สเปนตั้งเป้าเป็นผู้นำพลังงานหมุนเวียนภายใน30ปี
สเปน เป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่มีนโยบายเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนที่ชัดเจนและมุ่งมั่นมาก โดยภายในปี 2050 หรือในอีกกว่า 30 ปีข้างหน้า การผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในประเทศสเปนจะมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนเท่านั้น ที่กล่าวมานี้คือเป้าหมายซึ่งบรรจุอยู่ในร่างกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการปฏิรูปพลังงาน
เป้าหมายของร่างกฎหมายฉบับนี้ก็เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าของสเปนแบบยกเครื่องเพื่อให้ปลอดจากการสร้างก๊าซคาร์บอนหรือก๊าซอื่นๆที่จะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยหันมาพึ่งพลังงานหมุนเวียนแทน
เชื้อเพลิงปิโตรเลียมหรือถ่านหิน รัฐบาลสเปนตั้งเป้าลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าลง 90% เมื่อเทียบกับระดับในช่วงทศวรรษ 1990 นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้สมรรถนะในการผลิตอย่างน้อย 3,000 เมกะวัตต์ต่อปีภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า
รัฐบาลสเปนได้สั่งห้ามการออกใบอนุญาตใหม่ให้แก่โครงการขุดเจาะสำรวจเชื้อเพลิงปิโตรเลียมแล้ว และยังได้จัดสรรเงิน 1 ใน 5 ของงบประมาณประจำปีเพื่อการสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
นโยบายของรัฐบาลสเปนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นนโยบายที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล เป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศที่มุ่งมั่นต่อพันธกิจที่ให้ไว้ต่อข้อตกลงขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยมีการกำหนดมาตรการเป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในระยะยาว และให้สิทธิประโยชน์จูงใจต่อผู้ที่สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่จะช่วยลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก และยังให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของบุคลากรอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การให้การฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับเรื่องพลังงานสะอาด การให้สิทธิประโยชน์ชดเชยแก่บุคลากรของโรงงานไฟฟ้าพลังถ่านหินที่จะต้องถูกปิดตัว รวมทั้งการยกเลิกภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสนใจเข้ามาลงทุนในด้านนี้กันมากยิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่านี่อาจเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่นๆ ในโลก รัฐบาลสเปนตั้งเป้าหมายว่าก่อนจะถึงปี 2050 ที่ตั้งเป้าว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% นั้น เบื้องต้นจะทำให้ได้ก่อนที่ 35% ในปี 2030
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,424 วันที่ 6 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561
เป้าหมายของร่างกฎหมายฉบับนี้ก็เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าของสเปนแบบยกเครื่องเพื่อให้ปลอดจากการสร้างก๊าซคาร์บอนหรือก๊าซอื่นๆที่จะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยหันมาพึ่งพลังงานหมุนเวียนแทน
เชื้อเพลิงปิโตรเลียมหรือถ่านหิน รัฐบาลสเปนตั้งเป้าลดการสร้างก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าลง 90% เมื่อเทียบกับระดับในช่วงทศวรรษ 1990 นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้สมรรถนะในการผลิตอย่างน้อย 3,000 เมกะวัตต์ต่อปีภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า
รัฐบาลสเปนได้สั่งห้ามการออกใบอนุญาตใหม่ให้แก่โครงการขุดเจาะสำรวจเชื้อเพลิงปิโตรเลียมแล้ว และยังได้จัดสรรเงิน 1 ใน 5 ของงบประมาณประจำปีเพื่อการสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
นโยบายของรัฐบาลสเปนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้รับคำชื่นชมว่าเป็นนโยบายที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล เป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศที่มุ่งมั่นต่อพันธกิจที่ให้ไว้ต่อข้อตกลงขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยมีการกำหนดมาตรการเป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในระยะยาว และให้สิทธิประโยชน์จูงใจต่อผู้ที่สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่จะช่วยลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก และยังให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของบุคลากรอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การให้การฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับเรื่องพลังงานสะอาด การให้สิทธิประโยชน์ชดเชยแก่บุคลากรของโรงงานไฟฟ้าพลังถ่านหินที่จะต้องถูกปิดตัว รวมทั้งการยกเลิกภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสนใจเข้ามาลงทุนในด้านนี้กันมากยิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่านี่อาจเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่นๆ ในโลก รัฐบาลสเปนตั้งเป้าหมายว่าก่อนจะถึงปี 2050 ที่ตั้งเป้าว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% นั้น เบื้องต้นจะทำให้ได้ก่อนที่ 35% ในปี 2030
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,424 วันที่ 6 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2561
