'หัวเว่ย' เปิดตัว 'คลาวด์ลิงค์' รุ่นใหม่ ชูจุดขาย ใช้งานแบบออล อิน วัน
หัวเว่ยเปิดตัวระบบการประชุมทางไกล CloudLink รุ่นใหม่ ในงาน Connecting Time & Space, Changing the Future ชูจุดเด่นใช้งานง่ายในรูปแบบออลอินวัน
นายต๋ง อู่ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์สื่อสารคลาวด์ระดับองค์กร และฝ่ายขายโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า ในยุคดิจิทัล นวัตกรรมจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้พัฒนาก้าวรุดหน้า โดยมีความร่วมมือและการสื่อสารเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งในงานหัวเว่ยได้มีการเปิดตัว CloudLink ระบบการประชุมทางไกลเทเลเพรสเซนส์รุ่นใหม่ (Telepresence) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ CloudLink Board และ CloudLink Box โดยได้รับเกียรติจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พันธมิตรรายสำคัญในประเทศไทย ร่วมแชร์ประสบการณ์สุดประทับใจจากการใช้งานโซลูชันการสื่อสารองค์กรของหัวเว่ย
“อันที่จริง เรามีการใช้งานที่ประสบความสำเร็จมากมายในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) องค์กรด้านพลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้มีการติดตั้งใช้งานระบบการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอของหัวเว่ยไปแล้วกว่า 200 ชุดใน 74 จังwหวัดทั่วประเทศ รองรับพนักงานกว่า 30,000 คน และเราจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ระบบดิจิทัลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้้สำหรับ Market size ในประเทศไทยนั้น คลาวด์ลิงค์ในระบบเดิมมีตัวเลขการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 150 ล้านบาท ซึ่งคลาวด์ลิงค์รุ่นใหม่ก็คาดว่าตัวเลขจะเติบโตมากกว่าเดิม โดยผลิตภัณฑ์คลาวด์ลิงค์รุ่นใหม่ ประกอบด้วย CloudLink Board ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปลายทางสำหรับการประชุมผ่านวิดีโออัจฉริยะแบบ All-in-one ที่รวมคุณสมบัติด้านการประชุมผ่านวิดีโอ การทำงานร่วมกันแบบอินเตอร์แอคทีฟ และฟังก์ชั่นการแชร์ข้อมูลระยะไกล พร้อมการสั่งการด้วยเสียง ระบบติดตามอัจฉริยะ และการจดจำใบหน้า , CloudLink Box: อุปกรณ์ปลายทางที่เชื่อมต่อการประชุมผ่านวิดีโอแบบ Ultra-HD แยกภาพและเสียง (Split-Type) รุ่นใหม่ ด้วยคุณสมบัติในการประมวลผลภาพและเสียงระดับสุดยอดแบบ Dual 4K/P30 และพอร์ทสำหรับภาพและเสียงแบบต่างๆ ทำให้ CloudLink Box สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ CloudLink Touch
อย่างไรก็ตาม คลาวด์ลิงค์ คือ โซลูชันแบบครบวงจรสำหรับการสื่อสารและการประสานงานร่วมกันระดับองค์กรที่หัวเว่ยได้พัฒนาขึ้นมาให้สามารถรองรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ สามารถทำงานผ่านการเชื่อมต่ออัจฉริยะ รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์และคลาวด์ ช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการเข้าประชุมที่ต้องใช้เวลานาน รวมถึงลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการประชุมด้วยคลาวด์ลิงค์บอร์ด ที่สามารถใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้มุ่งเน้นไปที่ด้านการศึกษาโดยให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลสามารถเรียนได้ในทุกที่ ซึ่งจุดเด่นของคลาวด์ลิงค์ รุ่นใหม่ของหัวเว่ยนั้นเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นจะมีราคาที่ถูกกว่าและใช้งานง่ายกว่าของคู่แข่ง โดยเป็นรูปแบบออลอินวัน ไม่ต้องแยกชิ้นส่วนในการใช้งาน
ด้านนายอภิวฒัน์ บญัชาจารุรัตน์ ผ้อูำนวยการฝ่ายสื่อสารและโทรคมนาคม การไฟฟ้าสว่นภมูิภาค หรือ กฟภ. กล่าวว่า สำหรับ กฟภ. นั้นได้มีการใช้งานวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในการประชุมทางไกลมานานแล้วเนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พักสำหรับการเดินทางไปประชุมในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยระบบของวิดีโอที่ใช้คอนเฟอเรนซ์ในปัจจุบันของ กฟภ. ยังไม่ฉลาดเท่ากับคลาวด์ลิงค์ตัวใหม่ ที่เดิมนั้นยังเป็นระบบแมนนวล ควบคุมด้วยรีโมท แต่เมื่อมีการนำเอไอเข้ามาใช้ ช่วยให้กล้องสามารถซูมจับภาพไปที่ผู้ที่กำลังพูดอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้รีโมทควบคุม
นายต๋ง อู่ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์สื่อสารคลาวด์ระดับองค์กร และฝ่ายขายโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า ในยุคดิจิทัล นวัตกรรมจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้พัฒนาก้าวรุดหน้า โดยมีความร่วมมือและการสื่อสารเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งในงานหัวเว่ยได้มีการเปิดตัว CloudLink ระบบการประชุมทางไกลเทเลเพรสเซนส์รุ่นใหม่ (Telepresence) ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ CloudLink Board และ CloudLink Box โดยได้รับเกียรติจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พันธมิตรรายสำคัญในประเทศไทย ร่วมแชร์ประสบการณ์สุดประทับใจจากการใช้งานโซลูชันการสื่อสารองค์กรของหัวเว่ย
“อันที่จริง เรามีการใช้งานที่ประสบความสำเร็จมากมายในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) องค์กรด้านพลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้มีการติดตั้งใช้งานระบบการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอของหัวเว่ยไปแล้วกว่า 200 ชุดใน 74 จังwหวัดทั่วประเทศ รองรับพนักงานกว่า 30,000 คน และเราจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ระบบดิจิทัลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้้สำหรับ Market size ในประเทศไทยนั้น คลาวด์ลิงค์ในระบบเดิมมีตัวเลขการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 150 ล้านบาท ซึ่งคลาวด์ลิงค์รุ่นใหม่ก็คาดว่าตัวเลขจะเติบโตมากกว่าเดิม โดยผลิตภัณฑ์คลาวด์ลิงค์รุ่นใหม่ ประกอบด้วย CloudLink Board ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปลายทางสำหรับการประชุมผ่านวิดีโออัจฉริยะแบบ All-in-one ที่รวมคุณสมบัติด้านการประชุมผ่านวิดีโอ การทำงานร่วมกันแบบอินเตอร์แอคทีฟ และฟังก์ชั่นการแชร์ข้อมูลระยะไกล พร้อมการสั่งการด้วยเสียง ระบบติดตามอัจฉริยะ และการจดจำใบหน้า , CloudLink Box: อุปกรณ์ปลายทางที่เชื่อมต่อการประชุมผ่านวิดีโอแบบ Ultra-HD แยกภาพและเสียง (Split-Type) รุ่นใหม่ ด้วยคุณสมบัติในการประมวลผลภาพและเสียงระดับสุดยอดแบบ Dual 4K/P30 และพอร์ทสำหรับภาพและเสียงแบบต่างๆ ทำให้ CloudLink Box สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ CloudLink Touch
อย่างไรก็ตาม คลาวด์ลิงค์ คือ โซลูชันแบบครบวงจรสำหรับการสื่อสารและการประสานงานร่วมกันระดับองค์กรที่หัวเว่ยได้พัฒนาขึ้นมาให้สามารถรองรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ สามารถทำงานผ่านการเชื่อมต่ออัจฉริยะ รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์และคลาวด์ ช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการเข้าประชุมที่ต้องใช้เวลานาน รวมถึงลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการประชุมด้วยคลาวด์ลิงค์บอร์ด ที่สามารถใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้มุ่งเน้นไปที่ด้านการศึกษาโดยให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลสามารถเรียนได้ในทุกที่ ซึ่งจุดเด่นของคลาวด์ลิงค์ รุ่นใหม่ของหัวเว่ยนั้นเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นจะมีราคาที่ถูกกว่าและใช้งานง่ายกว่าของคู่แข่ง โดยเป็นรูปแบบออลอินวัน ไม่ต้องแยกชิ้นส่วนในการใช้งาน
ด้านนายอภิวฒัน์ บญัชาจารุรัตน์ ผ้อูำนวยการฝ่ายสื่อสารและโทรคมนาคม การไฟฟ้าสว่นภมูิภาค หรือ กฟภ. กล่าวว่า สำหรับ กฟภ. นั้นได้มีการใช้งานวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในการประชุมทางไกลมานานแล้วเนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พักสำหรับการเดินทางไปประชุมในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยระบบของวิดีโอที่ใช้คอนเฟอเรนซ์ในปัจจุบันของ กฟภ. ยังไม่ฉลาดเท่ากับคลาวด์ลิงค์ตัวใหม่ ที่เดิมนั้นยังเป็นระบบแมนนวล ควบคุมด้วยรีโมท แต่เมื่อมีการนำเอไอเข้ามาใช้ ช่วยให้กล้องสามารถซูมจับภาพไปที่ผู้ที่กำลังพูดอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้รีโมทควบคุม
