ASP คาด SET สัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับฐานลง ให้แนวรับ 1,600 จุด!!

18 พ.ย. 2561 | 04:08 น.
ASP คาด SET สัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับฐานลง ให้แนวรับ 1,600 จุด!! ลุ้นปลายเดือนนี้ ผู้นำสหรัฐฯ-จีน เจรจาคลี่คลายสงครามการค้

บทวิเคราะห์ของ บล.เอเซีย พลัส (ASP) ระบุว่า SET Index สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดสัญญาณลบจากการหลุดแนวรับ EMA 10 1665 จุดลงมา จากนั้นปรับลงฐานลงต่อเนื่อง จนล่าสุด มาปิดอยู่ที่บริเวณ 1635.00 จุด จึงประเมินการเคลื่อนไหว SET Index ทำให้ SET Index กลับมาอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-กลาง-ยาว ขณะที่ MACD ได้เกิดสัญญาณลบจากการตัดเส้น Signal Line ลง สะท้อนแนวโน้มที่อ่อนแอและโอกาสปรับฐานลงมาต่อในสัปดาห์นี้ (19-23 พ.ย. 61) ยังอยู่

หากประเมินแนวรับที่คาดหวังจะเห็นสัญญาณฟื้นตัว จะมีอยู่ 2 โซน โซนแรกในช่วง 1625-1630 จุด (เป็นแนวรับที่เกิดจากระดับ Horizontal Line ช่วงปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา) หากเอาไม่อยู่ โซนถัดไปจะอยู่ที่ 1600 จุด ส่วนแนวต้านของสัปดาห์ประเมินไว้ที่ 1660 จุด

ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลกสัปดาห์ที่ผ่านมา กดดันให้ผลตอบแทนการลงทุนของพอร์ตการลงทุนสะสม (2 สัปดาห์) ลดลงมาอยู่ที่ -0.35% แต่ก็เป็นผลตอบแทนที่ชนะ Benchmark เกือบทุกประเภทสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความคาดหวังเชิงบวกจากโอกาสการเจรจาในเรื่องสงครามการค้าช่วงปลายเดือนของผู้นำสหรัฐฯ-จีน

ส่วนปัจจัยภายในประเทศมี 2 เรื่องที่น่าสนใจ คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่เป็นไปตามคาด กล่าวคือ งวด 9 เดือน ปี 2561 มีกำไรสุทธิรวมกว่า 8.1 แสนล้านบาท และการที่ กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% แต่ก็ได้ส่งสัญญาณการผ่านช่วงดอกเบี้ยต่อไปแล้วออกมาอย่างชัดเจน


สถานะของพอร์ตการลงทุน

สัปดาห์นี้คงน้ำหนักในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ไว้ตามเดิม คือ หุ้นไทย 35% เน้นหุ้น Domestic Play, หุ้นต่างประเทศ 25% เลือกหุ้นสหรัฐฯ และญี่ปุ่น, ในกลุ่มตราสารหนี้ 30% ให้น้ำหนักไปที่ Money Market และตราสารหนี้อายุคงเหลือไม่เกิน 3 ปี อย่างละเท่า ๆ กัน

แม้จะมีหลายปัจจัยลบสร้างแรงกดดัน ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอันสืบเนื่องมาจากสงครามการค้า วัฎจักรดอกเบี้ยที่ส่งสัญญาณเป็นขาขึ้นชัดเจน และทิศทางของ Fund Flow จากต่างชาติที่ยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทย แต่ก็ยังมีแรงหนุนที่สำคัญและถือเป็นปัจจัยที่จำกัด Downside ได้แก่ Valuation ซึ่งที่ปัจจุบันมีค่า PER อยู่ที่บริเวณ 15 เท่า โดยอยู่บนฐานกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะทำกำไรสุทธิได้ 1.07 ล้านล้านบาท (คิดเป็น 108 บาทต่อหุ้น) งวด 9 เดือน ปี 2561 ที่ผ่านมาทำกำไรสุทธิได้มากกว่า 8.1 แสนล้านบาท อีกหนึ่งแรงหนุนที่คาดหวัง ได้แก่ ความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมของการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งน่าจะให้เห็นการไหลกลับของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้

บล.เอเซียพลัส แนะนำว่า ตัวเลือกการลงทุนสัปดาห์นี้ (19-23 พ.ย. 61) ให้น้ำหนักไปกับหุ้นที่ได้ผลบวกจากการเดินหน้าที่เป็นรูปธรรมของ EEC เริ่มจาก WHA (FV@B 4.89) ซึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญมี 2 ประการ คือ กำไรในไตรมาส 4/61 ที่น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี ทั้งจากการโอนฯที่ดินและการขายสินทรัพย์เข้า REIT ประการที่ 2 คือ การถือครองที่ดินในพื้นที่ EEC กว่า 1 หมื่นไร่ ซึ่งราคามีแนวโน้มสูงขึ้น อีกบริษัทหนึ่ง ได้แก่ EASTW ([email protected]) โดยคาดหมายว่า ปริมาณการขายน้ำให้กับภาคอุตสาหกรรมภาคคะวันออกจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จะมีการปรับเพิ่มราคาขายน้ำในปี 2562 นอกจากนี้ยังให้ Dividend Yield กว่า 4% ต่อปี โดยมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอในระดับสูง ส่วนตัวเลือกการลงทุนอื่น ๆ ยังอยู่ใน Theme หลัก คือ Domestic Play

ส่วนตลาดหุ้นโลกกลับมาอยู่ในภาวะผันผวนอีกครั้ง โดยปัจจัยกดดันหลักกลับมาเป็นความกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า ซึ่งเป็นผลจากสงครามการค้า ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันปรับลดลงแรง และนักลงทุนมีแนวโน้มย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น สะท้อนจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงกว่า 10 bps ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นต่างประเทศไม่น่าจะเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะมีวันหยุด Thanksgiving Day 2 วันปลายสัปดาห์ จึงประเมินตลาดหุ้นโลกน่าจะแกว่ง Sideway


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก