ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นครั้งแรกหลังลดลงติดต่อกัน 12 วัน

15 พ.ย. 2561 | 02:57 น.
โอเปกเตรียมแผนลดกำลังการผลิตหนุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นครั้งแรกหลังลดลงติดต่อกัน 12 วัน

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561

+ ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกภายหลังปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 12 วัน โดยได้รับแรงหนุนจากการหารือกันของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเทศรัสเซีย และอีกหลายชาติในการประชุมที่กรุงอาบูดาบี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมจัดทำแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2562

+ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ (โอเปก) มีทีท่าว่าจะสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันดิบ โดยจะมีการประชุมใหญ่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 6 ธ.ค. 2561 เพื่อกำหนดแผนนโยบายการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า

- อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบในชั้นหินดินดาน (Shale oil) ของสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดที่ 7.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ธ.ค. 2561

- ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย. 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.8 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 440.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศจอร์แดน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศจีนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดน้ำมันดีเซลยังคงซบเซา นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันดีเซลในประเทศออสเตรเลียปรับตัวลดลงเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการควบคุมปริมาณสต็อกน้ำมันในช่วงปลายปี

595959859 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 53-57 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 63-67  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่อาจล้นตลาด หลังสหรัฐฯ ประกาศผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน ประกอบด้วย จีน อินเดีย กรีซ อิตาลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ตุรกี และเกาหลีใต้ สามารถนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านได้ในช่วง 180 วันแรกหลังการคว่ำบาตร

จับตาการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้หรือไม่ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีน เตรียมหารือร่วมกันนอกรอบในการประชุดสุดยอดผู้นำโลก G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายเดือน พ.ย.นี้

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ โปรโมทแทรกอีบุ๊ก