SPCGปลื้มผลงาน9 เดือนโกยรายได้กว่า4.2พันล้านกำไรสุทธิพุ่ง 2.1พันล้าน
SPCG ปลื้มผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน โกยรายได้ 4,275 ล้านบาท กำไรสุทธิพุ่ง 2,112 ล้านบาท เผยทริสเรทติ้งฯยืนยันเครดิตระดับ "A"อย่างแข็งแกร่ง
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และนางสาวรุ่งฟ้า ลาภยืนยง ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและงบประมาณเป็นผู้แทนในการแถลงผลประกอบการของ SPCG ประจำไตรมาสที่ 3/2561 ในงาน “บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day”ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดย SPCG มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 มีรายได้รวม จำนวน 4,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมจำนวน 3,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 547 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 14.7 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.3
ทั้งนี้ทริสเรทติ้งได้ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ อยู่ที่ระดับ "A" อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอนของ SPCG จากการลงทุนและการจัดการในโครงการโซลาร์ฟาร์ม ประสบการณ์การเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ประสิทธิภาพของโครงการ
นายพิพัฒน์ กล่าวถึงการขยายการลงทุนไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือโครงการ Tottori Yonago MEGA Solar Farm ขนาดกำลังการผลิต 30 MW โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา คือ Ukujima Mega Solar Project ขนาดกำลังการผลิต 480 MW จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2562 และ Kasuga Blue Energy Project with Kyushu University ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการนำ Storage สำหรับจัดเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ขายในช่วง Peak สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์ม ณ เมืองฟูกุโอกะ ขนาดกำลังการผลิต 65 MW นับเป็นโครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
บริษัทฯ เข้ารับประกาศนียบัตร ในโครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสถานประกอบการอุตสาหกรรม ประจำปี 2561 จากกระทรวงอุตสาหกรรม จากการที่โซลาร์ฟาร์ม 4 แห่งของ SPCG (โซลาร์ฟาร์ม นครพนม 1 โซลาร์ฟาร์ม นครพนม 2 โซลาร์ฟาร์ม นครพนม 3 และโซลาร์ฟาร์ม สุรินทร์ 1) ผ่านเกณฑ์การประเมินธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม และโซลาร์ฟาร์ม 19 แห่งของ SPCG (โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 1) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 2) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 3) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 6) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 7) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 9) โซลาร์ฟาร์ม (โคราช 2)
โซลาร์ฟาร์ม (นครพนม 1) โซลาร์ฟาร์ม (นครพนม 3) โซลาร์ฟาร์ม (บุรีรัมย์ 1) โซลาร์ฟาร์ม (บุรีรัมย์ 2) โซลาร์ฟาร์ม (เลย 1) โซลาร์ฟาร์ม (เลย 2) โซลาร์ฟาร์ม (สกลนคร 1) โซลาร์ฟาร์ม (สุรินทร์ 1) โซลาร์ฟาร์ม (สุรินทร์ 2) โซลาร์ฟาร์ม (สุรินทร์ 3) โซลาร์ฟาร์ม (หนองคาย 1) และโซลาร์ฟาร์ม (อุดรธานี 1) ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ประจำปี 2561 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งวัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) คือการที่ทุกคนในองค์กรให้ความร่วมมือร่วมใจดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกด้านของการประกอบกิจการจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร
นอกจากนั้น ในเดือนกันยายน SPCG ได้รับโล่และประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในโอกาสที่ SPCG เป็นตัวอย่างที่ดีในการบริหารจัดการและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศจากการเข้าร่วมโครงการ “ภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน”ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.)
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และนางสาวรุ่งฟ้า ลาภยืนยง ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและงบประมาณเป็นผู้แทนในการแถลงผลประกอบการของ SPCG ประจำไตรมาสที่ 3/2561 ในงาน “บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day”ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดย SPCG มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 มีรายได้รวม จำนวน 4,275 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวมจำนวน 3,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 547 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 14.7 และบริษัทมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.3
ทั้งนี้ทริสเรทติ้งได้ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ อยู่ที่ระดับ "A" อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอนของ SPCG จากการลงทุนและการจัดการในโครงการโซลาร์ฟาร์ม ประสบการณ์การเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ประสิทธิภาพของโครงการ
นายพิพัฒน์ กล่าวถึงการขยายการลงทุนไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือโครงการ Tottori Yonago MEGA Solar Farm ขนาดกำลังการผลิต 30 MW โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา คือ Ukujima Mega Solar Project ขนาดกำลังการผลิต 480 MW จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2562 และ Kasuga Blue Energy Project with Kyushu University ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการนำ Storage สำหรับจัดเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ขายในช่วง Peak สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์ม ณ เมืองฟูกุโอกะ ขนาดกำลังการผลิต 65 MW นับเป็นโครงการล่าสุดที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
บริษัทฯ เข้ารับประกาศนียบัตร ในโครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสถานประกอบการอุตสาหกรรม ประจำปี 2561 จากกระทรวงอุตสาหกรรม จากการที่โซลาร์ฟาร์ม 4 แห่งของ SPCG (โซลาร์ฟาร์ม นครพนม 1 โซลาร์ฟาร์ม นครพนม 2 โซลาร์ฟาร์ม นครพนม 3 และโซลาร์ฟาร์ม สุรินทร์ 1) ผ่านเกณฑ์การประเมินธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม และโซลาร์ฟาร์ม 19 แห่งของ SPCG (โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 1) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 2) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 3) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 6) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 7) โซลาร์ฟาร์ม (ขอนแก่น 9) โซลาร์ฟาร์ม (โคราช 2)
โซลาร์ฟาร์ม (นครพนม 1) โซลาร์ฟาร์ม (นครพนม 3) โซลาร์ฟาร์ม (บุรีรัมย์ 1) โซลาร์ฟาร์ม (บุรีรัมย์ 2) โซลาร์ฟาร์ม (เลย 1) โซลาร์ฟาร์ม (เลย 2) โซลาร์ฟาร์ม (สกลนคร 1) โซลาร์ฟาร์ม (สุรินทร์ 1) โซลาร์ฟาร์ม (สุรินทร์ 2) โซลาร์ฟาร์ม (สุรินทร์ 3) โซลาร์ฟาร์ม (หนองคาย 1) และโซลาร์ฟาร์ม (อุดรธานี 1) ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ประจำปี 2561 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งวัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) คือการที่ทุกคนในองค์กรให้ความร่วมมือร่วมใจดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกด้านของการประกอบกิจการจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร
นอกจากนั้น ในเดือนกันยายน SPCG ได้รับโล่และประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องในโอกาสที่ SPCG เป็นตัวอย่างที่ดีในการบริหารจัดการและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศจากการเข้าร่วมโครงการ “ภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน”ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.)
