ข้าพระบาท ทาสประชาชน : อยากเห็นนายกฯลุงตู่ สนใจการเมืองเรื่องสร้างชาติ

16 พ.ย. 2561 | 08:52 น.
ลุงตู่-6 24 กันยายน 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า “ผมสนใจงานการเมือง แต่จะตัดสินใจอย่างไร สนับสนุนใคร ขออีกระยะหนึ่ง จะแจ้งให้ทราบ” และยังได้ขยายความอีกว่า “วันนี้ผมสนใจการเมือง เพราะผมสนใจในสิ่งที่ผมทำลงไปว่าถึงไหนอะไรยังไง และวันหน้าจะได้รับการสานต่อหรือไม่ ผมจะติดตามรับฟังจากบรรดานักการเมือง กลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ ฉะนั้นผมใช้คำแรกนี้ได้ว่า ผมสนใจงานการเมือง เพราะผมรักประเทศชาติของผม รักเหมือนกับที่คนไทยทุกคนรัก แม้กระทั่งสื่อก็ต้องรักประเทศชาติ”

คำสัมภาษณ์ดังกล่าว อาจทำให้ผู้คนเข้าใจได้ว่าท่านนายกฯ ยังมิได้ทำงานการเมืองหรือเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ทั้งที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยความเป็นจริงท่านเข้ามาทำงานการเมืองแล้วตั้งแต่วันแรกที่ทำการยึดอำนาจการปกครอง โดยการรัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 การตัดสินใจของท่านวันนั้นคือ การเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ครั้งสำคัญ จากการเป็นเพียงนายทหารที่ทำหน้าที่รักษาเอกราช อธิปไตย และความมั่นคงแห่งรัฐ มาเป็นผู้ควบคุมอำนาจการปกครองประเทศในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหาร

และในเวลาต่อมาก็ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองอย่างเต็มตัว ทำงานการเมืองเรื่องของประเทศชาติอย่างเต็มร้อยตั้งแต่วันนั้น จนถึงปัจจุบัน เพียงแต่เป็นการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองโดยวิถีทางที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น
3ea4031a6208bf6164dec3fb33817c1a แปลความหมายอย่างเข้าใจ นายกฯ คงหมายความได้เพียงว่า ท่านสนใจที่จะเข้าสู่อำนาจทางการเมืองหรือเข้ามาทำงานการเมือง ในวิถีทางการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น คงมิใช่ว่าท่านไม่เข้าใจสถานะของตนขณะนี้ว่า กำลังทำงานอะไร อยู่ในอำนาจหรือทำงานการเมืองหรือไม่

การที่ท่านนายกฯ สนใจงานการเมืองนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกและไม่ใช่เรื่องที่น่าห่วงใยถึงแม้มาจากนายทหาร เรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งอยู่ที่ว่าท่านรู้หรือไม่ว่า ท่านเข้าสู่อำนาจทางการเมืองเต็มตัวแล้วในฐานะหัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี ในวันที่เข้ามายึดอำนาจรัฐประหาร การที่ท่านแถลงต่อประชาชนทั้งประเทศว่า จะคืนความสงบสุขให้กับประเทศและประชาชน จะดำเนินการปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ออกนโยบายต่างๆ มากมายในการแก้ไขปัญหาประเทศ ออกประกาศคำสั่งนับร้อยฉบับในทางบริหารและการปกครองประเทศ และการกระทำอื่นๆ ในทางปกครองและการบริหารประเทศ ทั้งหมดเหล่านี้ คือการทำงานการเมือง ขับเคลื่อนการปกครองประเทศทั้งสิ้น

งานการเมืองของท่านจึงมิใช่เริ่มต้นเมื่อวันให้สัมภาษณ์ และถึงปัจจุบัน ท่านยังเป็นคนเดียวที่มีอำนาจทางการเมืองเกินร้อย และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ เรียกได้ว่าเป็น “รัฏฐาธิปัตย์”  อยู่ที่ว่าท่านจะใช้อำนาจทางการเมืองนั้นอย่างไร เพื่อประโยชน์ของใครหรือกลุ่มชนใดเท่านั้น

[caption id="attachment_348592" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

86 ปี นับแต่ประเทศของเราได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นต้นมา การเมืองไทย ยังล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอด ประเทศเวียนวนอยู่กับวงจรอุบาทว์ทางการเมืองมิจบสิ้นคือ “เลือกตั้ง ปฏิวัติรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เลือกตั้ง ปฏิวัติรัฐประหาร” วนเวียนซํ้าซากเช่นนี้ตลอดมา การเมืองของไทยยังมิได้ก้าวหน้าเป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ มิได้เป็นการเมืองที่คนไทยสามัคคีกันสร้างชาติ สร้างประเทศ อย่างที่คาดหวัง ประชาชนทั้งหลายต่างเห็นว่า การเมืองไทยเป็นการเมืองที่ช่วงชิงอำนาจกันของชนชั้นสูง แบบสมบัติผลัดกันชม ใครขึ้นมามีอำนาจปกครอง ก็เหมือนกันหมด ไม่มีความแตกต่างกัน นี่คือปัญหา

การที่รัฐบาล คสช.ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า พรรคการเมืองทั้งหลายต่างผัดหน้าทาแป้งแต่งตัว เตรียมเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างคึกคัก ท่านนายกฯก็ประกาศว่าสนใจการเมือง และมีแนวโน้มว่าอาจร่วมวงไพบูลย์กับการเลือกตั้งครั้งนี้ จนถูกโจมตีว่าเตรียมสืบทอดอำนาจต่อไปอีกด้วย แต่ละพรรคต่างออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมเพื่อหาสมาชิกพรรค ประชุมพรรค เตรียมผู้สมัคร เรียกว่าฝุ่นตลบ

แต่จะมีใคร พรรคใด รู้บ้างไหมว่า ประเทศและประชาชนต้องการการเมืองอย่างไร? อยากเห็นประเทศชาติเดินไปในทิศทางใด และอยากให้นักการเมืองทั้งหลายปฏิบัติตัวอย่างไร หรือเมื่อรู้แล้วทำได้หรือไม่ เรื่องนี้ต่างหากที่มีความสำคัญ มากยิ่งกว่าบ้านเมืองจะมีพรรคการเมืองใดบ้าง ใครจะดูดใคร กลุ่มไหนจะไปร่วมกับใคร พรรคใดจะแพ้ชนะเลือกตั้ง

การที่นายกฯสนใจงานการเมือง และตั้งใจที่จะทำงานการเมืองด้วยความรักชาติ ห่วงใยประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งครับ แต่จะให้ดีกว่านั้นก็คือ ไม่ต้องรอให้มีการเลือกตั้งท่านก็ทำตามฝันและความตั้งใจนั้นได้อยู่แล้ว เพราะอำนาจทางการเมืองอยู่ในมือท่านอย่างสมบูรณ์ในวันนี้ และยังจะมีอำนาจเช่นนี้อีกนานร่วมปีเป็นอย่างน้อย ขอเพียงให้ท่านทำงานการเมืองวันนี้ ให้เป็นการเมืองแห่งความสามัคคีของคนในชาติ ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าหันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันสร้างชาติบ้านเมืองให้เจริญรุดหน้า เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ พาประเทศให้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ทางการเมืองได้ไหมครับ

ไม่ต้องรอเวลาให้มีการเลือกตั้ง การลงมือทำวันนี้ให้เห็นย่อมดีกว่าคำพูด ดีกว่าให้ประชาชนฝากความหวังไว้กับอนาคตที่มืดมน เพราะยังไม่ทันจะถึงวันเลือกตั้ง สงครามการเมืองก็ตั้งเค้า การปะทะกันระหว่างอำนาจเก่า อำนาจใหม่ ดูจะหลีกเลี่ยงยาก กลุ่มและพรรคการเมืองที่เป็นปัญหาของบ้านเมือง เครือข่ายระบอบทักษิณ ยังเสนอหน้าหวังทวงอำนาจคืนแบบไม่ลดละ หากมีอำนาจกลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็คงต้องคิดบัญชีเอาคืน แล้วบ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไร

ดังนั้น การทำการเมืองให้เป็นเรื่องสร้างชาติ จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง การหลีกเลี่ยงปัญหาการเมืองในอดีตที่ล้มเหลว จึงเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ และจะทำได้อย่างไรนั้นก็เริ่มต้นได้ไม่ยากครับ เพียงแต่วันนี้นายกฯต้องกล้าประกาศนโยบายสามัคคีแห่งชาติ ดึงบุคลากรจากทุกพรรคทุกฝ่าย ทุกวงการ คัดเลือกเอาคนดีมีความรู้ความสามารถ ให้มาทำงานเพื่อบ้านเมืองร่วมกัน สลายละลายความขัดแย้งและความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างและแตกแยกกันให้ลดน้อยหรือหมดไป ต้องไม่เล่นพรรคเล่นพวก ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ให้โอกาสอย่างเป็นธรรมกับทุกกลุ่มทุกฝ่าย ปลดล็อกคดีทางการเมืองที่พันธนาการประชาชน ปลดปล่อยพลังเหล่านั้นให้เขามีส่วนร่วมในการสร้างชาติ เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศตามเป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่เห็นพ้องร่วมกัน ทำให้ประเทศชาติของเราเจริญ มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ประชาชนมีชีวิตและฐานะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยถ้วนหน้า

แนวทางอย่างนี้ท่านนายกฯทำได้ทันที ไม่ต้องรอเลือกตั้งครับ เพราะแม้เลือกตั้งแล้วหากท่านเป็นนายกฯ ก็ต้องทำงานร่วมกับกลุ่มและพรรคการเมืองอื่นๆ และจำต้องสามัคคีพลังของประชาชนทุกหมู่เหล่าเช่นนี้อยู่ดี จึงจะทำให้ประสบผลสำเร็จทางการเมือง จงทำวันนี้ให้เห็น สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์เถอะครับ ให้ประชาชนเรียกร้องการกลับคืนสู่อำนาจการเมืองด้วยความศรัทธาในตัวผู้นำ ดีกว่าเข้าสู่การเมืองด้วยความต้องการของตนเอง

มีแต่การทำงานการเมืองให้เป็นเรื่องการสามัคคีกันสร้างชาติเท่านั้น จึงจะทำให้ท่านอยู่ในใจประชาชนตลอดไป หากทำวันนี้ไม่สำเร็จ หลังเลือกตั้งก็ยากที่จะสำเร็จครับ

|คอลัมน์ ข้าพระบาททาสประชาชน
| โดย : ประพันธุ์ คูณมี 
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3418 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 15-17 พ.บ.2561
e-book-1-503x62