นายกฯรับข้อเสนอหอการค้า ยินดีร่วมขับเคลื่อนปฏิรูปเศรษฐกิจ

หอการค้ายื่นสมุดปกขาวพร้อมร่วมมือรัฐขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิตอลผ่าน 3 ห่วงโซ่มูลค่าหลัก ขอไฟเขียวเชื่อมข้อมูลบิ๊กดาต้าภาครัฐสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจไทย นายกฯยินดีภาคธุรกิจร่วมปฎิรูปประเทศสู่เป้าหมายมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน วอนเลิกบิดเบือนเอื้อคนรวย ยันช่วยเหลือทุกกลุ่ม

วันนี้(2ธ.ค.2561)ที่ศูนย์ประชุมไบเทค กรุงเทพฯ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รายงานผลการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 36 ในวาระครบรอบ 85 ปีหอการค้าไทย ว่า 85 ปีประเทศไทยเปลี่ยนแปลงหลายด้าน หอการค้าทั่วประเทศเห็นโอกาสและทุ่มเทพัฒนาผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีกลุ่ม 3 ห่วงโซ่มูลค่าที่มีจุดแข็ง ซึ่งสร้างรายได้เพิ่มอย่างรวดเร็ว คือ การค้าการลงทุน เกษตรและอาหาร และท่องเที่ยว-บริการ ให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน

แนวทางไทยเท่คือ การต่อยอดจากจุดแข็งและอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้สอดคล้องกับตลาดและยุคสมัย เชื่อมโยงต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจประเทศและตลาดโลก โดยดอกผลการพัฒนากระจายอย่างเท่าเทียมทั่วถึง บนฐานความยั่งยืนของสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจแบ่งปันสร้างสรรค์

หอการค้าทั่วประเทศเห็นด้วยและยินดีกับแนวทางปรับเปลี่ยนสู่ดิจิตอลของรัฐบาล ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมถึงยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดและจังหวัดที่สอดคล้องไปกับทิศทางใหญ่ และขอบคุณที่ผลักด้นเพิ่มความง่ายการทำธุรกิจ ลดอุปสรรคการติดต่อภาครัฐ สร้างระบบอี เพย์เมนท์ ที่ทำให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ข้อเสนอจากการปะชุมใหญ่ครั้งนี้ 1.กลุ่มการค้าการลงทุน มุ่งนวัตกรรมสร้างสรรค์ ต่อยอดจากฐานเดิมเติบโตสู่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การค้าชายแดนและผ่านแดนที่เติบโตสูงมาก ขอให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานรัฐให้มีความชัดเจนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระเบียบกฎเกณฑ์ รวมทั้งขอให้เอกชนเข้าถึงข้อมูลบิ๊กดาต้าของภาครัฐ เพื่อใช้วิเคราะห์และวางแผนได้ และการท่องเที่ยวชุมชนนั้นได้ใช้ Digital Tourism Platform เชื่อมโยงให้ขยายตัวได้อย่างมาก

2.กลุ่มเกษตร-อาหาร มีโครงการไปร่วมมือภาคเกษตรจำนวนมาก เช่น 1หอการค้า 1สหกรณ์การเกษตร มีความร่วมมือแล้วกว่า 175 สหกรณ์ โครงการ1ไร่1แสนที่ประสบความสำเร็จ จะยกระดับเป็น 1ไร่1ล้าน ปรับการผลิตให้สอดคล้องกับตลาด

3.กลุ่มท่องเที่ยว-บริการ มุ่งท่องเที่ยวชุมชน มีโครงการ 1หอการค้า1แหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้มีคนดูแลชัดเจน เข้าถึงสะดวก เชื่อมโยงให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เช่น เส้นทางทัวร์ริมโขง

นายกลินท์กล่าวช่วงท้ายว่า นอกจากนี้เรื่องการศึกษาและพัฒนาแรงงาน ก็เป็นหัวข้อสำคัญ อนาคตจะเปลี่ยนระบบการผลิตมาใช้ระบบอัตโนมัติมากขึ้น ต้องเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง โดยหอการค้าทั่วประเทศพร้อมร่วมมือรัฐทำโครงการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และเพิ่มรายได้ลดความเหลื่อมล้ำของประชากร โดยมีแผนงานและกรอบเวลาที่ชัดเจน(ตามแผนภูมิ)
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับมอบสรุปผลการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ และกล่าวปาฐกถา “การปฎิรูปประเทศสู่ไทยมั่นคง ไทยมั่งคั่ง ไทยยั่งยืน” ว่า หอการค้าเป็นข้อต่อหนึ่งของเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชองประเทศ มีความสำคัญที่จะช่วยปฎิรูปประเทศไทยสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน

การปฎิรูปต้องมองให้เห็นปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น พร้อมกันต้องเห็นโอกาสในอนาคตด้วย ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และเราจะต้องวางแผนเตรียมตัวรับมืออย่างไร จึงได้มีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และต้องลงมือทำตั้งแต่วันนี้ ซึ่งรัฐบาลก็ทำมาตลอด เป็นการปฎิรูปทั้งสิ้น เช่น การอำนวยความสะดวกการทำธุรกิจ กฎหมายขายฝาก เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน และต้องทำต่อเนื่องไปเพราะการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ไม่ใช่ทำปุ๊บเกิดได้ปั๊บ

“แต่ก็มีคนบิดเบือนอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน หาว่าจะสืบทอดอำนาจ 20 บ้าง เอื้อแต่คนรวยบ้าง หรือว่ามีแต่ 0.4 ไม่ใช่ 4.0 บ้าง ใครว่าจะให้เป็น 4.0 ทั้งหมดละ ก็ต้องมีทั้ง 1.0 2.0 3.0 แต่หน้าที่ของรัฐบาลคือ ใครพร้อมก็ขยับขึ้นไป ใครยังไปไม่ได้ก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ เราต้องดูแลกันไปทั้งหมด. จะทอดทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้ ไม่ใช่หาเสียง และการช่วยก็ต้องขอบเขต ต้องระวังเรื่องวินัยการเงินการคลัง ระวังไม่ให้ต้องอุ้มกันตลอดไป โดยไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ ใครมาเป็นก็ต้องบริหารแบบนี้”

พล.อ.ประยุทธ์ เวลานี้ประเทศไทยติดกับดักทางความคิด ประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกตั้งก็สำคัญ แต่ไม่ใช่อย่างเดียว ยังต้องมีความเชื่อมั่นเชื่อถือของประชาคมโลก พูดกันไปว่ามีเลือกตั้งแล้วเงินจะสะพัด 4-5 หมื่นล้าน มาจากไหนเม็ดเงินขนาดนี้ ยอมไม่ได้ถ้าเป็นเงินนอกระบบแล้วจะกลับมาอีก เพราะใช้ไปก็ไม่เข้มแข็งไม่ยั่งยืน

สิ่งที่รัฐจะทำได้คือสร้างโอกาสให้ทุกคน โอกาสแห่งความเท่าเทียมที่มีให้ทุกคนได้คือ เท่าเทียมทางกฎหมาย ไม่ว่าใครก็อยู่ใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน อย่าให้พูดได้ว่าคุกมีไว้ขังเฉพาะคนจน อยู่ที่กระบวนการต่อสู้คดี ใครไม่พร้อมก็จัดเสริมให้เช่นกองทุนยุติธรรม ทนายความ ให้ทุกคนเข้าถึงได้

ช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า วันนี้นักการเมืองออกมาหาเสียงกันแล้ว บางคนว่าเข้ามาแล้วจะล้มนั่นล้มนี่ พูดเพื่อประโยชน์อะไร มาแข่งกันว่าใครจะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ดีกว่าหรือ เพราะกว่าจะทำมาถึงตรงนี้ได้ก็ใช้เวลา ผมก็ทำเต็มที่สุดชีวิตของผม ที่สำคัญไปถามเขาดูสิว่าจะแก้ทุจริตคอรัปชั่นอย่างไร