"สมคิด" ดันตลาดทุนเป็นศูนย์กลางอาเซียน

15 พ.ย. 2561 | 08:35 น.
รองนายกฯ มอบโจทย์ตลาดทุน หวังเป็นศูนย์กลางอาเซียน ดึงเพื่อนบ้านระดมทุนในตลาดหุ้นไทย เผยไม่อยากยกเลิกแอลทีเอฟ ฝากคลังพิจารณาเป็นพิเศษ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายในงาน Set in the city 2018 ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พิจารณาถึงความพร้อมของการลงทุน และกฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรค เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนของการระดมทุนให้ประเทศเพื่อนบ้าน โดยดำเนินการให้บริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะซีแอลเอ็มวี สามารถเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยให้ได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ประเทศเพื่อนบ้านมีแหล่งเงินทุนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทยเพิ่มขึ้น

S__4481404

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลค่อนข้างรุนแรงกว่าที่คาดไว้ ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่ตลาดหุ้นไทย ยังมีความแข็งแกร่ง สะท้อนจากกำไรสุทธิสูงถึง 10% และบริษัทจดทะเบียนมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างมาก โดยส่วนตัวมองว่า หากตลาดทุนไทยมีความสามัคคีจะประคับประคองให้ผ่านพ้นไปได้ และจะสามารถผลักดันให้เป็นศูนย์กลางตลาดทุนในอาเซียนได้

S__4481406

สำหรับกรณีที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่ครบกำหนดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2562 เบื้องต้นได้หารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เรียบร้อยแล้ว และมองว่ากองทุนแอลทีเอฟไม่อยากให้ยกเลิก เพราะถือเป็นแหล่งที่ทำให้ประชาชนคนเข้าสู่การลงทุน แต่จะต่ออายุหรือไม่นั้น กระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนกรณีที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอจัดตั้งกองทุนใหม่ ที่เน้นลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ ฟันด์) นั่น ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาเป็นพิเศษ และให้ดัดแปลงหรือประยุกต์ให้มีความทันสมัย เพื่อให้โอกาสทั้งคนหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ เข้ามาลงทุนเพื่อการออมในระยะยาวรองรับอนาคตข้างหน้าได้