อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ย.61 อยู่ที่ 0.94% ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
Keypoint
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 0.94%YOY ชะลอลงจาก 1.23%YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และถือเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 11 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.13%YOY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงเป็น 0.69%YOY จาก 0.75%YOY ในเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 11 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 0.71 %YOY
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าตามการชะลอของทั้งราคาพลังงานและเงินเฟ้อพื้นฐาน ดัชนีราคาพลังงานขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ 3.29%YOY จากการขยายตัวเดือนก่อนหน้าที่ 8.11%YOY ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยทั้งเดือนพฤศจิกายนที่หดตัว
- 6.91%YOY ในส่วนของดัชนีราคาหมวดอาหารสด พลิกกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 0.33%YOY หลังจากหดตัว -1.48%YOY ในเดือนก่อนหน้า สาเหตุมาจากดัชนีราคาในหมวด เนื้อสัตว์ที่ขยายตัวเร่งขึ้น 1.01%YOY จาก 0.21%YOY ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาในหมวดผักและผลไม้หดตัวลดลงที่ -3.25%YOY จากการหดตัวเดือนก่อนหน้าที่ -8.33%YOY
[caption id="attachment_356550" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงจากหลายหมวดย่อย นำโดยราคาหมวดที่อยู่อาศัย อาหารสำเร็จรูป ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า และค่าโดยสารสาธารณะ ที่ขยายตัวชะลอลงที่ 0.53%YOY 1.52%YOY 0.28%YOY 0.20%YOY และ 0.35%YOY จาก 0.59%YOY 1.54%YOY 0.70%YOY 0.47%YOY และ 0.66%YOY ในเดือนก่อนหน้า ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังคงมีผลจากฐานสูงของการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเมื่อเดือนกันยายน 2017 ของราคายาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดดังกล่าวชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องที่ 0.23%YOY จาก 0.41%YOY ในเดือนก่อนหน้า
Implication
อีไอซีปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2018 อยู่ที่ 1.1%YOY จาก 1.2%YOY ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับลดลงมามากจากช่วง 3 เดือนก่อนหน้า ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงต่อเนื่องในช่วงดังกล่าว ประกอบกับจะมีผลของปัจจัยฐานสูงของราคาน้ำมันดิบโลกที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยทั้งปี 2018 อยู่ที่ 0.7%YOY ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤศจิกายนทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า (0.00%MOM) ถือเป็นครั้งแรกที่เงินเฟ้อพื้นฐานไม่ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้านับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 (หดตัว -0.02%MOM) ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงภาวะการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ยังไม่ได้เร่งตัวมากนัก ตามรายได้ครัวเรือนที่ขยายตัวไม่สูงมาก โดยล่าสุดรายได้ทั้งนอกและในภาคการเกษตรขยายตัวชะลอลง สำหรับรายได้นอกภาคการเกษตรในช่วง 10 เดือนแรกขยายตัวได้เพียง 1.89%YOY ขณะที่รายได้เกษตรกรขยายตัวชะลอลงในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนพฤศจิกายน ขยายตัวได้เพียง 2.27%YOY หลังจากที่ขยายตัว 3.86%YOY ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดว่าในระยะข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานโดยเฉลี่ยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐที่มีการอนุมัติออกมาให้มีผลบังคับใช้ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
อีไอซีมองว่าแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนนี้จะต่ำกว่าขอบล่างของกรอบนโยบายการเงิน แต่จะไม่กระทบกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนจะชะลอลงต่ำกว่า 1.0% แต่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 ยังอยู่ที่ 1.13%YOY และคาดว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี 2018 นี้จะอยู่ที่ราว 1.1%YOY ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปี 2019 คาดว่าจะอยู่เหนือกรอบล่างที่ 1.0% เช่นกัน จึงทำให้อีไอซีมองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ครั้งแรกในรอบ 7 ปีได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ คือ ในการประชุม กนง. ในเดือนธันวาคม 2018 หรือการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ทั้งนี้ อีไอซีมองว่าปัจจัยสนับสนุนจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยในรอบธันวาคม คือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีที่คาดว่าจะอยู่ในกรอบฯ แล้ว รวมถึงจังหวะเวลาการปรับขึ้นที่ไม่ได้กระชั้นจนเกินไปกับช่วงการเลือกตั้งในประเทศที่อาจมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่เหตุผลของการปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์นั้นอาจมาจากการที่คณะกรรมการฯ บางท่านอาจต้องการรอประเมินแนวโน้มตัวเลขอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ เพื่อให้แน่ใจว่าทั้ง 2 ตัวแปรอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ อีไอซีมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2019 จะอยู่ที่ 2.0-2.5%
ที่มา : Economic Intelligence Center (EIC)
ธนาคารไทยพาณิชย์
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 0.94%YOY ชะลอลงจาก 1.23%YOY ในเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และถือเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 11 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.13%YOY ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงเป็น 0.69%YOY จาก 0.75%YOY ในเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 11 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 0.71 %YOY
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าตามการชะลอของทั้งราคาพลังงานและเงินเฟ้อพื้นฐาน ดัชนีราคาพลังงานขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ 3.29%YOY จากการขยายตัวเดือนก่อนหน้าที่ 8.11%YOY ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ยทั้งเดือนพฤศจิกายนที่หดตัว
- 6.91%YOY ในส่วนของดัชนีราคาหมวดอาหารสด พลิกกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 0.33%YOY หลังจากหดตัว -1.48%YOY ในเดือนก่อนหน้า สาเหตุมาจากดัชนีราคาในหมวด เนื้อสัตว์ที่ขยายตัวเร่งขึ้น 1.01%YOY จาก 0.21%YOY ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาในหมวดผักและผลไม้หดตัวลดลงที่ -3.25%YOY จากการหดตัวเดือนก่อนหน้าที่ -8.33%YOY
[caption id="attachment_356550" align="aligncenter" width="335"]
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงจากหลายหมวดย่อย นำโดยราคาหมวดที่อยู่อาศัย อาหารสำเร็จรูป ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า และค่าโดยสารสาธารณะ ที่ขยายตัวชะลอลงที่ 0.53%YOY 1.52%YOY 0.28%YOY 0.20%YOY และ 0.35%YOY จาก 0.59%YOY 1.54%YOY 0.70%YOY 0.47%YOY และ 0.66%YOY ในเดือนก่อนหน้า ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังคงมีผลจากฐานสูงของการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเมื่อเดือนกันยายน 2017 ของราคายาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดดังกล่าวชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องที่ 0.23%YOY จาก 0.41%YOY ในเดือนก่อนหน้า
อีไอซีปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2018 อยู่ที่ 1.1%YOY จาก 1.2%YOY ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับลดลงมามากจากช่วง 3 เดือนก่อนหน้า ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงต่อเนื่องในช่วงดังกล่าว ประกอบกับจะมีผลของปัจจัยฐานสูงของราคาน้ำมันดิบโลกที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปี ขณะที่ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยทั้งปี 2018 อยู่ที่ 0.7%YOY ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤศจิกายนทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า (0.00%MOM) ถือเป็นครั้งแรกที่เงินเฟ้อพื้นฐานไม่ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้านับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 (หดตัว -0.02%MOM) ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงภาวะการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ยังไม่ได้เร่งตัวมากนัก ตามรายได้ครัวเรือนที่ขยายตัวไม่สูงมาก โดยล่าสุดรายได้ทั้งนอกและในภาคการเกษตรขยายตัวชะลอลง สำหรับรายได้นอกภาคการเกษตรในช่วง 10 เดือนแรกขยายตัวได้เพียง 1.89%YOY ขณะที่รายได้เกษตรกรขยายตัวชะลอลงในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนพฤศจิกายน ขยายตัวได้เพียง 2.27%YOY หลังจากที่ขยายตัว 3.86%YOY ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดว่าในระยะข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานโดยเฉลี่ยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง ตามการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐที่มีการอนุมัติออกมาให้มีผลบังคับใช้ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
อีไอซีมองว่าแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนนี้จะต่ำกว่าขอบล่างของกรอบนโยบายการเงิน แต่จะไม่กระทบกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนจะชะลอลงต่ำกว่า 1.0% แต่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 ยังอยู่ที่ 1.13%YOY และคาดว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี 2018 นี้จะอยู่ที่ราว 1.1%YOY ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปี 2019 คาดว่าจะอยู่เหนือกรอบล่างที่ 1.0% เช่นกัน จึงทำให้อีไอซีมองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ครั้งแรกในรอบ 7 ปีได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ คือ ในการประชุม กนง. ในเดือนธันวาคม 2018 หรือการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ทั้งนี้ อีไอซีมองว่าปัจจัยสนับสนุนจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยในรอบธันวาคม คือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีที่คาดว่าจะอยู่ในกรอบฯ แล้ว รวมถึงจังหวะเวลาการปรับขึ้นที่ไม่ได้กระชั้นจนเกินไปกับช่วงการเลือกตั้งในประเทศที่อาจมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่เหตุผลของการปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์นั้นอาจมาจากการที่คณะกรรมการฯ บางท่านอาจต้องการรอประเมินแนวโน้มตัวเลขอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ เพื่อให้แน่ใจว่าทั้ง 2 ตัวแปรอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ อีไอซีมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2019 จะอยู่ที่ 2.0-2.5%
ที่มา : Economic Intelligence Center (EIC)
ธนาคารไทยพาณิชย์