เปิดรับสมัคร ส.ว.วันแรก 26 พ.ย.นี้ กกต.ย้ำห้ามหาเสียง

19 พ.ย. 2561 | 10:03 น.
 

กกต. เปิดรับสมัครสว. ทั่วประเทศ 26 พ.ย. ย้ำ ห้ามหาเสียง ระบุ คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/2561 เพื่อให้กกต.ปฏิบัติงานได้

จรุงวิทย์-2

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงหลังการประชุม กกต. ว่า กกต.มีมติกำหนดวันเลือกและรับสมัครสว.ตั้งแต่วันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2561 วันเลือกระดับอำเภอ 16 ธันวาคม วันเลือกระดับจังหวัด 22 ธันวาคม และวันเลือกระดับประเทศวันที่ 27 ธันวาคม 2561 จากนั้นจะมีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และจะเปิดรับสมัครที่อำเภอและสำนักงานเขตทั้งผู้สมัครอิสระและผู้สมัครจากองค์กร โดยทั้งองค์กรที่ส่งผู้สมัครและผู้สมัครอิสระต้องเตรียมหลักฐานให้พร้อมจึงขอให้มาแต่เนิ่นๆ อย่ารอจนถึงวันสุดท้าย รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามให้ครบถ้วน และอย่าฮั้วกันหรือทำผิดกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายแล้วผู้สมัครสว.ไม่สามารถหาเสียงได้

ณัฎ-2

ด้านนายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองลขาธิการ กกต. กล่าวว่า คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/61 ออกมาเพื่อให้ กกต.ปฏิบัติงานได้เรียบร้อยและให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตเลือกตั้งพึงพอใจภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย และให้กกต.ได้พิจารณาคำร้องอย่างรอบคอบ ซึ่งในวันนี้ กกต.มีการพิจารณาคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่16/61 และมีมติที่จะออกประกาศ กกต.กำหนดระยะเวลารับเรื่องร้องเรียนโดยจะเปิดรับตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งฝ่ายที่มีส่วนได้เสียกับการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นประชาชนพรรคการเมือง หากเห็นว่าควรแบ่งเขตรูปแบบใด ก็สามารถเสนอความเห็นมาได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ต้องระบุชื่อ นามสกุล ที่อยู่ให้ชัดเจนและให้ความเห็นด้วยว่าต้องการให้รูปแบบการแบ่งเขตเป็นแบบใด ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับมาตรา 27 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อให้ กกต.พิจารณา ซึ่งได้วางกรอบเวลาเป็นการภายในว่า กกต.จะเริ่มพิจารณาในวันที่ 26 พ.ย.และเสร็จไม่เกิน 30 พฤศจิกายน จากนั้นจะส่งประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งลงในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วต่อไป แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้เมื่อใด โดยมีกำหนดว่า ต้องทำให้แล้วเสร็จก่อน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.มีผลใช้บังคับ

นายณัฏฐ์ รองเลขาธิการกกต. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีคำร้องที่ตกค้างอยู่ที่ กกต.หลังพิจารณาแบ่งเขตเสร็จรอบที่แล้วเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนจนถึงปัจจุบันประมาณ 26 คำร้อง ซึ่งกกต.จะหยิบขึ้นมาพิจารณารวมกับคำร้องใหม่ที่จะมีเข้ามาทั้งผ่านช่องทางที่ร้องตรงมายังกกต. และผ่านคสช.กับรัฐบาลด้วย โดยการพิจารณาของกกต.ไม่ได้เป็นการรื้อเขตเลือกตั้งทุกจังหวัด แต่จะพิจารณาเฉพาะจังหวัดที่มีการยื่นคำร้องเข้ามาเท่านั้น

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการของ กกต.เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แต่คงไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับจังหวัดที่มีการยื่นคำร้องเข้ามา รวมถึงรูปแบบที่เสนอได้

“หากเปิดเผยก็จะมีการโต้แย้งกันไม่จบสิ้น อีกทั้งอำนาจในการแบ่งเขตก็เป็นของ กกต. การที่กฎหมายกำหนดให้รับฟังความเห็นเป็นเพียงการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ยืนยันว่ารูปแบบเขตเลือกตั้งที่ กกต.กำหนดจะยึดโยงกับรูปแบบที่ได้เคยรับฟังความเห็นประชาชนมาแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย เพราะ กกต.คงไม่เอาตัวไปเสี่ยงกับการทำผิดกฎหมายเพื่อใครคนใด คนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าการแบ่งเขตไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ ฉะนั้นมันต้องมีทั้งคนได้และคนเสียในเวทีของการแบ่งเขต” นายณัฏฐ์ กล่าว

e-book-1-503x62-7