พาณิชย์จับมือเอกชน! ผลักดันส่งออกปี 62 มั่นใจโตไม่ต่ำกว่า 8%

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงทิศทางการส่งออกของไทยในปี 2562 ว่า มีการคาดการณ์การส่งออกจะขยายตัว 8% มูลค่า 276,011 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ยเดือนละ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปัจจัยบวก คือ ผู้ประกอบการขยายการส่งออกและการลงทุนไปตลาดใหม่ มีการลงทุนจากต่างประเทศในสาขาที่ไทยพร้อมสนับสนุน ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา ส่วนใหญ่ยังเป็นบวก เช่น รัสเซียและ CIS จาก 2.3% เป็น 2.4%, ลาตินอเมริกา จาก 1.2% เพิ่มเป็น 2.2%, ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ จาก 2.0% เป็น 2.5% แม้บางประเทศจะลดลงก็เพียงเล็กน้อย เช่น จีนลดลงเหลือ 6.2% จาก 6.6% อาเซียน 5 ประเทศ เหลือ 5.2% จาก 5.3% เป็นต้น

[caption id="attachment_350328" align="aligncenter" width="503"]

บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ[/caption]

ขณะที่ การส่งออกในแต่ละตลาดในปีหน้า เชื่อว่าทุกตลาดจะเป็นบวก ไม่ว่าจะเป็น อเมริกาเหนือ 6.1%, สหภาพยุโรป (อียู) 27 ประเทศ 3.0%, รัสเซียและ CIS 10.0% จีน 12.0% ฮ่องกง 12.0%, เอเชียตะวันออก คือ ไต้หวัน 7.0% ญี่ปุ่น 7.0% เกาหลีใต้ 7.0%, อาเซียน 9 ประเทศ 8.3%, อาเซียน 5 ประเทศ 8.2%, CLMV 8.4%, ทวีปออสเตรเลีย 6.0%, ลาตินอเมริกา 6.0%, ตะวันออกกลาง 3.0%, เอเชียใต้ 8.0%, แอฟริกา 10%

นอกจากนี้ กรมยังจะเร่งดำเนินการใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ เพิ่มช่องทางการค้าทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์, สร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ และผลักดันการเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจในประเทศออกสู่ตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น เพราะจะเป็นฐานสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนตัวเลขการส่งออก ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการไทยจะต้องรักษาคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศด้วย โดยในปีหน้ากรมเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกว่า 500 กิจกรรม เพื่อรักษาตัวเลขการค้าและการส่งออกทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนการส่งออกในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัว 8% มูลค่า 255,565 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออกที่เหลือ 3 เดือนสุดท้าย ต้องทำได้ไม่น้อยกว่า 21,945 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ส่วนสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเนื่อง โดยมีสินค้าที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกล เป็นต้น ขณะเดียวกัน ก็มีสินค้าบางชนิดที่มีโอกาสในการทำตลาดในภาวะสงครามการค้า เช่น สินค้าประเภทอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยจะทำตลาดในช่วงที่สหรัฐฯ กับจีนยังมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่

"กรมฯ มั่นใจแม้ตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ย. จะปรับตัวลดลงบ้าง เกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการการตอบโต้สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน ทำให้ตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ย. ออกมาไม่ดี แต่เดือน ต.ค. และเวลาที่เหลือ เมื่อสงครามการค้าไม่รุนแรง จะทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยยังคงเติบโต"

นอกจากนี้ กรมจะร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าต่างประเทศ พัฒนาสินค้าชุมชนและธุรกิจบริการให้สามารถพัฒนาตัวเอง เพื่อจะผลักดันไปทำตลาดในต่างประเทศ ตามที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายกระทรวงพาณิชย์และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะไม่ดีมาก แต่การพัฒนาภาคธุรกิจรายจังหวัดจะต้องพัฒนาสร้างความเข้มแข็งควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้า เพราะเชื่อว่ากลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้มีศักยภาพเพียงพอ แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวไปบ้างก็ตาม