"จอร์จ บุช"ประธานาธิบดีคนที่ 41 สหรัฐถึงแก่อสัญกรรมในวัย94ปี

01 ธ.ค. 2561 | 06:13 น.
"จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช" ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมริกาถึงแก่อสัญกรรมในวัย 94 ปี อย่างสงบที่บ้านเกิดในรัฐเท็กซัส

บุช

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา วัย 94 ปี ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ ที่บ้านพักในเมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส จากคำแถลงของนายจิม แมกกรัท โฆษกส่วนตัว โดยเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา นางบาร์บารา บุช วัย 92 ปี ภริยาของนายจอร์จ บุช ก็ได้เสียชีวิตหลังล้มป่วย
นายจอร์จ บุช หรือชื่อเต็มว่า "จอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์กเกอร์ บุช" หรือ "จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช" เป็นประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมริกา ระหว่างพ.ศ.2532-2536)

ในแถลงการณ์ของ "จอร์จ ดับเบิลยู. บุช" ประธานาธิบดีคนที่ 43 ของสหรัฐอเมริกา ระบุ บิดาได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบแล้ว หลังจากที่มีชีวิตอันน่าจดจำตลอด 94 ปีที่ผ่านมา "พ่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุตรและธิดาทุกคน ครอบครัวบุชต่างรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง สำหรับประชาชนที่รักและภาคภูมิใจในประธานาธิบดีคนที่ 41 ของประเทศ ทุกๆ คนที่ต่างเฝ้าห่วงใยและเป็นกำลังใจให้พ่อมาเสมอ"

นายจอร์จ บุช เกิดที่รัฐแมสซาซูเซตส์ เมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ.2468 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเนล เคยเป็นนักบินในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำองค์การสหประชาชาติ เคยเป็นผู้อำนวยการใหญ่ซีไอเอ และรองประธานาธิบดีในสมัยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน จากพรรครีพับลิกัน และลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีหลังจากหมดสมัยของเรแกน

ขณะที่ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐฯ เป็นยุคที่เกิดความเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นยุคการล่มสลายของสหภาพโซเวียด การทลายตัวลงของกำแพงเบอร์ลิน และเกี่ยวข้องกับช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย
โดยหลังจากสิ้นวาระหน้าที่ของผู้นำลงไปแล้ว เขาก็ยังมีส่วนช่วยผลักดันให้ลูกชาย จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เข้าสู่เส้นทางการเมืองและกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาให้หลังอีก 8 ปีต่อมา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ พร้อมด้วยนางเมลาเนีย ภริยา ออกมาแสดงความอาลัยต่อการเสีย ชีวิตของอดีตประธานาธิบดีบุฑ์ พร้อมกับยกย่องว่า บุฑ์อุทิศเวลาทั้งชีวิตเพื่อรับใช้ประเทศข้าติ และยังเป็น ผู้นําที่มุ่งมั่นแน่วแน่ในช่วงเวลาอันมืดมิดของสงครามเย็น ด้วยความน่าเชื่อถือของท่าน การใช้ปัญญาโดย ปราศจากการมีอารมณ์ร่วม การยึดมั่นในพันธกรณีที่มีต่อศรัทธา ครอบครัว และประเทศชาติ ประธานาธิบดีบุฑ์ เป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนชาวอเมริกันที่จะทํางานรับใช้สังคม เช่นดังที่ท่านเคยพูดไว้ว่าท่านเป็น “หนึ่งใน แสงไฟนับพันที่ส่องสว่างให้เกิดความยิ่งใหญ่ ความหวัง และโอกาสสําหรับคนอเมริกันบนโลกใบนี้”

ด้านนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมด้วยนางมิเซล โอบามา ภริยา ออกแถลงการณ์ระบุ อเมริกาได้สูญเสียทหารกล้าและผู้รับใช้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน จอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์กเกอร์ บุฑ์ แม้ในวันนี้หัวใจ ของเราจะเต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกขําบซึ้งใจและขอบคุณ ไม่ใช่ เพียงเพราะท่านได้ใช้เวลาหลายปีในการทําหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 41 แต่เป็นเพราะช่วงเวลากว่า 70 ปีที่ท่านอุทิศตนเพื่อทํางานรับใช้ประเทศชาติอันเป็นที่รัก ตั้งแต่เป็นนักบินที่เกือบจะต้องสละชีวิตในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 มาเป็นผู้บังคับบัญชาในกองทัพสหรัฐ และงานอีกมากมายของท่านหลังจากนั้น ตั้งแต่ เอกอัครราฑ์ทูตสหรัฐประจําสหประจําชาติ ผู้อํานวยการสํานักข่าวกรองกลาง เอกอัครราชทูตสหรัฐประจําจีน รองประธานาธิบดี และประธานาธิบดีสหรัฐ

แถลงการณ์ของโอบามากล่าวด้วยว่า หลังจากใช้ชีวิตแต่งงานมานานกว่า 73 ปี ในที่สุดจอร์จและบาร์บารา บุช ก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นไฟ 2 ดวงที่ไม่เคยอ่อนแสงลง และเป็นไฟ 2 ดวงที่จุดประกายให้ กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุดจากสิ่งที่ท่านได้ทําเป็นตัวอย่างให้ผู้คนได้เห็น

ขณะที่อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน พร้อมด้วยนางฮิลลารี คลินตัน ภริยา และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐ ระบุว่า เรารู้สึกเศร้าโศกอย่างยิ่งต่อการจากไปของท่านประธานาธิบดีจอร์จ เอซ์.ดับเบิลยู. บุฑ์ และขอ แสดงความขอบคุณต่อการอุทิศตนเพื่อรับใช้สังคมอย่างยาวนานของท่าน พร้อมด้วยความรักและมิตรภาพที่มี ต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนจะระลึกถึงด้วยความซาบซึ้งใจตลอดไป นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันเมื่อครั้งที่ตนเป็นผู้ ว่าการรัฐรุ่นใหม่ที่ได้รับเชิญไปยังบ้านของครอบครัวบุช ตนรู้สึกตกตะลึงกับความมีน้ําใจที่ท่านมอบให้กับเซล ซี ด้วยสมบัติผู้ดีที่แท้จริง และด้วยการที่ท่านอุทิศตนให้กับบาร์บารา ภริยา ลูกและหลานของท่านทุกคน
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว