ITEL โชว์ศักยภาพบริการ MPLS พลิกโฉมธุรกิจด้วย "ดิจิตอล โซลูชัน"

ITEL โชว์ศักยภาพบริการ MPLS พลิกโฉมธุรกิจด้วย "ดิจิตอล โซลูชัน" รองรับการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ สามารถเข้าถึงข้อมูลขององค์กรได้จากทุกที่ทุกเวลา

นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยถึงศักยภาพของบริษัทในการให้บริการ MPLS (Multiprotocol Label Switching) ว่า เป็นหนึ่งในบริการหลักของ บริษัท อินเตอร์ลิ้ง เทเลคอม ซึ่งเป็นทางเลือกของโซลูชันส์แบบครบวงจร ครอบคลุมทุกความต้องการ และตอบรับการแข่งขันยุคดิจิทัล ทำให้การรับ-ส่งข้อมูลระหว่างองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความเสถียรสูงสุด

 

[caption id="attachment_353289" align="aligncenter" width="335"] นายณัฐนัย อนันตรัมพร[/caption]

ทั้งนี้ บริการ MPLS นับเป็นหัวข้อที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการแก่ลูกค้าระดับองค์กรที่มีขนาดเล็กจนถึงระดับใหญ่ รวมถึงในทางกลับกันการใช้ระบบ MPLS ก็เป็นที่สนใจของหน่วยงาน หรือ องค์กรต่าง ๆ ทั่วไป โดยการใช้บริการต่าง ๆ บนเครือข่ายของผู้ให้บริการที่เพิ่มขึ้น เป็นการช่วยลดภาระในการดูแลระบบด้านไอทีภายในองค์กรลง กล่าวคือ เพราะ MPLS เป็นโปรโตคอลที่สามารถปรับขนาดได้และเป็นอิสระ สามารถสร้างวงจรแบบต้นทางจนถึงปลายทาง (end-to-end) ข้ามทุกประเภทของสื่อกลางในการส่งข้อมูล ทำให้ผู้ให้บริการเกิดความสะดวกในการสร้างเส้นทางของการให้บริการ MPLS ซึ่งเป็นผลดีของผู้ใช้บริการ ทางผู้ให้บริการจึงใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อแบ่งแยกการให้บริการเป็นรูปแบบที่เป็น MPLS Layer 2 (Data Link Layer) และ MPLS Layer 3 (Network Layer) โดยการทำงานแบ่งแยกการทำงานกันชัดเจนไม่มีการปะปนกันของโปรโตคอล ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ

อีกทั้งสิ่งสำคัญที่ "อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม" ให้ความสำคัญ รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า หรือ ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลที่มีความสำคัญมาก มีการส่งแบบพิเศษกว่าข้อมูลอื่น ๆ ทาง "อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม" จะมีการรับรองคุณภาพในการให้บริการ QoS (Quality of Service) ซึ่งเป็นการลำดับความสำคัญของแอพพลิเคชันที่ลูกค้าต้องการจัดสรรให้เกิดขึ้นระหว่างกันในเครือข่ายระบบ MPLS ที่ทางบริษัทได้ให้บริการ จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้เครือข่ายในการสื่อสาร ทั้งภาพ เสียง และข้อมูล ผ่านระบบเครือข่ายเดียวกัน มากกว่าที่จะแยกการสื่อสารผ่านระบบเสียงและข้อมูลที่แยกจากกันเหมือนในอดีต

 

[caption id="attachment_352905" align="aligncenter" width="335"] [/caption]

"อย่างไรก็ตาม สำหรับบริการโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงแบบใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) นั้น จะทำให้การรับ-ส่งข้อมูลระหว่างองค์กรเป็นไปอย่างไม่มีสะดุดและมีความเสถียรสูงสุด เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจที่มีสำนักงานใหญ่และสำนักสาขาหลายแห่ง โดยสามารถเลือกอัตราความเร็วตามที่ต้องการของผู้ใช้บริการที่จะตัดสินใจเลือกรูปแบบการให้บริการแบบไหนเพื่อรองรับธุรกิจที่ต้องมีการส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน รวมทั้งมีบริการเสีย เปลี่ยน ซ่อม ที่รองรับการใช้งานเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทุกรูปแบบ รวมถึงมีวิศวกรคอยดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยศูนย์ดูแลและซ่อมบำรุงทั้งสิ้น 38 ศูนย์ รองรับพื้นที่ทั้งหมดทั่วประเทศ" นายณัฐนัย กล่าว