Play
ซี.พี.เวียดนามรุกเต็มพิกัด ชิงตลาดอาหาร 5.7 ล้านล้าน
ซี.พี.รุกหนักขยายธุรกิจอาหารในเวียดนาม มุ่งเป้าอาหารแปรรูปและอาหารพร้อมรับประทานเสิร์ฟคนรุ่นใหม่ ชิงตลาด 5.7 ล้านล้านบาท ดันแชร์เพิ่ม 40% หลังตลาดอาหารแดนเหงียน มาแรงสุด ๆ โตปีละกว่า 20%
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัท ซี.พี. เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า ในปี 2560 ภาพรวมตลาดอาหารและเครื่องดื่มของประเทศเวียดนามมีมูลค่ารวมประมาณ 1.73 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ(หรือประมาณ 5.7 ล้านล้านบาท คำนวณที่ 33 บาท/ดอลลาร์) โดยปัจจุบัน ซี.พี. เวียดนาม มีส่วนแบ่งการตลาดเนื้อไก่สดในเวียดนาม 32% (ส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในช่องทางโมเดิร์นเทรด) และส่วนแบ่งตลาดไส้กรอก 20% (เป็นอันดับ 2 รองจากแบรนด์ VJ VISSAN ของเวียดนาม)ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ปรับภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้มีความทันสมัย
[caption id="attachment_357302" align="aligncenter" width="503"]
สำหรับกลุ่มธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารของ ซี.พี. เวียดนาม ในปัจจุบันประกอบด้วยธุรกิจอาหารแปรรูป ธุรกิจร้านค้าปลีก และธุรกิจร้านอาหารสำหรับธุรกิจแปรรูปอาหารซึ่ง ได้แก่ อาหารสด เช่น เนื้อไก่สด เนื้อหมูสด ไข่ไก่สด, อาหารแปรรูปพร้อมปรุง เช่น เนื้อไก่หมัก เนื้อหมูหมัก เต้าหู้, อาหารแปรรูปไส้กรอก, ไส้กรอกรีทอร์ท, ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป มีโรงงานของกลุ่มธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ C.P. Vietnam Corporation Food processing Hanoi Plant, C.P. Vietnam Corporation - Dong Nai Factory, C.P. Vietnam Corporation - Branch 3 in Ho Chi Minh City, และ C.P. Vietnam Corporation – Ben Tre โดยผลิตสินค้าที่แตกต่างกัน เช่นโรงงานที่ฮานอยจะผลิตไส้กรอก และไก่สดเพื่อป้อนตลาดในภาคเหนือและภาคใต้เป็นหลัก ซึ่งในอนาคตจะแตกไลน์ผลิตสินค้าแปรรูป(อาหารปรุงสุก)ให้มากขึ้น
“ในอีก1-2 ปีข้างหน้าบริษัทมีแผนจะผลิตไก่แปรรูปเพื่อส่งออก ซึ่งล่าสุดทางญี่ปุ่นได้ให้ใบอนุญาตกับซี.พี.เวียดนามเพื่อส่งสินค้าไปจำหน่ายญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งจะได้มีการพัฒนาสินค้าเพื่อส่งออกไส้กรอกไก่ไปจำหน่ายในญี่ปุ่น รวมถึงตลาดอื่น ๆ ต่อไป จากปัจจุบันสินค้าไก่สดและผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปของบริษัทเกือบ 100% จำหน่ายตลาดภายในของเวียดนามเป็นหลัก ซึ่งตลาดมีการแข่งขันสูงจากบริษัทของเวียดนามเอง และจากบริษัทต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม”
นอกจากนี้มีแผนจะขยายธุรกิจร้านอาหารซุ้มห้าดาว หรือ C.P.Five Star ที่ ซี.พี. ได้เริ่มสร้างธุรกิจไก่ทอดและเปิดดำเนินการในเวียดนามมากว่า 7 ปี ด้วยการสนับสนุนชาวเวียดนามให้มีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ปัจจุบันมีประมาณ 650 จุดทั่วประเทศ ปีหน้ามีแผนจะขยายเพิ่มเป็น 800 จุด โดยมีแผนจะแตกไลน์เป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และอาหารกล่องสำเร็จรูปที่สามารถสั่งและส่งถึงบ้านได้แบบเดลิเวอรี่
“ในปีหน้าเรายังเน้นการสร้างแบรนด์ซี.พี. และแบรนด์ห้าดาวในเวียดนาม ซึ่งทั้ง2 แบรนด์จะยังเป็นแบรนด์เรือธงของเรา ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อทำโลคอลแบรนด์สำหรับตลาดในเวียดนาม มุ่งเป้าหมายในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานมากขึ้น โดยเล็งกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ของเวียดนามที่ปัจจุบันจากประชากรของเวียดนามกว่า 95 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ทีมีอายุไม่เกิน 45 ปี สัดส่วนถึง 60% ซึ่งถือเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ยังอายุน้อยก็เยอะ คนกลุ่มนี้ทานอาหารมากกว่า 3 มือ บางคนอาจถึง 5-6 มื้อต่อวัน และนิยมรับประทานอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานมากขึ้นไม่ว่าจะทานในบ้านหรือนอกบ้าน ขณะที่ธุรกิจอาหารในเวียดนามแต่ละปีโตอย่างต่ำถึง 20% จึงเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีการแข่งขันสูง”
นายสุพัฒน์ กล่าวอีกว่า ตลาดอาหารในโมเดิร์นเทรดในเวียดนามกำลังขยายตัวสูง จากปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 30% ที่ชาวเวียดนามใช้เป็นช่องทางในการซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภค และอีก 70%ซื้อผ่านช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิม หรือร้านโชวห่วย คาดในอนาคต 3-5 ปีนับจากนี้สัดส่วนซื้อผ่านโมเดิร์นเทรดและร้านโชวห่วยจะเปลี่ยนเป็น 40 : 60 เพราะการซื้อสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ช็อปปิ้งมอลล์ หรือคอนวีเนี่ยนสโตร์ ถือเป็นเทรนด์ของเวียดนามที่คล้ายกับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจของเวียดนามที่ขยายตัวระดับ 6-7% ติดต่อกัน 8 ปีต่อเนื่อง ทำให้ชาวเวียดนามมีกำลังซื้อที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตามในส่วนของซี.พี.นอกจากจะรุกหนักจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดแล้ว จะพยายามกระจายสินค้าผ่านร้านค้าปลีกดั้งเดิมทั่วประเทศเวียดนามด้วย เพราะถือเป็นอีกช่องทางที่มีขนาดใหญ่มากกว่า 2-3 แสนจุดทั่วประเทศ
“ในปี 2562 ซี.พี.เวียดนาม จะเน้นการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานในตลาดเวียดนามมากยิ่งขึ้น ทั้งในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ติ่มซำ ซูชิ ไข่แปรรูปพร้อมรับประทานทาน และอาหารพร้อมรับประทานเรดดี้มีล พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่เข้ากับเทรนด์ในตลาด เพิ่มความหลากหลายของสินค้า เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ของเวียดนาม โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอาหารแปรรูปเป็น 40% พร้อมๆ ไปกับการบูรณาการการสื่อสารสร้างการรับรู้แบรนด์ซีพี ผ่านสื่อโฆษณาทางทีวี สื่อออนไลน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง และสร้างช่องทางจัดจำหน่ายดิจิทัลสำหรับ B2B และ B2C”
