'มิตรผล' ขับเคลื่อนศักยภาพท้องถิ่น 21 ตำบล พึ่งพาตัวเอง

22 พ.ย. 2561 | 03:25 น.
'มิตรผล' ร่วมขับเคลื่อน 21 ตำบล ดึงศักยภาพท้องถิ่น ต่อยอดสู่ชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ผ่านงาน "ฮวมแฮง แบ่งปัน สร้างสรรค์ ตำบลมิตรผลร่วมพัฒนา"



82C50055-9338-433A-96D4-B89C638D516F

กลุ่มมิตรผลจึงได้ริเริ่ม "โครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน" ในปี 2555 โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและคนในชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน เริ่มจากการทำงานในพื้นที่ตำบลรอบ ๆ โรงงาน 9 ตำบล ก่อนลงนามความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในปี 2558 เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและสร้างสุขภาวะที่เข็มแข็งใน และปี 2560 ได้ขยายพื้นที่ดำเนินการเป็น 21 ตำบล โดยทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

และเริ่มทำ "การวิจัยชุมชน" ผลักดันให้คนในชุมชนเป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น ให้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกันของคนในชุมชน ตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นผู้ให้ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และเป็นผู้นำใช้ข้อมูล เพื่อค้นหาทุนและศักยภาพชุมชนในแต่ละพื้นที่ ก่อนจะนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิจัยมากำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อต่อยอดการพัฒนาชุมชนได้อย่างถูกต้อง


DBEA07F3-0B15-4761-9920-9446ADA8ADAB

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ชุมชนมีกระบวนการพัฒนาและจัดการตนเอง สร้างกระบวนการเรียนรู้โดยคนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาศักยภาพคนท้องถิ่นให้ "เก่งขึ้น" เกิดเป็นองค์ความรู้ที่สามารถถ่ายทอดและแลกเปลี่ยน เพื่อต่อยอดความสำเร็จและเติบโตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง

นายคมกริช นาคะลักษณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานองค์กรสัมพันธ์และบริหารองค์กรเพื่อความยั่งยืน กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า 'การวิจัยชุมชน' เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยให้คนในท้องถิ่นเป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนา ผสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อค้นหาจุดแข็งและศักยภาพที่แท้จริงของชุมชนแต่ละพื้นที่ ก่อนจะนำไปสู่การวางแผนเพื่อพัฒนาต่อยอดศักยภาพได้อย่างตรงจุด ไม่เสียเวลาและเงินทุนแบบเปล่าประโยชน์ และพัฒนาไปสู่ชุมชนต้นแบบเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่พื้นที่อื่น ๆ ต่อไป


????????????????????????????????????

งาน "ฮวมแฮง แบ่งปัน สร้างสรรค์ตำบล มิตรผลร่วมพัฒนา" ปีนี้จัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านกุดลันน้อยคีรี ต.โคกขมิ้น จ.เลย คือ หนึ่งความสำเร็จของแนวทางการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนของกลุ่มมิตรผล

ศูนย์เรียนรู้ตำบลโคกขมิ้นเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างคนในชุมชน มิตรผล ภาครัฐ และภาคีเครือข่ายในการปรับปรุงพื้นที่รกร้างให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการเกษตรและการเสริมสร้างอาชีพของคนในตำบล ทั้งการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ การปลูกผักปลอดสารพิษ เลี้ยงกบเลี้ยงปลา การแปรรูปอาหาร เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนอย่างน้อย 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเงินปันผลให้กับสมาชิก 50 คน

ขณะที่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกข้าวเพื่อสุขภาพบ้านนาหว้า-นาคำ ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ที่เริ่มต้นจากการรวมกลุ่มของคนรักสุขภาพสู่วิสาหกิจชุมชน สมาชิกในกลุ่มเป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เดิมทีแค่แบ่งพื้นที่ 2-3 ไร่ ไว้ปลูกข้าวเพื่อกินเองในครอบครัว แต่หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐและกลุ่มมิตรผลเข้ามาสนับสนุน ทำให้ได้ศึกษาแนวทางการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ จึงได้ชักชวนเพื่อน ๆ ให้มาร่วมกันทำ เช่น ปลูกผักปลอดสาร เลี้ยงไก่ไข่ ทำฟาร์มหมูหลุม และปลูกข้าวเพื่อสุขภาพ ต่อมาจึงรวมกลุ่มกันใช้เวลาว่างจากการทำไร่อ้อยมาทำข้าวเพื่อสุขภาพและจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและมิตรผลในการหาช่องทางการขาย เช่น ตลาดนัดสีเขียวชุมชน ขายให้โรงงานมิตรผล และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ

ปัจจุบัน กลุ่มผู้ปลูกข้าวเพื่อสุขภาพบ้านนาหว้า-นาคำสามารถสร้างรายได้ประมาณ 150,000 บาท/ปี

ที่ชุมชนแห่งนี้กำลังเริ่มทำโรงเรียนชาวนาเพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มาเรียนรู้ สอนตั้งแต่การปลูก การไถ เก็บเกี่ยว จนออกมาเป็นบรรจุภัณฑ์สูญญากาศ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างความมั่นคงในกับชุมชนต่อไป

6 ปีที่ผ่านมา กลุ่มมิตรผลดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีทีมพัฒนาชุมชนของแต่ละโรงงานเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานร่วมกับองค์กรและภาคีเครือข่ายการพัฒนาในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการชุมชนอย่างยั่งยืน ด้านการพัฒนาระบบเกษตรชุมชนและอาหารปลอดภัย และด้านการพัฒนาระบบเศรษฐกิจชุมชน โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2564 ทั้ง 21 ตำบลเครือข่าย (ประชากรรวมกว่า 51,000 ครัวเรือน) จะต้องมีศูนย์เรียนรู้ตำบลอย่างน้อยตำบลละ 1 แห่ง และอย่างน้อย 30% ของครัวเรือนเกษตรกรทั้ง 21 ตำบล (ประมาณ 9,100 ครัวเรือน) ต้องสามารถพึ่งตนเองได้ โดยมีอย่างน้อย 10% ของครัวเรือน (5,100 ครัวเรือน) เป็นต้นแบบการทำเกษตรผสมผสานเพื่อเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรรายอื่น ๆ ในชุมชนได้มาเรียนรู้และนำไปสู่การขยายผลต่อไป

595959859