โค้งสุดท้าย "บิ๊กตู่" ซื้อใจชาวสวนปาล์ม เตรียมแจกเงินเลียนโมเดลยาง
29 พ.ย.นี้ จับตา 'ประวิตร' เคาะเยียวยาจ่ายชาวสวนปาล์มไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เลียนโมเดลยางพารา ฝ่ายเกษตรกรเสียงแตก ค้าน-หนุนจ่ายเงินตรง ฝ่ายแกนนำใต้สวมหน้ากาก รมต.พลังงาน ชูธงแก้ปัญหายั่งยืน หนุน บี100 เติมรถโชว์ ด้าน สภาเกษตรฯ โวย กฟผ. ไม่จริงใจช่วยลดสต็อก ซ้ำร้ายย้ายอุปกรณ์ไปบางปะกง ทั้งที่บทเรียนในอดีตเคยแก้สำเร็จมาแล้ว ชี้ยื้อเวลา
แหล่งข่าวคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธาน กนป. ครั้งที่ 4/2561 ในวันที่ 29 พ.ย. 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการหารือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยนำโมเดลยางพารามาจ่ายเงินตรงกับชาวสวนปาล์มไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกินรายละ 15 ไร่ รวมเป็นเงิน 27,000 บาท โดยกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทางคณะที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลองหยั่งเสียงชาวสวนปาล์มว่าคิดเห็นอย่างไร มีทั้งเสียงสนับสนุนและค้านไม่เห็นด้วย เพราะไม่ทั่วถึง แล้วจะได้เฉพาะที่มีเอกสารสิทธิ์เท่านั้น ส่วนใหญ่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ราคาปาล์มมากกว่า
นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีเงินช่วยเหลือชาวสวนปาล์มนั้น ก็แล้วแต่รัฐบาล ไม่ได้คัดค้าน แต่ก็มองว่าเป็นความล้มเหลวในการแก้ปัญหาราคาผลปาล์ม วันนี้หากจะแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ทางกลุ่มได้มีการรณรงค์ให้ชาวสวนเติมน้ำมันรถด้วยบี100 ปรากฏว่า ใช้งานได้ปกติ รถยนต์ไม่มีปัญหา มองว่า บี100 คือ ทางออกที่จะแก้ปัญหาราคาผลปาล์ม ขอให้ จ.กระบี่ สนับสนุนส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล โดยขอน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการปาล์มน้ำมัน ในการที่มีพระอัจฉริยภาพสายพระเนตรที่ยาวไกลในการแก้ไขปัญหาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำอย่างยั่งยืน โดยทรงส่งเสริมสนับสนุนการผลิตและใช้ไบโอดีเซล กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่หาที่สุดมิได้
"โดยตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนน้ำมันปาล์มมาใช้ในยานพาหนะและระบบขนส่งอย่างเป็นรูปธรรม ให้ครอบคลุมในการวิจัยค้นคว้าและทดสอบการนำน้ำมันไบโอดีเซล 100 หรือ บี100 หลังจากมีการค้นคว้าและทดสอบระบบแล้ว ให้ยกระดับการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเป็นยุทธศาสตร์การใช้พลังงานจากน้ำมันปาล์มเป็นระดับประเทศต่อไป
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการใช้บี100 จึงได้ใส่หน้ากากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำรถมาเติมบี100 จะเป็นการช่วยรณรงค์ลดสต็อกน้ำมันปาล์มแบบจริงจังและเร่งด่วน เมื่อผลิตแล้วชาวสวนทุกคนต้องช่วยกันเติม ช่วยชาติใช้ทดแทนดีเซลนำเข้า เชื่อว่าในไม่ช้าสต็อกน้ำมันปาล์มจะหมดจากประเทศ แล้วชาวสวนจะได้ขายผลปาล์มได้ราคาดีขึ้น ณ วันนี้ (ราคา 25 พ.ย. 61) 2-2.20 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่ นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยว่า มองว่าการจ่ายเงินตรงให้กับชาวสวนปาล์ม ไม่เห็นด้วย เพราะที่ดินต้องมีเอกสารสิทธิ์ แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาราคาปาล์มได้ ยังขายได้ราคาถูกเหมือนเดิม คาดว่าเกษตรกรก็ไม่พอใจอยู่ดี สิ่งสำคัญมองดูว่า ปัญหาผลปาล์มจะต้องมีการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็น ป.ต.ท. หรือ โรงงานไฟฟ้า จะต้องจริงใจในการแก้ปัญหาให้กับชาวสวนปาล์ม วันนี้จะเห็นว่า ทางภาคใต้กลุ่มเกษตรกรตื่นตัวกันมากเรื่องการใช้น้ำมันปาล์มเป็นพลังงานทดแทนที่จะใช้แทนน้ำมันในอนาคต แต่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.) ไม่ขยับเลย เลยมองว่า "รัฐวิสาหกิจ" ทำได้ แต่ไม่ยอมทำมากกว่าที่จะแก้ปัญหาให้เกษตรกร
"ผมจำได้ว่า ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เคยชี้แจงว่า หากราคาน้ำมันซีพีโอไม่ถึง 24 บาทต่อกิโลกรัม สามารถผลิตได้ แล้วรัฐบาลในขณะนั้นยังชดเชยให้ กฟผ. ด้วยอีก กิโลกรัมละ 2 บาท ปัจจุบัน (25 พ.ย. 61) ราคาน้ำมันซีพีโออยู่ที่ 14-15 บาทต่อกิโลกรัมเอง ทำไมถึงไม่ผลิต ซึ่งสำหรับประสิทธิภาพโรงงานไฟฟ้ากระบี่ รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2556 – ม.ค. 2557 อย่างต่อเนื่อง วันละประมาณ 100 ตัน รวม 10,000 ตัน ในสัดส่วนใช้น้ำมันปาล์มดิบร้อยละ 10 น้ำมันเตาร้อยละ 90 ทำให้มีอัตราการใช้น้ำมันปาล์มดิบ 4 ตันต่อชั่วโมง เมื่อเดินเครื่องเต็มตามกำลังผลิตคือ 340 เมกะวัตต์"
ระหว่างนั้นทางโรงงานได้มีการปรับปรุงอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง สามารถเพิ่มสัดส่วนน้ำมันปาล์มดิบจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ทำให้สามารถใช้นำมันปาล์มดิบได้สูงสุด 18 ตันต่อชั่วโมง รวมทั้งก่อสร้างถังเก็บน้ำมันปาล์มความจุ 1.5 ล้านลิตรเพิ่มขึ้นอีก 1 ถัง โดยใช้งบประมาณ 51.27 ล้านบาท จากอัตราการใช้น้ำมันปาล์มดิบดังกล่าว ทำให้โรงไฟฟ้ากระบี่มีความสามารถในการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้ถึงร้อยละ 25 ของกำลังการผลิตนำมันปาล์มดิบของ จ.กระบี่ หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของกำลังการผลิต
แต่ปัจจุบันนี้ผลิตไม่ได้แล้ว เพราะได้ถอดอุปกรณ์จากโรงงานไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องปั๊มและบูทเตอร์สำหรับอุ่นความร้อนไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง เพื่อนำไปเผาน้ำมันปาล์มผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายลดสต๊อกน้ำมันปาล์ม 1.6 แสนตัน จึงทำให้สถานะโรงไฟฟ้ากระบี่ก็ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์มได้แล้ว คำถามจึงเป็นที่มาว่า ทำไมถึงไม่ใช่ที่นี้ในการผลิต เพราะกว่าโรงงานไฟฟ้าบางปะกงจะปรับปรุงและใช้งานได้ก็ประมาณเดือนมกราคม2562 ต้องการซื้อเวลาใช่หรือไม่
แหล่งข่าวคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธาน กนป. ครั้งที่ 4/2561 ในวันที่ 29 พ.ย. 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการหารือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยนำโมเดลยางพารามาจ่ายเงินตรงกับชาวสวนปาล์มไร่ละ 1,800 บาท ไม่เกินรายละ 15 ไร่ รวมเป็นเงิน 27,000 บาท โดยกรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทางคณะที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลองหยั่งเสียงชาวสวนปาล์มว่าคิดเห็นอย่างไร มีทั้งเสียงสนับสนุนและค้านไม่เห็นด้วย เพราะไม่ทั่วถึง แล้วจะได้เฉพาะที่มีเอกสารสิทธิ์เท่านั้น ส่วนใหญ่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ราคาปาล์มมากกว่า
นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีเงินช่วยเหลือชาวสวนปาล์มนั้น ก็แล้วแต่รัฐบาล ไม่ได้คัดค้าน แต่ก็มองว่าเป็นความล้มเหลวในการแก้ปัญหาราคาผลปาล์ม วันนี้หากจะแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ทางกลุ่มได้มีการรณรงค์ให้ชาวสวนเติมน้ำมันรถด้วยบี100 ปรากฏว่า ใช้งานได้ปกติ รถยนต์ไม่มีปัญหา มองว่า บี100 คือ ทางออกที่จะแก้ปัญหาราคาผลปาล์ม ขอให้ จ.กระบี่ สนับสนุนส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล โดยขอน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการปาล์มน้ำมัน ในการที่มีพระอัจฉริยภาพสายพระเนตรที่ยาวไกลในการแก้ไขปัญหาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำอย่างยั่งยืน โดยทรงส่งเสริมสนับสนุนการผลิตและใช้ไบโอดีเซล กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่หาที่สุดมิได้
"โดยตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนน้ำมันปาล์มมาใช้ในยานพาหนะและระบบขนส่งอย่างเป็นรูปธรรม ให้ครอบคลุมในการวิจัยค้นคว้าและทดสอบการนำน้ำมันไบโอดีเซล 100 หรือ บี100 หลังจากมีการค้นคว้าและทดสอบระบบแล้ว ให้ยกระดับการใช้น้ำมันไบโอดีเซลเป็นยุทธศาสตร์การใช้พลังงานจากน้ำมันปาล์มเป็นระดับประเทศต่อไป
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการใช้บี100 จึงได้ใส่หน้ากากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นำรถมาเติมบี100 จะเป็นการช่วยรณรงค์ลดสต็อกน้ำมันปาล์มแบบจริงจังและเร่งด่วน เมื่อผลิตแล้วชาวสวนทุกคนต้องช่วยกันเติม ช่วยชาติใช้ทดแทนดีเซลนำเข้า เชื่อว่าในไม่ช้าสต็อกน้ำมันปาล์มจะหมดจากประเทศ แล้วชาวสวนจะได้ขายผลปาล์มได้ราคาดีขึ้น ณ วันนี้ (ราคา 25 พ.ย. 61) 2-2.20 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่ นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยว่า มองว่าการจ่ายเงินตรงให้กับชาวสวนปาล์ม ไม่เห็นด้วย เพราะที่ดินต้องมีเอกสารสิทธิ์ แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาราคาปาล์มได้ ยังขายได้ราคาถูกเหมือนเดิม คาดว่าเกษตรกรก็ไม่พอใจอยู่ดี สิ่งสำคัญมองดูว่า ปัญหาผลปาล์มจะต้องมีการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็น ป.ต.ท. หรือ โรงงานไฟฟ้า จะต้องจริงใจในการแก้ปัญหาให้กับชาวสวนปาล์ม วันนี้จะเห็นว่า ทางภาคใต้กลุ่มเกษตรกรตื่นตัวกันมากเรื่องการใช้น้ำมันปาล์มเป็นพลังงานทดแทนที่จะใช้แทนน้ำมันในอนาคต แต่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.) ไม่ขยับเลย เลยมองว่า "รัฐวิสาหกิจ" ทำได้ แต่ไม่ยอมทำมากกว่าที่จะแก้ปัญหาให้เกษตรกร
"ผมจำได้ว่า ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เคยชี้แจงว่า หากราคาน้ำมันซีพีโอไม่ถึง 24 บาทต่อกิโลกรัม สามารถผลิตได้ แล้วรัฐบาลในขณะนั้นยังชดเชยให้ กฟผ. ด้วยอีก กิโลกรัมละ 2 บาท ปัจจุบัน (25 พ.ย. 61) ราคาน้ำมันซีพีโออยู่ที่ 14-15 บาทต่อกิโลกรัมเอง ทำไมถึงไม่ผลิต ซึ่งสำหรับประสิทธิภาพโรงงานไฟฟ้ากระบี่ รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2556 – ม.ค. 2557 อย่างต่อเนื่อง วันละประมาณ 100 ตัน รวม 10,000 ตัน ในสัดส่วนใช้น้ำมันปาล์มดิบร้อยละ 10 น้ำมันเตาร้อยละ 90 ทำให้มีอัตราการใช้น้ำมันปาล์มดิบ 4 ตันต่อชั่วโมง เมื่อเดินเครื่องเต็มตามกำลังผลิตคือ 340 เมกะวัตต์"
ระหว่างนั้นทางโรงงานได้มีการปรับปรุงอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง สามารถเพิ่มสัดส่วนน้ำมันปาล์มดิบจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ทำให้สามารถใช้นำมันปาล์มดิบได้สูงสุด 18 ตันต่อชั่วโมง รวมทั้งก่อสร้างถังเก็บน้ำมันปาล์มความจุ 1.5 ล้านลิตรเพิ่มขึ้นอีก 1 ถัง โดยใช้งบประมาณ 51.27 ล้านบาท จากอัตราการใช้น้ำมันปาล์มดิบดังกล่าว ทำให้โรงไฟฟ้ากระบี่มีความสามารถในการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้ถึงร้อยละ 25 ของกำลังการผลิตนำมันปาล์มดิบของ จ.กระบี่ หรือคิดเป็นร้อยละ 8 ของกำลังการผลิต
แต่ปัจจุบันนี้ผลิตไม่ได้แล้ว เพราะได้ถอดอุปกรณ์จากโรงงานไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องปั๊มและบูทเตอร์สำหรับอุ่นความร้อนไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง เพื่อนำไปเผาน้ำมันปาล์มผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายลดสต๊อกน้ำมันปาล์ม 1.6 แสนตัน จึงทำให้สถานะโรงไฟฟ้ากระบี่ก็ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์มได้แล้ว คำถามจึงเป็นที่มาว่า ทำไมถึงไม่ใช่ที่นี้ในการผลิต เพราะกว่าโรงงานไฟฟ้าบางปะกงจะปรับปรุงและใช้งานได้ก็ประมาณเดือนมกราคม2562 ต้องการซื้อเวลาใช่หรือไม่
