‘คอ ระฆัง’ เสียงแห่งความอร่อยจากรสชาติอาหารใต้อันละมุนลิ้น
เราเริ่มต้นจากการชอบทานและทำอาหาร โดยเฉพาะรสชาติความเป็นไทยจากอาหารพื้นเมืองในแดนใต้ จึงได้ร่วมทุนกับเพื่อนเปิดร้าน “คอ ระฆัง” (Kor Ra Kang) หรือคูหาอาหารไทยสไตล์ปักษ์ใต้ที่มุ่งเน้นการปรุงแต่งอาหารอันเปี่ยมล้นไปด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ใส่ใจในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การตกแต่งร้าน การเลือกภาชนะอาหาร การบริการ การแต่งกาย เพื่อทำให้ ทุกครั้งที่ทุกคนเข้ามารับประทานเกิดความประทับใจ มีความสุขและรู้สึกเหมือนกับได้ทานอาหารกับคนในครอบครัวอย่างเป็นกันเอง” คำบอกเล่าด้วยนํ้าเสียงอันสดใสจากพี่บัดดี้ หรือคุณศุทธดา เนติภานนท์ หนึ่งในหุ้นส่วนร้านไทยในสไตล์โมเดิร์นหลังนี้
อาคารขนาด 2 ชั้น ตกแต่งด้วยโทนสีขาว ด้านหน้าทางเข้ามีชื่อร้านและระฆังตกแต่งอย่างเรียงราย หาได้ไม่ยากเพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดเทพธิดารามวรวิหาร เป็นที่ตั้งของร้าน คอ ระฆัง โดยที่มาของชื่อร้านตั้งขึ้นอย่างเรียบง่ายและสื่อความหมายโดยตรง เพราะทุกครั้งที่รับประทานอาหาร “คอ” คือส่วนที่ลำเลียง อาหารสู่ร่างกาย ส่วนคำว่า “ระฆัง” หรือ ฆ ทางร้านไม่อยากให้พยัญชนะดังกล่าวถูกลืมบวกกับคุณลักษณะเด่นของระฆังที่สะท้อนถึงเสียงดังอันกึกก้อง มีชื่อเสียง เมื่อนำมาตั้งเป็นชื่อร้านก็จะเสริมความเป็นมงคลได้ดี
“วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ มีชัยไป กว่าครึ่ง” ทุกเมนูจากร้าน คอ ระฆัง เลือกใช้วัตถุดิบที่มีจุดเด่นในเรื่องของรสชาติอันนุ่มลึกเพื่อให้เข้ากับการปรุงอาหารโดยเฉพาะเครื่องแกงปักษ์ใต้ อาทิ ปูจากอ่าวไทยหรือทะเลตะวันออก ตัวเนื้อจะแน่น นุ่ม มีกลิ่นหอม เมื่อนำมาใส่ในเมนูยอดฮิตอย่างนํ้ายาปูหรือนำมายัดใส่ในเมนูไข่เจียวปู รสสัมผัสของการเคี้ยวในแต่ละมุมปากจะดูลงตัวและละมุนลิ้นนับเป็นการผสมผสานและเข้าใจถึงวัตถุดิบได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากปูยังมีเมนูจากปลาที่สะท้อนถึงกลิ่นอายความเป็นอาหารใต้ได้อย่างโดดเด่น เช่น ต้มยำเนื้อปลากะพง ที่ทุกครั้งเมื่อซดนํ้าจะได้ความสดชื่นจากใบกะเพรา สำหรับในส่วนเนื้อนั้นมีโทนสีขาวนวล ตัดแบ่งมาเป็นคำๆ นอกจากทานง่ายแล้ว ยังทำให้ภาพรวมของจานดูสวยงาม
นอกจากโปรตีนในส่วนของเครื่องเคียงทางร้านก็ใช้ความพิถีพิถันในการคัดสรรอย่างเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็น ขนมจีนเส้นเล็กเหนียวนุ่ม ผักพื้นเมืองตามฤดูกาลอย่าง ดอกขจร ถั่วฝักยาว โดยทานคู่กับนํ้าพริกกุ้งสดรสชาติเผ็ดกำลังดี รวมทั้งใบเหลียงในเมนูยอดนิยมที่แสดงออกถึงความเป็นอาหารใต้อย่างเด่นชัด คือ ใบเหลียงผัดไข่ นอกจากของคาวในส่วนของเมนูหวานก็เลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพมาปรุงแต่งเป็นเมนูต่างๆ ได้อย่างสร้างสรรค์เช่นกัน อาทิ ฝอยทองเส้นสวยรสชาติหวานกำลังพอดีถูกนำมารังสรรค์ให้เป็น โรตีฝอยทอง และ โรตีทิชชูวิปครีมฝอยทอง ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสลิ่มเส้นนุ่มบางเล็กที่เคี้ยวสนุกถูกนำมาเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมกะทิเย็นๆเพื่อเรียกความสดชื่นได้ในทุกช่วงเวลา ที่สำคัญร้านนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มสุดเข้มข้นอย่าง ชาชักที่มาพร้อมกับไข่มุก และเมนูสุดคูลที่เกิดจากแนวคิดในการนำเอาชาชงสดไปแช่แข็งโดยทานคู่กับนมสดในเมนู Tea Cube
“เราปรุงใหม่ทุกจาน” ไม่เพียง แต่วัตถุดิบที่ดีและสดใหม่จากแหล่งผลิต สิ่งที่ร้านชื่อไพเราะหลังนี้ให้ความสำคัญคือการปรุงใหม่ทุกจาน เพื่อให้รสชาติของอาหารดูกลมกล่อมน่ารับประทาน ถูกสุขลักษณะ ขณะเดียวกันยังเก็บในรายละเอียดต่างๆอย่างเข้าถึงด้วยความเข้าใจ เช่น การเลือกภาชนะอาหารงานไม้มาเป็นฐานรองในการเสิร์ฟ การตกแต่งผนังภายในด้วยโทนสีขาวและวาดผนังด้วยเรื่องราวที่สื่อถึงความเป็นไทยอย่างมีอัตลักษณ์ รวมทั้งการบริการอย่างเป็นมิตรที่สื่อถึงขนบธรรมเนียมและประเพณีในแบบจังหวัดภูเก็ต เช่น การแต่งกายแบบบาบ๋า ทำให้บรรยากาศ ภายในร้านดูอบอุ่นและเป็นกันเอง เสมือนกับรับประทานอาหารอยู่ที่ภาคใต้จริงๆ การดีไซน์ที่โปร่ง โล่ง สบาย ของเพดานที่ยกสูง ทำให้ความถ่ายเทภายในร้านดูส่องสว่าง แต่ละมุมโต๊ะมีความเป็นส่วนตัวกลายเป็นหนึ่งมุมพักผ่อนที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมทั้งชาวไทยทุกกลุ่มอายุมุ่งหน้ามาเช็กอิน พร้อมกับชิมเมนูคาวหวานด้วยความเพลิดเพลิน
ปัจจุบัน “คอ ระฆัง” พร้อมลั่นเสียงแห่งความอร่อยในทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 - 00.00 น. ขณะนี้พร้อมให้บริการ 2 สาขา คือ สาขาประตูผี และ สาขาอารีย์ และเร็วๆนี้พร้อมเปิดอีก 1 สาขาที่ Old Town จังหวัดภูเก็ต สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมภาพต่างๆ ทั้งเมนูและการตกแต่งร้านได้ที่ IG : @korrakang Facebook:korrakang และถ้าสิ่งที่เล่ารวมทั้งภาพได้กระตุ้นโสตประสาททั้ง 5 ของทุกคน สามารถ กดโทร.จองโต๊ะได้ที่ 08-8191-9991 เสียงแห่งความอร่อยไม่สามารถบรรยายมโนภาพได้อย่างชัดเจนเทียบเท่ากับการได้ลิ้มรสด้วยตัวเอง
หน้า 28 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3419 ระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2561
