ร้อง 'ศิริ' อุ้มรถบรรทุกใช้ "บี20" ขยายเวลาช่วย 5 บาท ยาว 1 ปี
สหพันธ์การขนส่งฯ หวั่นส่งเสริม บี20 ซํ้ารอยเอ็นจีวี รัฐหลอกติดตั้ง สุดท้ายขยับราคาขึ้น ร้อง 'ศิริ' ให้ขยายมาตรการอุดหนุนราคา 5 บาทต่อลิตร ไปเป็น 1 ปี ชี้ช่วย 3 เดือน ไม่เห็นผล ไม่จูงใจผู้ประกอบการปรับแต่งเครื่องยนต์
นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2561 ทางกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เรียกผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่และผู้ค้ามาตรา 7 เข้าหารือเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมนํ้ามันไบโอดีเซล บี20 ซึ่งทางสหพันธ์เห็นด้วยที่กระทรวงปรับอัตราอุดหนุน บี20 จากเดิม 3 บาทต่อลิตร เป็น 5 บาทต่อลิตร
โดยมาตรการดังกล่าว นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า อัตราอุดหนุน บี20 จำนวน 5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ธ.ค. 2561 - ก.พ. 2562) แต่ผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่เสนอทางกรมไปว่า ควรขยายระยะเวลาส่งเสริมออกไปอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี เนื่องจากการติดตั้งอุปกรณ์อาจต้องใช้ระยะเวลา หากส่งเสริมเพียง 3 เดือน มองว่าสั้นเกินไป ผู้ประกอบการที่สนใจบางรายอาจเห็นว่าเป็นมาตรการระยะสั้น อาจไม่คุ้มค่า ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการรถบรรทุกและผู้ค้านํ้ามันมาตรา 7 ที่จะต้องลงทุนถังลอยและหัวจ่าย
[caption id="attachment_351648" align="aligncenter" width="257"]
ทองอยู่ คงขันธ์[/caption]
ทั้งนี้ หากมาตรการดังกล่าวขยายระยะเวลาออกไปเป็น 1 ปี จะทำให้มีโอกาสที่จะเป็นไปตามเป้าที่กระทรวงพลังงาน ตั้งไว้ ว่า จะมียอดใช้บี20 อยู่ที่ 15 ล้านลิตรต่อวัน ภายในปี 2562 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนลิตรต่อวัน เนื่องจากหลังกระทรวง พลังงานประกาศมาตรการส่งเสริมบี20 ที่ 5 บาทต่อลิตร ทำให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกเห็นว่าเป็นอัตราที่คุ้มค่าที่จะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือ คุ้มค่ากับค่าบำรุงรักษาที่จะตามมาในอนาคต เฉลี่ยประมาณ 1 หมื่นบาทต่อคัน
ขณะที่ ผู้ประกอบการรถบรรทุกไม่กล้าตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้นํ้ามันบี20 ในรถยูโร 1 และยูโร 2 เนื่องจากยังไม่มั่นใจนโยบายของภาครัฐ กังวลว่าจะซํ้ารอยการส่งเสริมก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่ส่งเสริมให้ติดตั้ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว กลับปล่อยขึ้นราคา และตอนนี้ราคาก็ขยับขึ้นไปมากกว่า 14 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น จึงต้องการให้การส่งเสริมบี20 ในครั้งนี้ เป็นมาตรการระยะยาว
ปัจจุบัน ผู้ค้านํ้ามันมาตรา 7 ที่จำหน่ายบี20 มีทั้งสิ้น 8 ราย แต่เมื่อกระทรวงพลังงานแจ้งว่าจะส่งเสริมในอัตรา 5 บาทต่อลิตร ก็พบว่า มีผู้ค้ามาตรการ 7 อีกหลายรายสนใจขายบี20 เช่นกัน อาทิ ปั๊มพีที ที่มีสาขาในต่างจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งผู้ค้ามาตรา 7 จะต้องลงทุนถังลอย 2 หมื่นลิตร และหัวจ่ายให้กับฟลีตรถบรรทุก ดังนั้น จะต้องมียอดใช้ที่มากพอและคุ้มค่ากับการลงทุน อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงพลังงานตัดสินใจปรับลดอัตราส่งเสริมเหลือ 3 บาทต่อลิตร ในเดือน มี.ค. 2562 คาดว่า ยอดใช้บี20 จะลดลง
"สหพันธ์เสนอกรมธุรกิจพลังงานเพื่อพิจารณาขยายมาตรการอุดหนุนบี20 อัตรา 5 บาทต่อลิตร ออกไปเป็นอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งทางกรมแจ้งว่า ต้องหารือในที่ประชุม กบง. ก่อน โดยสหพันธ์จะติดตามผลภายในเดือน ม.ค. 2562 จะต้องมีความชัดเจนแล้วว่า จะต่ออายุมาตรการดังกล่าวหรือไม่ เพราะไม่อยากให้ซํ้ารอยเอ็นจีวี ที่ตอนนี้รับปล่อยราคาขึ้นอย่างมาก" นายทองอยู่ กล่าว
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3421 วันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2561
นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2561 ทางกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เรียกผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่และผู้ค้ามาตรา 7 เข้าหารือเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมนํ้ามันไบโอดีเซล บี20 ซึ่งทางสหพันธ์เห็นด้วยที่กระทรวงปรับอัตราอุดหนุน บี20 จากเดิม 3 บาทต่อลิตร เป็น 5 บาทต่อลิตร
โดยมาตรการดังกล่าว นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า อัตราอุดหนุน บี20 จำนวน 5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ธ.ค. 2561 - ก.พ. 2562) แต่ผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่เสนอทางกรมไปว่า ควรขยายระยะเวลาส่งเสริมออกไปอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี เนื่องจากการติดตั้งอุปกรณ์อาจต้องใช้ระยะเวลา หากส่งเสริมเพียง 3 เดือน มองว่าสั้นเกินไป ผู้ประกอบการที่สนใจบางรายอาจเห็นว่าเป็นมาตรการระยะสั้น อาจไม่คุ้มค่า ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการรถบรรทุกและผู้ค้านํ้ามันมาตรา 7 ที่จะต้องลงทุนถังลอยและหัวจ่าย
[caption id="attachment_351648" align="aligncenter" width="257"]
ทั้งนี้ หากมาตรการดังกล่าวขยายระยะเวลาออกไปเป็น 1 ปี จะทำให้มีโอกาสที่จะเป็นไปตามเป้าที่กระทรวงพลังงาน ตั้งไว้ ว่า จะมียอดใช้บี20 อยู่ที่ 15 ล้านลิตรต่อวัน ภายในปี 2562 จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนลิตรต่อวัน เนื่องจากหลังกระทรวง พลังงานประกาศมาตรการส่งเสริมบี20 ที่ 5 บาทต่อลิตร ทำให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกเห็นว่าเป็นอัตราที่คุ้มค่าที่จะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือ คุ้มค่ากับค่าบำรุงรักษาที่จะตามมาในอนาคต เฉลี่ยประมาณ 1 หมื่นบาทต่อคัน
ขณะที่ ผู้ประกอบการรถบรรทุกไม่กล้าตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้นํ้ามันบี20 ในรถยูโร 1 และยูโร 2 เนื่องจากยังไม่มั่นใจนโยบายของภาครัฐ กังวลว่าจะซํ้ารอยการส่งเสริมก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่ส่งเสริมให้ติดตั้ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว กลับปล่อยขึ้นราคา และตอนนี้ราคาก็ขยับขึ้นไปมากกว่า 14 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น จึงต้องการให้การส่งเสริมบี20 ในครั้งนี้ เป็นมาตรการระยะยาว
ปัจจุบัน ผู้ค้านํ้ามันมาตรา 7 ที่จำหน่ายบี20 มีทั้งสิ้น 8 ราย แต่เมื่อกระทรวงพลังงานแจ้งว่าจะส่งเสริมในอัตรา 5 บาทต่อลิตร ก็พบว่า มีผู้ค้ามาตรการ 7 อีกหลายรายสนใจขายบี20 เช่นกัน อาทิ ปั๊มพีที ที่มีสาขาในต่างจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งผู้ค้ามาตรา 7 จะต้องลงทุนถังลอย 2 หมื่นลิตร และหัวจ่ายให้กับฟลีตรถบรรทุก ดังนั้น จะต้องมียอดใช้ที่มากพอและคุ้มค่ากับการลงทุน อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงพลังงานตัดสินใจปรับลดอัตราส่งเสริมเหลือ 3 บาทต่อลิตร ในเดือน มี.ค. 2562 คาดว่า ยอดใช้บี20 จะลดลง
"สหพันธ์เสนอกรมธุรกิจพลังงานเพื่อพิจารณาขยายมาตรการอุดหนุนบี20 อัตรา 5 บาทต่อลิตร ออกไปเป็นอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี ซึ่งทางกรมแจ้งว่า ต้องหารือในที่ประชุม กบง. ก่อน โดยสหพันธ์จะติดตามผลภายในเดือน ม.ค. 2562 จะต้องมีความชัดเจนแล้วว่า จะต่ออายุมาตรการดังกล่าวหรือไม่ เพราะไม่อยากให้ซํ้ารอยเอ็นจีวี ที่ตอนนี้รับปล่อยราคาขึ้นอย่างมาก" นายทองอยู่ กล่าว
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3421 วันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2561
