SISB ต้านไม่ไหว เทรดวันแรกต่ำจอง 3.84%
SISB เทรดวันแรกต่ำจอง 3.84% ยอมรับมาจากกระแสข่าวเชิงลบ กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน เผยศาลนัดก.ล.ต.ให้ข้อมูล 7 ธันวาคมนี้ ด้านตลท.ยังรอข้อมูลใหม่ ย้ำดำเนินการตามกฎระเบียบทุกอย่าง
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) (SISB) เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้น SISB เปิดการซื้อขายวันแรกราคาต่ำกว่าราคาจองที่หุ้นละ 5.20 บาทนั้น มาจากกระแสข่าวเชิงลบ และหนักสุดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้มีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่บริษัทไหนเจอกระแสแบบนี้ก็ต้องหวั่นไหว โดยไม่เกี่ยวกับราคาหุ้นแพงและพีอีสูง และในแง่ของพื้นฐานบริษัทยังคงดี
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งการที่จะพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้นนั้น ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ขณะเดียวกัน ยังมีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติที่สนใจจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อีก แต่ต้องรอดูสถานการณ์และความชัดเจนของกรณี SISB ก่อน ส่วนการที่มีคนยื่นฟ้องร้องต่อศาลนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ทั้งนี้ ทางศาลจะนัดให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ข้อมูลในวันที่ 7 ธันวาคม 2561
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กรณีที่นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งทนายความไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ ก.ล.ต.ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของ SISB นั้น ทางตลท.อยู่ระหว่างรอข้อมูลใหม่จากหน่วยงานที่กำกับจะสั่งกลับมา จากนั้นจะมีการสอบข้อมูลใหม่ โดยที่ผ่านมา ยืนยันว่าตลท.มีการดำเนินงานตามกฎระเบียบต่างๆ มาตลอด ซึ่งการที่จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องมีการเปิดเผยข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนของบริษัทได้ทำตามกฎหมายถูกต้อง และก.ล.ต.ได้มีการตรวจสอบก่อนเข้าจดทะเบียน ซึ่งส่วนตัวไม่มีความกังวลที่เกิดกรณีฟ้องร้องต่อศาล และยังตอบไม่ได้ว่าผลจะเป็นอย่างไร และต้องรอดูสถานการณ์ก่อน ส่วนกรณีเรื่องภาษีที่โรงเรียนเอกชนได้รับการยกเว้นนั้น หากรัฐเห็นควรที่จะจัดเก็บภาษี ทางโรงเรียนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม นอกจากนี้ เหตุผลที่เข้ามาระดมทุน เนื่องจากการทำโรงเรียนนานาชาติจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยการเข้าถึงแหล่งเงินทุนค่อนข้างยาก และธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยเงินกู้ จึงใช้วิธีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และเพิ่มประสิทธิภาพของโรงเรียน
สำหรับราคาหุ้น SISB ทันทีที่เปิดตลาดซื้อขายวันแรกอยู่ที่ 5.00 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 3.84% จากราคาไอพีโออยู่ที่ 5.20 บาท และปิดการซื้อขายช่วงเช้าอยู่ที่ 4.90 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 5.77% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 443.10 ล้านบาท โดย SISB มีพีอีอยู่ที่ 59.59 เท่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 4,888 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เนื่องจากธุรกิจสถานศึกษา SISB เป็นธุรกิจที่ใหม่ในตลาดหุ้นไทย แต่หากเทียบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในต่างประเทศมีพีอีเฉลี่ยที่ 36 เท่า อย่างไรก็ตามมองว่าด้วยพีอีปัจจุบันของหุ้นที่สูงถึง 60 เท่า เมื่อเทียบกับการเติบโตในอดีตและแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการในอนาคตยังจัดว่าค่อนข้างสูง แนะนำให้รอดูแผนการลงทุนในอนาคตที่ชัดเจนหรือการขึ้นค่าเทอมเพื่อเพิ่มผลประกอบการ จึงจะทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นชดเชยพีอีที่สูง โดยที่มีความเสี่ยงสำคัญคือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร, ปริมาณของ expat และการแข่งขันในกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) (SISB) เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้น SISB เปิดการซื้อขายวันแรกราคาต่ำกว่าราคาจองที่หุ้นละ 5.20 บาทนั้น มาจากกระแสข่าวเชิงลบ และหนักสุดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจนถึงวินาทีสุดท้าย ทำให้มีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่บริษัทไหนเจอกระแสแบบนี้ก็ต้องหวั่นไหว โดยไม่เกี่ยวกับราคาหุ้นแพงและพีอีสูง และในแง่ของพื้นฐานบริษัทยังคงดี
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งการที่จะพัฒนาการศึกษาให้ดีขึ้นนั้น ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ขณะเดียวกัน ยังมีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติที่สนใจจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์อีก แต่ต้องรอดูสถานการณ์และความชัดเจนของกรณี SISB ก่อน ส่วนการที่มีคนยื่นฟ้องร้องต่อศาลนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ทั้งนี้ ทางศาลจะนัดให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ข้อมูลในวันที่ 7 ธันวาคม 2561
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กรณีที่นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งทนายความไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ ก.ล.ต.ระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของ SISB นั้น ทางตลท.อยู่ระหว่างรอข้อมูลใหม่จากหน่วยงานที่กำกับจะสั่งกลับมา จากนั้นจะมีการสอบข้อมูลใหม่ โดยที่ผ่านมา ยืนยันว่าตลท.มีการดำเนินงานตามกฎระเบียบต่างๆ มาตลอด ซึ่งการที่จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะต้องมีการเปิดเผยข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว
สำหรับราคาหุ้น SISB ทันทีที่เปิดตลาดซื้อขายวันแรกอยู่ที่ 5.00 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 3.84% จากราคาไอพีโออยู่ที่ 5.20 บาท และปิดการซื้อขายช่วงเช้าอยู่ที่ 4.90 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 5.77% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 443.10 ล้านบาท โดย SISB มีพีอีอยู่ที่ 59.59 เท่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโออยู่ที่ 4,888 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เนื่องจากธุรกิจสถานศึกษา SISB เป็นธุรกิจที่ใหม่ในตลาดหุ้นไทย แต่หากเทียบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในต่างประเทศมีพีอีเฉลี่ยที่ 36 เท่า อย่างไรก็ตามมองว่าด้วยพีอีปัจจุบันของหุ้นที่สูงถึง 60 เท่า เมื่อเทียบกับการเติบโตในอดีตและแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการในอนาคตยังจัดว่าค่อนข้างสูง แนะนำให้รอดูแผนการลงทุนในอนาคตที่ชัดเจนหรือการขึ้นค่าเทอมเพื่อเพิ่มผลประกอบการ จึงจะทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นชดเชยพีอีที่สูง โดยที่มีความเสี่ยงสำคัญคือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร, ปริมาณของ expat และการแข่งขันในกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ
