โหมบิ๊กแพ็กเกจแสนล้าน! จัดของขวัญกระตุ้น ศก. - เพิ่มบีโอไอดึงทุนนอก - อุ้มฐานราก

19 พ.ย. 2561 | 08:23 น.
191161-1454

รัฐบาลเตรียมคลอดแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้าน รับผลกระทบสงครามการค้า ของขวัญปีใหม่ประชาชน ชง 'อภิศักดิ์' เคาะ 23 พ.ย. นี้ พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์บีโอไอดึงทุนนอก อัดงบอุ้มฐานราก

ผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันจากสงครามการค้า ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่ลดลงและราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดตกต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สั่งการให้แต่ละกระทรวงไปจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชน รวมทั้งการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา

 

[caption id="attachment_349622" align="aligncenter" width="335"] กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[/caption]

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยที่เติบโตในอัตราชะลอลงเดินไปข้างหน้า เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอลง รวมทั้งเศรษฐกิจโลกเองก็กำลังมีแนวโน้มไม่ดีจากสงครามการค้า ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท รัฐบาลจึงอาจต้องมีมาตรการเหล่านี้ออกมาเพื่อให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติของความลำบากครั้งนี้

"โดยปกติช่วงเทศกาลปีใหม่หลายกระทรวงจะออกของขวัญปีใหม่อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นมาตรการต่าง ๆ แต่หากจะเป็นแพ็กเกจใหญ่เชื่อว่าจะมีการหารือกัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังสะดุดนิดหน่อย เหมือนจะเป็นการปรับตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ไม่รู้ว่าจะปรับตัวมากน้อยแค่ไหน"


gift-548293_1280

คลังเสนอ 'อภิศักดิ์' 23 พ.ย.
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปทำการบ้าน ว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาคเศรษฐกิจใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยว หรือ การค้า เพื่อดูว่ามาตรการที่จะออกมาจะเป็นอย่างไร ส่วนจะมีมาตรการภาษีหรือมาตรการที่ออกมาจะแรงแค่ไหนนั้น ต้องขึ้นกับว่ารัฐบาลได้ตั้งงบประมาณในการดำเนินการเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน โดยจะนำเรื่องเสนอต่อ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในวันที่ 23 พ.ย. นี้ เพื่อสรุปเป็นมาตรการและเสนอ ครม.

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า มาตรการที่ได้ข้อสรุปและเตรียมที่เสนอ ครม. พิจารณา คือ การเพิ่มค่าตอบแทนให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) อีก 400 บาท จากเดือนละ 600 บาท เป็น 1,000 บาท งบประมาณรวมกว่า 4 พันล้านบาท และการลดค่าเช่าแผงให้กับผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดนัดจตุจักร จากเดือนละ 3,100 บาท เหลือ 1,800 บาท พร้อมโอนให้ กทม. ไปบริหาร โดยมาตรการทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ ให้แต่ละกระทรวงเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณา ก่อนวันที่ 10 ธ.ค. นี้ โดยคาดว่าจะมีการอัดฉีดเงินลงไปไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

 

[caption id="attachment_349627" align="aligncenter" width="335"] นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ[/caption]

เพิ่มสิทธิประโยชน์บีโอไอ
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดบีโอไอที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันที่ 19 พ.ย. นี้ จะมีการเสนอแพ็กเกจการส่งเสริมการลงทุนเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี) ในแต่ละประเภทกิจการให้ที่ประชุมเห็นชอบ ซึ่งจะทำให้การลงทุนในสมาร์ทซิตีมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงสิทธิประโยชน์บางอย่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนมากขึ้น

บอร์ดบีโอไอออกมาตรการส่งเสริมลงทุนชุดใหญ่

นอกจากนี้ จะเสนอมาตรการเร่งรัดการลงทุนตามนโยบายปีแห่งการลงทุน โดยให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากเกณฑ์ปกติแก่โครงการที่ยื่นคำขอภายในปี 2562 และเป็นการลงทุนที่เข้าตามหลักเกณฑ์ คาดว่ามาตรการนี้จะช่วยเร่งรัดให้นักลงทุนตัดสินใจและลงทุนโดยเร็ว รวมทั้งจะเสนอมาตรการกระตุ้นให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตลาดทุนของประเทศไทย

 

[caption id="attachment_349628" align="aligncenter" width="335"] นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน[/caption]

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า กรมกำลังอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับรูปแบบการใช้เงินและวิธีการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในโครงการช่วยเหลือกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้ซื้อน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในราคาถูกกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตร จำนวน 4 หมื่นราย ให้ได้รับการช่วยเหลือวันละไม่เกิน 5 ลิตรต่อรายต่อวัน หรือประมาณ 150 ลิตรต่อเดือน หรือคิดเป็นมูลค่า 450 บาทต่อเดือน หรือใช้เงินช่วยเหลือประมาณ 18 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ธ.ค. นี้

นอกจากนี้ จะอุดหนุนราคาน้ำมันไบโอดีเซล บี20 ให้กับกลุ่มรถบรรทุกและกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ให้ถูกกว่าน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) เพิ่มขึ้นจะมีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2561 - 28 ก.พ. 2562 โดยมาตรการดังกล่าวจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 700 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_349629" align="aligncenter" width="439"] กฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[/caption]

เร่งแก้ราคาสินค้าเกษตรวูบ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สินค้าเกษตรหลายตัวที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงและจะต้องมีมาตรการรีบแก้ไขด่วน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราคายางพารา ที่จะเสนอขอให้ ครม. อนุมัติงบกลางกว่า 2 หมื่นล้านบาท มาแก้ปัญหาใน 2 มาตรการ ประกอบด้วย 1.การชดเชยรายได้ให้กับชาวสวนยาง และ 2.โครงการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา ขั้นต่ำ 3 ชนิด ได้แก่ น้ำยางสด ไม่ต่ำกว่า กก. ละ 37 บาท, ยางก้อนถ้วย ไม่ต่ำกว่า กก. ละ 35 บาท และยางแผ่นรมควัน ไม่ต่ำกว่า กก. ละ 40 บาท นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาราคามะพร้าว ที่จะเสนอให้ ครม. พิจารณา ส่วนปาล์ม ครม. ได้อนุมัติ 4 มาตรการลดสต๊อก ดันส่งออก เพื่อขยับราคาในประเทศเพิ่มขึ้นไปแล้ว


ทุ่ม 6 หมื่นล้าน บ้านล้านหลัง
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. ได้เสนอโครงการบ้านล้านหลัง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทย โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ว่า ให้กระทรวงการคลังนำเสนอที่ประชุม ครม. เห็นชอบ "โครงการบ้านล้านหลัง" ภายใต้กรอบวงเงินรวม 60,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) วงเงิน 10,000 ล้านบาท 2.สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย (Post Finance) วงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย คนวัยทำงานที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัวและผู้สูงอายุ เพื่อซื้อหรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_349630" align="aligncenter" width="503"] วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน[/caption]

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในร่วมกับผู้ประกอบการจัดมหกรรม "ลดหนัก จัดเต็ม New Year Grand Sale" ซึ่งเป็นการลดราคา 30-70% เน้นหมวดสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภคและจะนำสินค้าในกลุ่มของฝากเพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนในระหว่างวันที่ 13 ธ.ค. 2561 - 9 ม.ค. 2562 รวม 28 วัน พร้อมกันทั่วประเทศ ทั้งในห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีกค้าส่ง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน คาดว่าจะทำให้เงินสะพัดในช่วงดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท


124783

……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,419 วันที่ 18 - 21 พ.ย. 2561 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พร้อมแจก "ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์" ของขวัญวันเด็ก 2562 สำหรับทุกคน
นายกฯเตรียมมอบสามของขวัญให้คนไทยเนื่องในวันปีใหม่ไทย


เพิ่มเพื่อน
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว