บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
ราคาทองคำยังมีกำลังซื้อที่ไม่มากนัก แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของราคาโซน 1,212-1,209 หากไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นไปที่รอจังหวะราคาอ่อนตัวลงจึงพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว
ราคาทองคำยังคงพยายามยืนเหนือ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หลายชั่วโมง มีแนวโน้มจะขึ้นทดสอบ 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,209 และแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,200-1,196 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,209 1,196 1,187
แนวต้าน 1,237 1,244 1,256
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังถ้อยแถลงของนาย Richard Clarida รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังคงสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงมีท่าทีในเชิงพิราบ(Dovish Tone) น้อยกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์และน้อยกว่าที่เคยแสดงความเห็นในวันที่ 16 พ.ย. นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ คาดว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ 25% จากระดับปัจจุบัน 10% และย้ำว่าจะเรียกการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าที่เหลืออยู่ทั้งหมดจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ หากตนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนประสบความล้มเหลวในการเจรจาข้อตกลงการค้า ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยไว้จนกดดันราคาทองคำ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีประจำไตรมาส 3/2018 ของสหรัฐ, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งยอดขายบ้านใหม่และดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดริชมอนด์ อีกทั้งต้องจับตาแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคตว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด