บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เน้นทำกำไรระยะสั้น โดยอาจต้องพิจารณาโซน 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ อย่างไรก็ตามหากราคาปรับตัวขึ้นไปและสามารถยืนเหนือ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเลือกลดสถานะขายลง
ราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวโซนแนวต้าน 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ มีผลให้ราคายังคงมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบเช่นเดิม โดยเมื่อราคาอ่อนตัวลงประเมินแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นหากมีแรงขายทำกำไรออกมาแต่หากตลอดทั้งวันยังสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ คาดจะว่าเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ราคาขยับขึ้นอีกครั้ง
แนวรับ 1,209 1,196 1,187
แนวต้าน 1,237 1,244 1,256
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากในระหว่างวันขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,228.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของยูโร หลังแหล่งข่าวจากรัฐบาลอิตาลีเปิดเผยว่า พรรครัฐบาลกำลังพิจารณาปรับลดตัวเลขเป้าหมายขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2% ของ GDP ในปี 2019 จากเดิมที่ระดับ 2.4% เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษของสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังคงส่งผลเชิงบวกต่อราคาต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ดีทองคำลดช่วงบวกลงจากแรงขายทำกำไร ประกอบกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงจนหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น หลังนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยอมรับถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในยุโรป ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีจาก Ifo ที่ลดลงเกินคาดสู่ระดับ 102.0 ในเดือนพ.ย. ส่งผลกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาปิดระดับบริเวณ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงวานนี้ -1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย.โดย S&P/CSและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก CB รวมไปถึงถ้อยแถลงของนาย Richard Clarida รองประธานเฟดและนาย Raphael Bosticประธานเฟดสาขาแอตแลนตา
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด