เขตเศรษฐกิจพิเศษดันค้าชายแดน กรมการค้าต่างประเทศเล็งเป้าปีนี้1.5ล้านล้าน

03 มี.ค. 2559 | 08:30 น.
ม.หอการค้าฯฟันธง เขตเศรษฐกิจช่วยดันตัวเลขค้าชายแดนพุ่ง 20% ติงไทยให้สิทธิประโยชน์ดึงนักลงทุนน้อยกว่าลาว เวียดนามควรแก้ไขเพิ่มสิทธิอย่างเข้มข้นเพื่อจูงใจระยะสั้นทดแทนไทยไม่ได้เป็นสมาชิกทีพีพี ขณะ กนอ.รับลูกเตรียมแก้กฎหมายเช่าที่ดินได้นาน 99 ปี ชู 3 จังหวัดนำร่องสร้างนิคมบริการโลจิสติกส์ ด้าน คต.เล็งเป้าค้าชายแดนปีนี้พุ่ง 1.5 ล้านล้านบาท

ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึง การเดินหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่า หากไทยมีเขตเศรษฐกิจพิเศษน่าจะช่วยให้มูลค่าการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านจาก 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นได้อีก 10-20% ในอนาคต แต่ทั้งนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยมักจะมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องการส่งออกเพียงอย่างเดียวและไม่มีการเชื่อมโยงกันคือต่างคนต่างผลิตสินค้าออกมาแข่งขันกันเอง ดังนั้นสิ่งที่อยากจะเสนอรัฐบาลคือการแบ่งโซนการลงทุนและส่งเสริมทั้งการผลิตเพื่อการส่งออกและการเป็นโมเดิร์นส่วนการให้สิทธิประโยชน์ในเขตเศรษฐกิจของไทยถือว่ามีความน่าสนใจเพียงระดับปานกลางเท่านั้น โดยไทยยังให้สิทธิประโยชน์การลงทุนน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ในลาวนักลงทุนสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้นานถึง 99 ปี และเวียดนาม ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนานถึง 15 ปี แต่ไทยเองก็มีข้อได้เปรียบ เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสะดวกอยู่ในลำดับที่ 44 ของโลก ขณะที่เพื่อนบ้านส่วนใหญ่อยู่ในลำดับที่ 70-80 และแรงงานไทยยังมีทักษะฝีมือสูงกว่า

อย่างไรก็ตามจากที่ผู้ประกอบการจะพิจารณาการลงทุนจากขนาดของตลาดและการเข้าถึงตลาดโลกประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย ซึ่งระยะสั้นจากการที่ไทยยังไม่เข้าเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ก็อาจทำให้ไทยเสียเปรียบเวียดนามได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงควรพิจารณาในเรื่องสิทธิประโยชน์ที่ไทยจะให้แก่นักลงทุนเข้มข้นมากขึ้น

ขณะที่นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายเช่าที่ดินในนิคม จากเดิม 50 ปี เป็น 90 ปีซึ่งหากสามารถแก้ไขได้ก็จะเพิ่มการดึงดูดนักลงทุนรวมไปถึงการแก้ไขเรื่องของอัตราค่าเช่าด้วย ทั้งนี้ ทาง กนอ. อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดทำแผนพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยนิคม เป้าหมายที่จะดำเนินการเป็นอันดับแรก คือ นิคมอุตสาหกรรมบริการโลจิสติกส์ มี 3 แห่งพร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างแล้วคือ สระแก้ว สงขลา และตาก

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสระแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีความพร้อมทุกด้าน และจะเป็นต้นแบบหรือโมเดลให้แก่ 9 เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อนำไปปรับใช้ ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย ได้แก่ โลจิสติกส์ และศูนย์กระจายสินค้า ขณะที่มูลค่าการค้าชายแดน และหน้าด่านในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการค้าชายแดนอย่างเดียว 1.1 ล้านล้านบาท และยังมีการค้าชายแดนที่ไม่ได้เก็บข้อมูลอีกจำนวนมาก ดังนั้นจึงเชื่อว่า ในปีนี้จะมีมูลค่าการชายแดนของไทย จะมีมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยในเดือนมีนาคมนี้จะมีการประชุมเพื่อสรุปเป้าหมายการค้าชายแดนในปี 2559 ต่อไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,136 วันที่ 3 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2559