อยู่กับปัจจุบัน : จับตา 'ทักษิณ' ถอดสลัก 'ระเบิด' เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ.!?

21 พ.ย. 2561 | 10:03 น.
จับตา-2 TH-thaksin-1000 ถึงนาทีนี้ ก็ยังถือว่า ศึกเลือกตั้ง จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 แน่นอน...

แม้ในท่ามกลางฝุ่นตลบของการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของนักการเมือง “ขั้ว-ฝ่าย” ต่างๆ รวมทั้งมีคำถามมากมายด้วยว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่? แต่ล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมายืนยัน ว่า (ยัง) ไม่มีเหตุอะไร? ที่จะทำให้ต้องเลื่อนวันเลือกตั้งจากที่กำหนด คือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า

และ (ยัง) ยํ้าว่าอีกวันสองวันนี้ กกต.จะประกาศเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา ก็ต้องถือว่า ชัดเจน 99.99% แล้วว่าการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า เพราะถ้าเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ รับรองว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถูกเล่นงาน “จมธรณี” แน่!!!!

ซึ่งนาทีนี้ก็เชื่อว่า หลายๆ คนคงพอจะเดาได้ ว่าหากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปแล้ว “รัฐบาลและคสช.” จะเสียหายอย่างไร?บ้าง
Thailand ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ คสช.เข้ามาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ครั้งแรกบอกว่า จะให้มีการเลือกตั้งประมาณเดือนตุลาคม 2558 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น ซํ้าร้ายยิ่งกว่านั้นยังมีการเลื่อนการเลือกตั้งด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ทำให้ คสช.ลากยาวอยู่นานกว่า 4 ปี และอายุมากกว่ารัฐบาลในสถานการณ์ปกติที่มาจากการเลือกตั้งเสียอีก

แต่คราวนี้ ดูเหมือนว่า ทาง “รัฐบาลและคสช.” จะรู้ดีว่าหากรัฐบาลใช้เหตุผลเดิมๆ อีก อาทิ เอาเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยในประเทศเป็นข้ออ้างในการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็จะถูก “รุม” ประณามแน่นอน ประเด็นเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นเหตุผลอื่น?อย่างปัญหาเรื่องเงื่อนเวลาของ กกต. หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นปัญหาที่มาจากพรรคการเมืองเอง...

 

[caption id="attachment_350890" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

ล่าสุด เมื่อ กกต.ยืนยันความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า เหตุผลเดียวที่จะทำให้ต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปจากกำหนดเดิม จึงน่าจะมาจากพรรคการเมืองอย่างเป็นด้าน “หลัก” และในท่ามกลางฝุ่นตลบของการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของนักการเมือง “ขั้ว-ฝ่าย” ต่างๆ

เชื่อว่าหลายคนจะต้องเห็นตรงกันว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่ายที่ “แยกร่าง” ออกไปหลายสาขา ภายใต้ยุทธศาสตร์ “แยกกันเดินรวมกันตี” ซึ่งมี “ร่องรอย” ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคชัดเจนกว่าพรรคการเมืองอื่น? ในที่นี้จะขอโฟกัสไปที่พรรคเครือข่ายตระกูลชิน เนื่องจากมีการจัดแถว แบ่ง “เกรด” ชัดเจนที่สุด
เพื่อไทย-12 เพื่อไทย-11 กล่าวคือ หากเปรียบเทียบเป็นบริษัท เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เริ่มจากพรรคเพื่อไทย ที่เป็น “บริษัทแม่” แล้ว “แยกร่าง” ออกไปเป็น “บริษัทลูก” เพื่อดำเนินธุรกิจใหม่ บริษัทลูกหรือพรรคเครือข่ายที่กำลังมาแรงกลับเป็น “พรรคไทยรักษาชาติ” หรือมีชื่อย่อว่า ทษช. เพียงพรรคเดียว

ส่วนพรรคเครือข่ายอื่น?ไม่ว่าจะเป็นเพื่อธรรม เพื่อชาติ หรือพรรคอะไหล่อีกหลายพรรค กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เหมือนถูกเบรกจาก “นายใหญ่-ดูไบ” หลังมีรายงานข่าวว่าพรรคอะไหล่เหล่านี้ จะแย่งฐานเสียงของ 2 พรรค (หลัก) คือ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และพรรคเพื่อไทย

ทั้งที่ยุทธศาสตร์ “แยกกันเดินรวมกันตี” มีสาเหตุมาจากกฎเกณฑ์ใหม่ กติกาใหม่ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 (ฉบับใหม่) ที่เชื่อว่าจะทำให้การเลือกตั้งคราวนี้จะไม่มีพรรคใดชนะแบบถล่มทลาย นั่นคือ จะไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก แต่คะแนนจะกระจายไปถึงพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กอีกหลายพรรค ทำให้ทุกคะแนนมีความหมาย...แพ้ในเขตเลือกตั้ง คะแนนก็จะถูกนำไปรวมเพื่อหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ!?!?
ไทยรักษาชาติ-5 จากกฎเกณฑ์ กติกาใหม่ของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี่แหละ ที่ทำให้นักการเมืองในเครือข่าย “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาคะแนนเสียงเดิมเอาไว้ ที่น่าสนใจคือ ในพรรคเพื่อไทยเอง ก็มีนักการเมือง “แถวหนึ่ง-แถวสอง” หรือ “ตัวจริง-ตัวสำรอง” หลายคนเคยเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่อันดับไปอยู่กลางๆ ค่อนไปทางปลายแถว ก็ย่อมจะเกิดความหวั่นไหว ว่าตัวเองมีสิทธิ์ปิ๋วแบบ “ชัวร์” ป๊าบแน่ๆ

สุดท้ายก็ไม่พ้นมือ “นายใหญ่-ดูไบ” ให้เข้ามาเป็นกาวใจ “เคลียร์” พื้นที่และจัดแถวให้ลงตัวด้วยสูตร (ส.ส.แบ่งเขต) “250-100” ของ 2 พรรคหลัก“เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ” โดยถือเอา “จังหวะ” ช่วงที่นายใหญมีนัดหมายกับแพทย์ ที่ประเทศสิงคโปร์ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อต้องการจะ“จัดทัพ” ให้เสร็จภายในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ (วันสุดท้ายในการสังกัดพรรค)...

ก่อนที่ปัญหาจะบานปลายจนส่งผลกระทบไปถึงกำหนดวันเลือกตั้ง

| คอลัมน์ : อยู่กับปัจจุบัน 
| โดย : พงษ์ศักดิ์ ศรีสด 
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 14 ฉบับที่ 3,419 ประจำวันที่ 18 -21 พฤศจิกายน 2561
595959859