CEO"ชาญศิลป์"จัดเองชงบอร์ดปตท.ลงทุนในโครงการ EFC

14 พ.ย. 2561 | 13:24 น.
ซีอีโอปตท.เตรียมชงบอร์ดอนุมัติลงทุนโครงการ EFC ที่นำพลังความเย็นจากแอลเอ็นจีมาทำห้องเย็นเพื่อยืดอายุพืชผลการเกษตร หวั่นราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรง 7% กระทบต่อธุรกิจขั้นต้นในไตรมาส 4 นี้

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปตท.เตรียมเสนอคณะกรรมการบริษัทฯพิจารณาอนุมัติแผนงานลงทุนโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC) ในเดือน พ.ย.หรือ ธ.ค.นี้ โครงการนี้เป็นโครงการนำพลังงานมาใช้ในการพัฒนาสินค้าเกษตร โดยจะนำความเย็นจากก๊าซแอลเอ็นจีมาทำห้องเย็นช่วยเก็บรักษาพืชผลการเกษตร เพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์ผลไม้ของเกษตรกรในช่วงเวลาที่ผลไม้ออกมามาก ตั้งในพื้นที่นิคม Smart Park มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งโครงการนี้เป็นการร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยประกาศว่าจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจผลไม้เมืองร้อนของโลกให้ได้

chan

ขณะที่ ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ชี้ว่าการส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาตลอด ในปี 2557 นั้นมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 4 หมื่นกว่าล้านบาท ในปี 2560 พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 7.6 หมื่นล้านบาท โดยตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดตามตัวเลขนั้นก็คือ ประเทศเวียดนาม โดยปีที่แล้วไทยส่งผลไม้ไปยังเวียดนามเท่ากับ 3.4 หมื่นล้านหรือเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าส่งออกรวม ส่วนจีนมาเป็นอันดับสอง ในขณะที่ฮ่องกง อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา ตามมาตามลำดับ

ส่วนข้อมูลจากสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย ปี 2560 ภาพรวมตลาดส่งออกผลไม้ไทย เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีจีนและฮ่องกง เป็นตลาดหลัก โดยผลไม้ของไทยส่งออกไปจีนถึง ร้อยละ 70 ของผลผลิตทั้งปี ฮ่องกง ร้อยละ 15-20 ทำเงินเข้าประเทศได้สูงถึง 4,000 ล้านบาท โดยผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน คือ ทุเรียนและลำไย ซึ่งจันทบุรี มีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนมากที่สุดในประเทศ มีหลายสายพันธุ์ อาทิ หมอนทอง, ชะนี, ก้านยาว

[caption id="attachment_347372" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

นายชาญศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 7% มาอยู่ที่ 55.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หากราคาทรงตัวระดับนี้ต่อเนื่องสิ้นปีจะส่งผลกระทบธุรกิจขั้นต้นในไตรมาส 4 นี้ เช่น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) แต่เชื่อว่าทั้งปี 2561 จะส่งผลกระทบไม่มาก เพราะงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ปตท.สผ.มีกำไรค่อนข้างดี ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในปีหน้าคาดว่าอยู่ที่ 65-80 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าสหรัฐฯ จะมีความสามารถในการผลิตน้ำมันจาก Shale oil แต่ยังติดปัญหาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งออก หากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นจะเป็นการเร่งผลักดันให้มีการเร่งผลิต Shale oil มากขึ้น

595959859