คนกทม.เตรียมกระอักรถร่วมเอกชนจ่อปรับค่าโดยสาร
คนกรุงกระอัก! รถร่วมเอกชนจ่อปรับค่าโดยสาร อ้างสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ด้าน “อาคม” โยนคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางชี้ขาด พร้อมกำชับให้พิจารณาแล้วเสร็จกลาง ธ.ค.นี้ รถร้อนปรับจาก 9 บาทเป็น 12 บาท ส่วนรถปรับอากาศเริ่มต้น 13 บาทต่อเที่ยว เป็นระยะละ 2 บาท เป็น 15 บาทต่อเที่ยว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังจากที่นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน และนางภัทรวดี กล่อมจรูญ สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง เข้าพบและยื่นขอปรับอัตราค่าโดยสารเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงว่า เรื่องนี้ได้หารือร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องและได้มีการแก้ไขปัญหามาโดยตลอดระหว่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) กรมการขนส่งทางบก
โดยสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง และสมาคมพัฒนารถร่วมบริการ ได้มีการเสนอให้ทางกระทรวงคมนาคมพิจารณาในการปรับอัตราค่าโดยสารรถประจำทางแบบรถธรรมดาจากเดิมราคา 9 บาท เป็น 12 บาทตลอดสาย และรถโดยสารปรับอากาศจากราคาเริ่มต้น 13 บาทต่อเที่ยว ขอปรับเพิ่มขึ้นระยะละ2 บาท เป็น 15 บาทต่อเที่ยว ส่วนรถโดยสารปรับอากาศที่จะเข้าสู่โครงการปฏิรูป จะขอให้จัดเก็บอัตราค่าโดยสารเริ่มจาก 20 บาท ในระยะ 4 กิโลเมตรแรก ส่วนกิโลเมตรที่ 5 เริ่มจัดเก็บที่ 25 บาท ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย( TDRI )
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก โดยคณะกรรมการกรมขนส่งทางบกกลางรับข้อเสนอของทางผู้ประกอบการไว้พิจารณาและอนุมัติปรับขึ้นราคาค่าโดยสารให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนธันวาคมนี้ ส่วนจะขึ้นในอัตราเท่าไหร่นั้นทางคณะกรรมการฯจะพิจารณาอีกครั้ง
ในส่วนของการปฏิรูปเรื่องรถโดยสารประจำทางนั้น นอกจากในเรื่องของรถโดยสารใหม่แล้วรถโดยสารเก่านั้นก็ได้ให้ทางคณะกรรมการฯพิจารณาว่ามีเงื่อนไขในการปรับปรุงรถและการให้บริการอย่างไรบ้าง ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดหารถใหม่เข้ามาทดแทนต่อไป
“มีข้อเสนอ 3 ประเด็น คือการปรับอัตราค่าโดยสารรถธรรมดา จากอัตราจัดเก็บ 9 บาทตลอดสายเพิ่มเป็น 12 บาทตลอดสาย และรถปรับอากาศจาก 13 บาทเพิ่มเป็น 15 บาท เพิ่มระยะละ 2 บาท และรถใหม่ปรับอากาศจะขอช่วง 4 กิโลเมตรแรก จัดเก็บ 20 บาทหลังจากนั้นขอจัดเก็บ 25 บาทตลอดสาย สอดคล้องกับที่ TDRI ศึกษาเอาไว้แล้ว
ด้านนางภัทรวดี กล่อมจรูญ สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่าในการหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ โดยทางสมาคมทั้ง 2 สมาคมก็ยินดีและจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่จะปรับปรุงคุณภาพการให้บริการรถโดยสารให้ดีขึ้นหากรัฐบาลอนุมัติเร็วเท่าไหร่ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ขณะที่นายวิทยา เปรมจิตร์ สมาคมพัฒนารถร่วมบริการรถโดยสารร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่าก่อนหน้านี้ทางผู้ประกอบการเคยเสนอแผนธุรกิจขอเพียงรัฐ กำหนดค่าโดยสารที่ชัดเจนเพื่อกำหนดจุดคุ้มทุนในการลงทุนได้ ยิ่งเร็วประชาชนได้ประโยชน์ หากมีการปรับค่าโดยสารให้ภายใน 1 ปี จะเห็นบริการที่ดีขึ้นแน่นอน เพราะเอกชนซื้อรถได้เร็วกว่า ขสมก.อยู่แล้ว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังจากที่นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน และนางภัทรวดี กล่อมจรูญ สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง เข้าพบและยื่นขอปรับอัตราค่าโดยสารเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงว่า เรื่องนี้ได้หารือร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องและได้มีการแก้ไขปัญหามาโดยตลอดระหว่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) กรมการขนส่งทางบก
โดยสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง และสมาคมพัฒนารถร่วมบริการ ได้มีการเสนอให้ทางกระทรวงคมนาคมพิจารณาในการปรับอัตราค่าโดยสารรถประจำทางแบบรถธรรมดาจากเดิมราคา 9 บาท เป็น 12 บาทตลอดสาย และรถโดยสารปรับอากาศจากราคาเริ่มต้น 13 บาทต่อเที่ยว ขอปรับเพิ่มขึ้นระยะละ2 บาท เป็น 15 บาทต่อเที่ยว ส่วนรถโดยสารปรับอากาศที่จะเข้าสู่โครงการปฏิรูป จะขอให้จัดเก็บอัตราค่าโดยสารเริ่มจาก 20 บาท ในระยะ 4 กิโลเมตรแรก ส่วนกิโลเมตรที่ 5 เริ่มจัดเก็บที่ 25 บาท ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย( TDRI )
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก โดยคณะกรรมการกรมขนส่งทางบกกลางรับข้อเสนอของทางผู้ประกอบการไว้พิจารณาและอนุมัติปรับขึ้นราคาค่าโดยสารให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนธันวาคมนี้ ส่วนจะขึ้นในอัตราเท่าไหร่นั้นทางคณะกรรมการฯจะพิจารณาอีกครั้ง
ในส่วนของการปฏิรูปเรื่องรถโดยสารประจำทางนั้น นอกจากในเรื่องของรถโดยสารใหม่แล้วรถโดยสารเก่านั้นก็ได้ให้ทางคณะกรรมการฯพิจารณาว่ามีเงื่อนไขในการปรับปรุงรถและการให้บริการอย่างไรบ้าง ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดหารถใหม่เข้ามาทดแทนต่อไป
“มีข้อเสนอ 3 ประเด็น คือการปรับอัตราค่าโดยสารรถธรรมดา จากอัตราจัดเก็บ 9 บาทตลอดสายเพิ่มเป็น 12 บาทตลอดสาย และรถปรับอากาศจาก 13 บาทเพิ่มเป็น 15 บาท เพิ่มระยะละ 2 บาท และรถใหม่ปรับอากาศจะขอช่วง 4 กิโลเมตรแรก จัดเก็บ 20 บาทหลังจากนั้นขอจัดเก็บ 25 บาทตลอดสาย สอดคล้องกับที่ TDRI ศึกษาเอาไว้แล้ว
ด้านนางภัทรวดี กล่อมจรูญ สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่าในการหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ โดยทางสมาคมทั้ง 2 สมาคมก็ยินดีและจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่จะปรับปรุงคุณภาพการให้บริการรถโดยสารให้ดีขึ้นหากรัฐบาลอนุมัติเร็วเท่าไหร่ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ขณะที่นายวิทยา เปรมจิตร์ สมาคมพัฒนารถร่วมบริการรถโดยสารร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่าก่อนหน้านี้ทางผู้ประกอบการเคยเสนอแผนธุรกิจขอเพียงรัฐ กำหนดค่าโดยสารที่ชัดเจนเพื่อกำหนดจุดคุ้มทุนในการลงทุนได้ ยิ่งเร็วประชาชนได้ประโยชน์ หากมีการปรับค่าโดยสารให้ภายใน 1 ปี จะเห็นบริการที่ดีขึ้นแน่นอน เพราะเอกชนซื้อรถได้เร็วกว่า ขสมก.อยู่แล้ว
