เร่งรถไฟฟ้ารางเบานครพิงค์ ครม.เคาะ‘พีพีพี’ปลายปี62

05 ธ.ค. 2561 | 01:30 น.
รถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่คืบหน้า รฟม.เร่งคัดเลือกที่ปรึกษาออกแบบ ก่อนสรุปเสนอครม.พิจารณารูปแบบร่วมลงทุนได้ปลายปี เตรียมเสนอครม.พิจารณารูปแบบการร่วมลงทุน สายแรกร.พ.นครพิงค์-หางดง คาดเริ่มก่อสร้างต้นปี 2564

นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 3/2561 ติดตามความคืบหน้าของผลการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งแนวทางการบริการจัดการความเร็วในพื้นที่ชุมชน ตลอดจนผลกระทบกับปัญหาการจราจรในตัวเมือง

รางเบาเชียงใหม่

ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รายงานความคืบหน้า การดำเนินโครงการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นที่ปรึกษาการดำเนินการศึกษา และได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชน ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) ได้มีความคิดเห็นว่าควรดำเนินการก่อสร้างครั้งละ 1 เส้นทาง

โดยรฟม.ศึกษารายละเอียดความเหมาะสมรูปแบบโครงสร้างทางวิ่งผสมระหว่างใต้ดินและระดับดิน (โครงข่าย A) เป็นระบบรถไฟฟ้าแบบรางเบา (Light Rail Transit : LRT) อยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้ ผ่านพื้นที่กิจกรรมหลักสำคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ , ศูนย์ราชการเชียงใหม่, สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, ศูนย์ประชุมนานาชาติ, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียง ใหม่, สถานีขนส่งช้างเผือก, โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ, สนามบินนานาชาติเชียงใหม่, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต, สำนักงานขนส่งจังหวัด และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีหางดง

ด้าน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ ไทย (รฟม.) ได้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาเพื่อศึกษาการออกแบบ และการดำเนินตาม พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของภาครัฐ จัดทำรายงาน EIA คาดว่าจะเริ่มงานประมาณต้นปี 2562 และเสนอครม.พิจารณารูปแบบ การร่วมลงทุนประมาณปลายปี 2562 หลังจากนั้นจะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนประมาณต้นปี 2563 และจะเริ่มงานการก่อสร้างประมาณต้นปี 2564 ซึ่งมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 69 เดือน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในต้นปี 2570

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,423 วันที่ 2-5 ธันวาคม 2561

[caption id="attachment_356550" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]