"100 สมาชิกเพื่อไทย" ยื่นลาออก แห่ซบ 3 พรรคใหญ่

26 พ.ย. 2561 | 11:46 น.
"เพื่อไทย" กระอัก 100 สมาชิกซิ่งหนี ยื่นลาออกผ่าน กกต. แห่ซบ "พลังประชารัฐ-ไทยรักษาชาติ-ชาติไทยพัฒนา" ขณะ 'นาถยา' โบกมือลา ปชป. ด้าน กกต. รับรองเพิ่มอีก 5 พรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตลอดทั้งวันที่ 26 พ.ย. 2561 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ที่ต้องการลงเลือกตั้ง ส.ส. ต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ว่า ตลอดทั้งวันมีสมาชิกจากพรรคการเมืองเดินทางมายื่นใบลาออกจากพรรคที่สังกัดอยู่เดิมเป็นจำนวนมาก โดยมียอดการยื่นขอลาออกกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)

ทั้งนี้ ผู้ที่มายื่นลาออกบางคนยอมเปิดเผยพรรคใหม่ที่จะไปสังกัด ขณะที่ บางคนยอมรับว่า ไม่แน่ใจว่า การมายื่นใบลาออกในวันนี้ และจะเดินทางไปสังกัดพรรคใหม่ทันทีนั้นจะทัน และทำได้ตามกฎหมายหรือไม่ และอีกส่วนหนึ่งเกรงว่า หากยื่นลาออกกับนายทะเบียนสมาชิกที่พรรคการเมืองเก่า ก็ไม่มั่นใจทางพรรคจะส่งมาให้นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือไม่ เกรงจะถูกหลอก หรือ ดึงชื่อไว้


พท.ลาออก1

นายศิริพงษ์ รัสมี อดีตประธานสมาชิกสภาเขตหนองจอกและอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ทีม ส.ก. และ ส.ข. ที่เคยเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่เขตหนองจอก เดินทางมา กกต. เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานะของตัวเองว่า มีการถอดรายชื่อตัวเองและทีมงานออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ได้มาติดตามความคืบหน้าจาก กกต. หลังได้ยื่นลาออกจากพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2561 และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว ที่ลาออกส่วนหนึ่งมาจากเหตุที่อดีต 2 นายกรัฐมนตรีของพรรคนี้ ได้หนีคดีและหลบหนีไปต่างประเทศ เพื่อความสบายใจ จึงขอลาออก และยอมรับว่า ได้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ด้วยเหตุผลว่า พรรคนี้เป็นพรรคของทุกคนทุกภาคส่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในจำนวนผู้มาลาออก มี นางนาถยา เบญจศิริวรรณ อดีต ส.ส.กทม.เขตประเวศ พรรคประชาธิปัตย์ แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธข่าวการย้ายพรรค โดยยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ยังคงอยู่พรรคเดิม มา กกต. ในวันนี้ เพราะมาทำธุระให้น้องสาว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า นางนาถยาได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อเจ้าหน้าที่ กกต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


พท.ลาออก2

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเรื่องการตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อนหรือไม่นั้น เป็นปัญหาสำหรับพรรคการเมืองในขณะนี้ เนื่องจากระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคที่ กกต. เปิดให้ตรวจสอบ สามารถตรวจสอบได้เฉพาะการเป็นสมาชิกที่พรรคการเมืองได้รายงานผลการยืนยันการเป็นสมาชิกเมื่อเดือน เม.ย. เท่านั้น หลักจากนั้น กกต. ไม่ได้ให้รหัสกับพรรคการเมือง เพื่อที่จะนำเข้าข้อมูลสมาชิกใหม่ที่มีการรับสมัคร เนื่องจากต้องการปรับปรุงระบบฐานข้อมูล โดยได้รับการอนุมัติงบประมาณจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน 20 ล้านบาท ในการนำมาพัฒนาระบบ แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ จนกระทั่งใกล้ช่วงเส้นตายของการสังกัดพรรค 90 วัน ทางพรรคการเมืองจึงได้มีการสอบถาม เพราะต้องการให้ กกต. เปิดระบบเพื่อนำข้อมูลสมาชิกใหม่ใส่เข้าไป

ทั้งนี้ กกต. พึ่งจะมีการแจกรหัสให้กับพรรคการเมืองวันนี้ (26 พ.ย.) เพื่อให้พรรคนำข้อมูลการสมัครสมาชิกพรรคใหม่เข้าสู่ระบบ แต่การเข้าข้อมูลอาจไม่สามารถได้แล้วเสร็จภายในวันเดียว โดย กกต. ได้ให้นโยบายพรรคการเมืองให้ยึดเอกสารการสมัครเป็นหลัก เนื่องจากการนำชื่อเข้าระบบอาจจะไม่สมบูรณ์ ซึ่งการที่ให้พรรคการเมืองยึดเอกสารการสมัคร อาจทำให้เกิดปัญหามีการสมัครย้อนหลังได้


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต. วันนี้ได้มีมติให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดตั้งพรรคการเมืองเพิ่มอีก 5 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคพลังศรัทธา ที่มี พล.อ.อนันตร์ บุญรำไพ เป็นหัวหน้าพรรค, พรรคภูมิพลังเกษตรกรไทย ที่มี นายคำนึง พุฒิหอม เป็นหัวหน้าพรรค, พรรคพลังสังคม ที่มี นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน เป็นหัวหน้าพรรค, พรรคพลังแรงงานไทย ที่มี นายพิเชษฐ์ ภูแก้ว เป็นหัวหน้าพรรค และพรรคพลังไทสร้างชาติ ที่มี นายณภัคธร เป็นหัวหน้าพรรค

ทำให้ขณะนี้ เหลือพรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาตรวจสอบก่อนรับรองจดจัดตั้งพรรค จำนวน 10 พรรคการเมือง

ติดตามฐาน