ทายาทรุ่น3‘ฑีฆธนานนท์’ ตั้งเป้า‘ที่1บริการ’ศูนย์โตโยต้าอุดรฯ

28 พ.ย. 2561 | 04:15 น.
สัมภาษณ์

“แนวทางการพัฒนาบุคลากรขององค์กรในปีหน้า จะมุ่งฝึกอบรมด้านการบริการมากกว่ายอดขาย โดยอิงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก คิดถึงใจลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้า โตโยต้าชิณณ์นนท์ ต้องเป็นหนึ่งในด้านการบริการในจังหวัดอุดรธานีให้ได้”

คำประกาศวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ “กิตติภัค (เบียร์) ฑีฆธนานนท์” 1 ในทายาทรุ่น 3 ที่ทยอยเข้ามารับภารกิจต่อจากรุ่นปู่หรืออากงจาก “เจริญ” และรุ่นพ่อ “ณณชัย”(หาญชัย-เดิม) โดยได้รับมอบหมายกุมบังเหียนเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า ชิณณ์นนท์ อุดรธานี จำกัด หนึ่งในอาณาจักรธุรกิจครอบครัว

kittipat1

กิตติภัค อายุ 28 ปี จบมัธยมปลายจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เรียนปริญญาตรี เศรษฐ ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ด้านการค้าระหว่างประเทศ) ตามคำชี้แนะของนายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หลังจากเปลี่ยนแนวจากสายวิทยา ศาสตร์มาเป็นศิลป์คำนวณช่วงมัธยมปลาย หลังจากต้องพักเรียน 1 ปีไปเป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์

จากนั้นไปต่อโทที่ Queen Mary University of London ประเทศอังกฤษ ด้าน Banking & Finance

ปี 2554 กลับมาฝึกงานกับ Phatra Securitie Public Company Limited ในกลุ่มธุรกิจการเงินของเกียรตินาคินภัทร อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนถูกเรียกตัวกลับมาดูแลธุรกิจครอบครัวดังกล่าว

ในฐานะผู้นำองค์กรธุรกิจ กิตติภัคผสมผสานประสบการณ์ชีวิตหลากหลาย มาเป็นแนวทางบริหารองค์กรหลากหลายรูปแบบ

ตั้งแต่ชีวิตในครอบครัวนักธุรกิจ ทั้งอากงจนมาถึงพ่อ ต่างสั่งสอน “การทำธุรกิจ ไม่ได้ทำเพื่อเพียงตนเอง แต่จะต้องทำเพื่อสังคมและคนรอบข้าง เพื่อสังคม ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต” เป็นแนวทางธุรกิจของครอบครัว “ฑีฆธนานนท์” ที่ทายาทรุ่นต่อมาต้องยึดถือ แม้ต่างมีภารกิจที่ได้รับมอบหมายแตกต่างกันไปก็ต้องพูดคุยหารือ ห้ามทะเลาะกัน

ช่วงเป็นนิสิตจุฬาฯมีโอกาสร่วมทำงานกับมูลนิธิปิดทองหลังพระโชคดีได้พบกับ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล และติดตามท่านไป
จังหวัดน่าน เพื่อไปศึกษาพื้นที่และลงมือทำงานกับชาวบ้าน มีโอกาสได้รับฟังการบอกเล่าเรื่องราวของ “ศาสตร์พระราชา” จากคำบอกเล่าของ ม.ร.ว.ดิสนัดดาฯ และยังได้มีโอกาสคลุกคลีได้ทำงานร่วมกับชาวบ้าน จนเกิดการเข้าใจในคำว่าศาสตร์พระราชา และใช้เป็นข้อคิดการปฏิบัติจนปัจจุบัน

ตอนไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ ก็ไปทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านอาหารไทยในลอนดอน เพื่อหาประสบการณ์และฝึกดูแลตนเอง

กระทั่งเมื่อมาดูแลธุรกิจก็ต้องเรียนรู้ต่อ โดยทางบริษัท โตโยต้า ชิณณ์นนท์ อุดรธานี จำกัด นั้น มีนักธุรกิจญี่ปุ่นมาร่วมลงทุนด้วย มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคำแนะนำการทำธุรกิจสไตล์ญี่ปุ่น

MP21-3421-A

กิตติภัคเล่าว่า ได้นำประสบการณ์หลากหลายเหล่านี้มาประกอบในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวในปัจจุบัน เพื่อจะช่วยพัฒนาการทำงานของ บริษัท โตโยต้าชิณณ์นนท์ และในเครือ

โดยในปีหน้า บริษัทมี นโยบาย “จะมุ่งฝึกอบรมด้านการบริการมากกว่ายอดขาย โดยอิงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก คิดถึงใจลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้า โตโยต้าชิณณ์นนท์ ต้องเป็นหนึ่งในด้านการบริการในจังหวัดอุดรธานีให้ได้”

ผู้บริหารได้ให้การบ้านข้อนี้แก่พนักงานของ บริษัท โตโยต้าชิณณ์นนท์ ไปแล้ว ซึ่งตนเองในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร จะทำทุกอย่างเพื่อให้ บริษัท โตโยต้าชิณณ์นนท์ ไปถึงเป้าหมายตรงนั้นให้ได้

สำหรับปี 2562 นั้น บริษัทคาดจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10-15% ของปีที่กำลังจะผ่านไป เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของประเทศ วิเคราะห์แล้วว่า เศรษฐกิจของประเทศหลายภาคส่วนยังมีการเติบโต เช่น การส่งออก-นำเข้าพืชผลทางการเกษตร หรือโลจิสติกส์ ซึ่งตลาดรถยนต์มีบทบาทในการสนับสนุนการขยายตัวของโลจิสติกส์อยู่แล้ว จึงมั่นใจว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดแทรกขึ้นระหว่างทาง เช่น ปัจจัยเสี่ยงเรื่องการเมือง ปัจจัยเสี่ยงเรื่องการเงิน รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเรื่องของราคาพืชผลหลัก คือ ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และยางพารา เป็นต้น

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,421 วันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2561 โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-13