พปชร. แย้มนโยบายอุ้มเกษตรกร-ล้างหนี้นอกระบบ-ช่วยผู้มีรายได้น้อย

18 พ.ย. 2561 | 08:31 น.
"พลังประชารัฐ" แย้มนโยบายล้างหนี้นอกระบบ ปลดแอกเกษตรกร สร้างความมั่นคงในชีวิต มีที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน ต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อุ้มพืชเกษตร-เอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพ "สุริยะ" มั่นใจ! กวาด ส.ส. 150 เสียง

ในการประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่โรงแรมแชงกรี-ล่า วันที่ 18 พ.ย. 2561 นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวบนเวที ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก ระบุว่า วันนี้ พปชร. มีความสมบูรณ์ทุกอย่าง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อนุมัติพรรคเรา ทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า แต่มากด้วยอุดมการณ์ นี่คือ ส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดที่จะร่วมทำนโยบายที่เหมาะสมที่สุด


อุตตม1

นายอุตตม กล่าวว่า พรรคพร้อมรับใช้ประชาชนทั่วประเทศ เราจะยึดมั่นในการสร้างความสงบ ความมั่นคงให้ประเทศ ความสงบในที่นี้ คือ ในอดีตประเทศเราบอบช้ำมาก ประเทศเราตกอยู่ในหลุมดำมานาน เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้งให้ได้

ส่วนความมั่นคง คือ ครอบครัวเราจะมั่นคงไม่ได้ ถ้าลูกหลานเรายังติดยาเสพติด รวมถึงความมั่นคงของประเทศชาติ นั่นหมายความถึงประเทศเราต้องเป็นสังคมสีขาว

ความมั่นคงอีกอย่าง คือ เราต้องนำความสุขกลับสู่ครอบครัว โดยการล้างหนี้นอกระบบ ปลดแอกเกษตรกร พรรคจะสร้างความมั่นคงในที่อยู่อาศัย เติมเต็มศักยภาพให้ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต


ประชารัฐ

ความมั่นคงต้องอยู่คู่กับสังคมที่เกื้อกูล คือ เป็นสังคมประชารัฐที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เติมเต็มเงินให้ผู้มีรายได้น้อยให้มีเงินใช้ในชีวิตประจำวันโดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราจะต่อยอดและมีภาค 2 แน่นอน

ขณะที่ นโยบายด้านความมั่นคงจะเป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความมั่นคงให้ประชาชนทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญทั้งเรื่องที่ดินทำกิน พืชเกษตร อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย และต้องสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ รวมถึงภาคแรงงานด้วย

กลุ่มผู้ประกอบการเถ้าแก่น้อยและเอสเอ็มอี เราจะดูแลให้ครบวงจร คนที่ล้มจากภาระหนักอึ้ง แต่ใจยังสู้ เราต้องช่วยให้เขาลุกขึ้นมาให้ได้ เราจะเติมเต็มให้ครบทุกภาคส่วน ส่วนสตาร์ทอัพก็จะส่งเสริมบ่มเพาะให้มีโอกาสนำสิ่งดี ๆ มาให้ประเทศ รวมทั้งด้านเรื่องการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน ระบบดิจิตอล น้ำ พลังงาน เหล่านี้เราจะกระตุ้นให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ

"พวกเราไม่มีใครเป็นตัวแทนพรรค เราไม่มีพรรคสำรอง เราจะเดินอย่างตรงไปตรงมา" นายอุตตม ระบุ


ชู พปชร. ทางออกประเทศ
จากนั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ขึ้นเวทีกล่าวกับสมาชิก ระบุว่า ไม่เชื่อสายตาว่าวันนี้เราจะสามารถรวบรวมคนได้มาก แปลว่าพรรคนี้ประมาทไม่ได้ และมีคนบอกว่า พรรคมีแค่ 4 กุมาร ก็ขอบอกว่าอายุจะ 60 ปีกันหมดแล้ว จะเป็น 4 กุมารได้อย่างไร แต่วันนี้ข้างหลังกุมารมีนินจา และวันนี้เป็นวันประกาศศักดาก้าวที่ 1 ของพรรค

วันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้ คือ "พลังประชารัฐ" ที่ทุกคนมาอยู่ร่วมกัน มาเยอะขนาดนี้จะไม่กวาด 350 เสียงได้อย่างไร พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ขโมยชื่อใครมา แต่เห็นว่าเมื่อเราจะทำการเมืองทั้งที จะต้องไม่ใช่เป็นพรรคของคนใดคนหนึ่ง ภาคใดภาคหนึ่ง ไม่ใช่มีใครเป็นเจ้าของ ถึงพวกเราอยู่ที่นี่เห็นนั่งมองหน้าแต่ละคนมีของ ถ้าปลุกพระก็ขึ้น


สนธิรัตน์1

"ผมในฐานะแม่บ้านพรรค ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าร่วมอุดมการณ์พรรคพลังประชารัฐ และครั้งนี้ถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ว่า ประเทศไทยมีทางออกแล้ว ตั้งแต่มีพรรคพลังประชารัฐ และถ้าไม่มีพรรคพลังประชารัฐ ประเทศไร้ทางออกโดยสิ้นเชิง ประเทศไทยอยู่ในมือเราทุกคน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเวทีมีการเชิญสมาชิกใหม่ขึ้นรับมอบเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวที่มีโลโก้พรรค โดยนายอุตตมและสนธิรัตน์เป็นผู้สวมใส่ให้ เพื่อเป็นการยืนยันว่า ทุกคนได้เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐแล้ว

สำหรับอดีต ส.ส. ที่ขึ้นเวที นอกจากกลุ่มสามมิตรแล้ว มีคนที่น่าสนใจ อาทิ นายปัญญา จินาคำ อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน, นายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด, นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่, นายมณเฑียร สรงประภา อดีต ส.ส.ชัยนาท, นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า อดีต ส.ส.นครปฐม, นายมงคล จงสุทธนามณี อดีต ส.ส.เชียงราย เป็นต้น


สมศักดิ์1



"สุริยะ" มั่นใจกวาด ส.ส. 150 เสียง
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวบนเวทีว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้ง วันนี้การเข้าสู่สนามเลือกตั้งจะบอกว่ายากก็ยาก จะบอกว่าง่ายก็ง่าย ที่บอกว่ายาก เพราะต้องยอมรับว่ายังมีกระแสที่ตกค้างมาจากความนิยมของพรรคคู่แข่งพอสมควร ส่วนที่บอกว่าง่าย เพราะถ้าดูจากการให้การสนับสนุนของพรรคพลังประชารัฐ กำลังการสนับสนุนในอดีตไม่ได้โดดเด่นไปกว่าที่พรรคพลังประชารัฐได้รับการสนับสนุน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงนโยบายของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ได้กำหนดแนวทางเพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้มากมาย รวมทั้งมีแนวทางที่จะเดินไปข้างหน้าอย่างชัดเจน ช่วงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวหนีไปหมด เพราะบ้านเมืองอยู่ในภาวะแตกแยก เพิ่งรู้สึกดีขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังไม่พอใจ คือ ทำอย่างไรจะเปลี่ยนความรู้สึกต่อพรรคเก่า ๆ ได้ ถ้าเราไม่นำสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ไปเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนที่มีอยู่เดิม ก็จะทำให้เราทำอะไรยาก แต่เรามีทางเดินและจะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทาง

"รัฐธรรมนูญเขาดีไซน์มา พวกเราต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ รัฐธรรมนูญที่ออกมาทั้งปาร์ตี้ลิสต์และแบบเขตเลือกตั้ง มีความสำคัญทั้งนั้น เพราะบุคลากรแต่ละเขตจะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนให้กับพรรคได้"


สรุยะ1

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวกับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า มั่นใจว่าในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นพรรคพลังประชารัฐ จะได้ ส.ส. 150 ที่นั่งแน่นอน ถ้าพลังประชารัฐได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทำอย่างไรจะให้พรรคเราอยู่ในหัวใจประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นงานหนักที่เราต้องทำ

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า เราจะต้องช่วยกันทำให้เศรษฐกิจฟื้นฟูอย่างยั่งยืน และต้องกระจายความยั่งยืนให้ทั่วทุกภูมิภาค ทำอย่างไรจะให้ในภาคเหนือและภาคอีสานเศรษฐกิจดีขึ้นให้ได้ ถ้าทำสำเร็จ พลังประชารัฐจะอยู่ในหัวใจประชาชนทั้งประเทศ

ติดตามฐาน