กบง. มีมติเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ อีก 0.50 บาทต่อลิตร

15 พ.ย. 2561 | 14:12 น.
วันนี้ (15 พ.ย. 2561) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานฯ ได้พิจารณาเรื่องการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน จากการที่ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 2561 ที่ระดับราคา 84 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จนถึงปัจจุบัน 66 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลง 18 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยลดลงอย่างมากตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ประมาณ 5 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

 

[caption id="attachment_348180" align="aligncenter" width="491"] ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน[/caption]

ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้กำกับทั้งอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ และค่าการตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์95 E10 ลดลง 2.80 บาทต่อลิตร โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 28.85 บาทต่อลิตร และราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลง 0.60 บาทต่อลิตร โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 29.29 บาทต่อลิตร และในขณะเดียวกัน ได้บริหารจัดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ซึ่งได้มีการใช้ไปแล้วเมื่อตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และก๊าซ LPG ถังละ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ไป 11,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี จากเดิมที่มี 34,500 ล้านบาท คงเหลือปัจจุบัน 23,500 ล้านบาท

ดังนั้น กบง. จึงได้มีมติวางเป้าหมายการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสภาพเงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ใช้ไปให้เข้มแข็ง เพื่อรองรับความผันผวนของตลาดน้ำมันที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดย กบง. มีมติให้ปรับเพิ่มการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ อีก 0.50 บาทต่อลิตร โดยจะทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันเฉลี่ยของกลุ่มน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 1.93 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 0.70 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับประมาณ 100 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ในการสะสมเงินให้ครบ 11,000 ล้านบาท

595959859