หุ้นแอปเปิล–กลุ่มแบงก์ดิ่ง! ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 205.99 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุด เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย. 61) หลังจากราคาหุ้นแอปเปิลดิ่งลงหนัก เนื่องจากกังวลว่า แอปเปิลอาจประสบปัญหายอดขาย iPhone ตกต่ำในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า รวมถึงการที่ตลาดได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากที่ นางแม็กซีน วอเตอร์ส สมาชิกสภาคองเกรส สังกัดพรรคเดโมแครต แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะผลักดันใช้มาตรการที่เข้มงวดต่อภาคธนาคาร

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 205.99 จุด หรือ -0.81% ปิดที่ 25,080.50 จุด, ดัชนี S&P500 ลง 20.60 จุด หรือ -0.76% ปิดที่ 2,701.58 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 64.48 จุด หรือ -0.90% ปิดที่ 7,136.39 จุด

ราคาหุ้นแอปเปิล ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวน 30 หลักทรัพย์ ที่ใช้คำนวณดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ปิดที่ระดับ 186.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลง 2.8% หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 233.47 ดอลลาร์ ในวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา การร่วงลงของราคาหุ้นแอปเปิลส่งผลให้ราคาหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.6% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.4% หุ้น Nvidia ร่วงลง 1.06% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 1.7% และหุ้นอินเทล ลดลง 0.6%

หุ้นกลุ่มธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส ดิ่งลง 2.06%, หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วง 2%, หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลง 0.2%, หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่ง 1.86%, หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.12%, หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลง 1.25%