ทั้งนี้ ยังได้ให้มีการจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5G โดย กสทช. ได้มีการตกลงกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการทดลองในพื้นที่บริเวณสยามสแควร์ ในปี 2562-2563 เพื่อสร้างความรับรู้ให้กับประชาชน ขณะที่ การเรียกคืนคลื่นความถี่ฯ ตามประกาศ ซึ่งได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 กสทช. จะตั้งคณะทำงานดำเนินการตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 และเรื่องที่ 2.จะเน้นการแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลในระยะยาว โดยจะมีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ล่วงหน้า (Early Auction) ในปี 2562 ก่อนที่คลื่นจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2563 และนำเงินที่ได้จากการประมูลมาสนับสนุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในส่วนของค่าภาระที่เกิดจากการปฏิบัติตามประกาศ Must Carry จนถึงปี 2565 รวมถึงใช้เงินกองทุนของ กสทช. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล (MUX) เพื่อสนับสนุนผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิตอล 50% ของค่าเช่าโครงข่ายจนถึงปี 2565 เช่นกัน และสุดท้าย ให้มีการสำรวจการสำรวจความนิยม (Rating) ของผู้ให้บริการทีวีดิจิตอลที่ออกอากาศผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อนำข้อมูลความนิยมไปใช้อ้างอิงเพื่อหารายได้ได้อย่างเป็นธรรม
ประเด็นที่ 3 กสทช. ได้มีการจัดทำแผนและหลักเกณฑ์การอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เพื่อรองรับมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560, 4. กสทช. ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนำเลขหมายโทรศัพท์ 191 มาใช้เป็นเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติหมายเลขเดียว (National Single Emergency Number) และ 5.ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยการประสานงานกับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือ ISP เพื่อระงับการเผยแพร่เนื้อหาทางสื่อออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย