ไมโครซอฟท์ติดเครื่อง AI หนุนองค์กรใช้‘ปัญญาประดิษฐ์พลิกสู้ ดิจิตอลดิสรัปชัน
ไมโครซอฟท์ ชูแนวคิด “AI for Thailand” หนุนองค์กรใช้ “ปัญญาประดิษฐ์” พลิกธุรกิจยุคดิจิตอล ดิสรัปชัน ชี้ปี 62 องค์กรขนาดกลางเริ่มขยับลงทุน เตรียม หนุนสตาร์ตอัพ พัฒนาผลิตภัณฑ์เจาะ พร้อมผนึกดีป้า-ดีอี พัฒนา “นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล” ช่วยภาคธุรกิจ
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า งานวิจัยที่ไมโครซอฟท์จัดทำขึ้นร่วมกับไอดีซีระบุว่าเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือ IoT เป็นนวัตกรรมอันดับ 1 ที่กำหนดทิศทางในอนาคตของธุรกิจทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในฐานะฟันเฟืองหลักที่จะขับเคลื่อนวิถีชีวิตและโลกธุรกิจไปสู่ยุคใหม่ที่ชาญฉลาดขึ้น
การวางรากฐานให้ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และสังคมไทยได้อย่างลงตัวและเต็มประสิทธิภาพนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญใน 4 ด้านหลักๆ ประกอบด้วย 1.การพัฒนาทักษะเชิงดิจิตอลให้กับคนไทยอย่างทั่วถึง, 2.การปรับแต่งเทคโนโลยีให้เข้ากับสภาพการใช้งานจริง เช่นในด้านของภาษา วัฒนธรรม หรือแม้แต่กฎหมายและกรอบนโยบาย, 3.การยกระดับเครือข่ายพันธมิตรและนักพัฒนาทั่วประเทศให้นำ AI มาใช้ได้อย่างเต็มที่ และ 4.ความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ ออกแบบ และปรับแต่งผลิตภัณฑ์และบริการมาโดยเฉพาะ เพื่อความสำเร็จของลูกค้าในประเทศไทย”
ทั้งนี้ประเมินว่าประเทศไทยมีโอกาสจากการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI มาช่วยพลิกธุรกิจในยุคดิจิตอลดิสรัปชัน โดยขณะนี้กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่มีการใช้งานเทคโนโลยี AI แล้ว อาทิ กลุ่มธนาคารเกือบทั้งหมด กลุ่ม ปตท. มีการนำเทคโนโลยี แชตบอต ไปให้สื่อสารข้อมูลกับพนักงานทางด้านสวัสดิการต่างๆ หรือ กลุ่มปูนซิเมนต์ไทยที่ฝ่ายจัดซื้อ มีการนำ AI ไปใช้ในการจัดการสินค้าคงคลัง ขณะที่กลุ่มค้าปลีกอันดับ 1 ของประเทศ ที่เริ่มนำแชตบอต มาให้บริการกับผู้ถือบัตรสมาชิก ขณะที่กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับ AI น้อยสุด คือหน่วยงานภาครัฐ
ส่วนกลุ่มที่มองว่าจะเริ่มลงทุนนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในปีหน้า คือ กลุ่มองค์กรขนาดกลาง ซึ่งมุมมองของไมโครซอฟท์ นั้นมองว่าการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ขององค์กรขนาดกลาง มีด้วยกัน 2 แนวทาง คือการนำเทคโนโลยีที่อยู่แล้วในตลาดมาประยุกต์ใช้ให้เร็วสุด หรือการร้างเทคโนโลยีของตัวเองที่มีความเป็นเฉพาะตัวของตัวเองขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ประเทศ ไทย จะมุ่งโฟกัสเรื่อง “AI for Thailand” มุ่งนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาช่วยพลิกโฉมประเทศไทย โดยวางตำแหน่งตนเองเป็น “แพลตฟอร์ม” มุ่งเน้นการให้การสนับสนุนกับกลุ่มสตาร์ตอัพ ที่พัฒนาบริการที่เกี่ยวข้องกับ AI อาทิ แชตบอตหรือ ตรวจจับภาพ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการไปยังกลุ่มองค์กรขนาดกลาง โดยขณะนี้มีสตาร์ตอัพ ที่พัฒนาบริการบนแพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟท์ อะชัวร์ อยู่มากกว่า 10 ราย
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิตอล โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล” หรือ “Data Scientists” ขึ้นมา เพื่อกระจายบุคลากรเหล่านี้ไปช่วยองค์กรธุรกิจต่างๆ
นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่าสิ่งที่องค์กรยุคเก่า สามารถแข่งขันกับสตาร์ตอัพ หรือธุรกิจใหม่ๆ ได้ คือ ข้อมูล แต่จะต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาทำให้ฉลาดมากขึ้น สามารถนำข้อมูลมา พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งจุดยืนของไมโครซอฟท์นั้น มองว่าเทคโนโลยี AI ไม่ได้เข้ามาทำงานแทนมนุษย์ แต่จะเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานของมนุษย์
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,423 ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2561
การวางรากฐานให้ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และสังคมไทยได้อย่างลงตัวและเต็มประสิทธิภาพนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญใน 4 ด้านหลักๆ ประกอบด้วย 1.การพัฒนาทักษะเชิงดิจิตอลให้กับคนไทยอย่างทั่วถึง, 2.การปรับแต่งเทคโนโลยีให้เข้ากับสภาพการใช้งานจริง เช่นในด้านของภาษา วัฒนธรรม หรือแม้แต่กฎหมายและกรอบนโยบาย, 3.การยกระดับเครือข่ายพันธมิตรและนักพัฒนาทั่วประเทศให้นำ AI มาใช้ได้อย่างเต็มที่ และ 4.ความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ ออกแบบ และปรับแต่งผลิตภัณฑ์และบริการมาโดยเฉพาะ เพื่อความสำเร็จของลูกค้าในประเทศไทย”
ทั้งนี้ประเมินว่าประเทศไทยมีโอกาสจากการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI มาช่วยพลิกธุรกิจในยุคดิจิตอลดิสรัปชัน โดยขณะนี้กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่มีการใช้งานเทคโนโลยี AI แล้ว อาทิ กลุ่มธนาคารเกือบทั้งหมด กลุ่ม ปตท. มีการนำเทคโนโลยี แชตบอต ไปให้สื่อสารข้อมูลกับพนักงานทางด้านสวัสดิการต่างๆ หรือ กลุ่มปูนซิเมนต์ไทยที่ฝ่ายจัดซื้อ มีการนำ AI ไปใช้ในการจัดการสินค้าคงคลัง ขณะที่กลุ่มค้าปลีกอันดับ 1 ของประเทศ ที่เริ่มนำแชตบอต มาให้บริการกับผู้ถือบัตรสมาชิก ขณะที่กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับ AI น้อยสุด คือหน่วยงานภาครัฐ
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์ประเทศ ไทย จะมุ่งโฟกัสเรื่อง “AI for Thailand” มุ่งนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาช่วยพลิกโฉมประเทศไทย โดยวางตำแหน่งตนเองเป็น “แพลตฟอร์ม” มุ่งเน้นการให้การสนับสนุนกับกลุ่มสตาร์ตอัพ ที่พัฒนาบริการที่เกี่ยวข้องกับ AI อาทิ แชตบอตหรือ ตรวจจับภาพ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการไปยังกลุ่มองค์กรขนาดกลาง โดยขณะนี้มีสตาร์ตอัพ ที่พัฒนาบริการบนแพลตฟอร์มคลาวด์ของไมโครซอฟท์ อะชัวร์ อยู่มากกว่า 10 ราย
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิตอล โดยเฉพาะ “นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล” หรือ “Data Scientists” ขึ้นมา เพื่อกระจายบุคลากรเหล่านี้ไปช่วยองค์กรธุรกิจต่างๆ
นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่าสิ่งที่องค์กรยุคเก่า สามารถแข่งขันกับสตาร์ตอัพ หรือธุรกิจใหม่ๆ ได้ คือ ข้อมูล แต่จะต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาทำให้ฉลาดมากขึ้น สามารถนำข้อมูลมา พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งจุดยืนของไมโครซอฟท์นั้น มองว่าเทคโนโลยี AI ไม่ได้เข้ามาทำงานแทนมนุษย์ แต่จะเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานของมนุษย์
หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,423 ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2561
