สงครามการค้าเร่งการกระจายการลงทุนออกจากจีน

19 พ.ย. 2561 | 10:37 น.
สงครามการค้าอาจเป็นปัจจัยเร่งการกระจายการลงทุนออกจากจีน ทว่า ไทยคงได้อานิสงส์ที่จำกัดเฉพาะในบางอุตสาหกรรม

ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ผ่านการกระจายการลงทุนจากจีนไปยังประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้า อย่างไรก็ดี อานิสงส์ทางตรงจะเกิดขึ้นต่อไทยในระดับที่จำกัด เนื่องจากไทยไม่ได้อยู่ในฐานะผู้รับการลงทุนที่ใช้แรงงานเข้มข้นอยู่แล้ว ขณะที่สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนขึ้น สินค้าหลายประเภทจีนยังคงมีความได้เปรียบทางการแข่งขันทางด้านราคาจนยากที่จะเกิดการเบี่ยงเบนการลงทุน

ผลที่อาจเกิดขึ้นกับไทยนั้น ไทยอาจได้อานิสงส์เฉพาะการลงทุนในสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อน ในผลิตภัณฑ์ที่ไทยนับได้ว่ามีศักยภาพในการแข่งขันค่อนข้างสูงในเวทีโลก ซึ่งคาดว่ากระจุกอยู่ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อย่าง HDDs, ICs, PCB ที่ไทยเองก็มีบทบาทในเวทีโลกค่อนข้างมาก นอกจากนี้ สินค้าที่ไทยมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบอย่างการแปรรูปยางพาราซึ่งจีนนำเข้าวัตถุดิบจากไทยเพื่อไปผลิตต่อและส่งออกไปสหรัฐฯ ก็อาจมีการย้ายฐานการผลิตมาไทยเพิ่มเติมได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ผลบวกทางตรงของการกระจายฐานการผลิตสินค้าขั้นปลายน้ำและสินค้าขั้นกลางที่ซับซ้อนในไทยกับการกระจายการลงทุนในกลุ่มสินค้าที่ไทยมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นบรรษัทต่างชาติที่ประกาศเจตนารมณ์แล้วและบางส่วนที่มีแนวโน้มย้ายฐานมาไทยเพิ่มจากสงครามการค้าอาจช่วยเพิ่มมูลค่า FDI ในไทยในช่วง 3 ปีแรกของสงครามการค้า (2562-2564) ได้อย่างน้อย 800 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งคิดเป็นเพียงราวร้อยละ 1 ของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิโดยเฉลี่ยต่อปีในไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ค่าเฉลี่ย FDI ปี 2558-2560) เท่านั้น อย่างไรก็ดี หากพิจารณาควบคู่กับผลกระทบด้านการค้าที่ไทยอาจได้รับจากสงครามการค้าที่เคยประเมินก่อนหน้านี้ ผลกระทบสุทธิ (Net impact) ต่อไทยยังคงอยู่ในเชิงลบ

อนึ่ง ไทยอาจได้รับอานิสงส์ทางอ้อมผ่านการส่งออกสินค้าขั้นกลางอย่างเม็ดพลาสติกหรือสิ่งทอเพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้าปลายน้ำในกลุ่ม CLMV ที่อาจได้อานิสงส์ FDI ในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นมากขึ้น

ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

[caption id="attachment_349434" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]