขึ้นในตลาดรับประทานอาหารนอกบ้าน (Dining-Out Market) โดยรายได้ประจำปีเพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท โดยมีผู้ใช้บริการผ่านแอพฯ กว่า 60,000 คน ได้รับการแสดงความคิดเห็นกว่า 4,700 รีวิว ซึ่งมากกว่า Google และ Wongnai 4 – 5 เท่า ด้วยคะแนนที่สูงขึ้น 4.5/5