ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ Gridlock ตามคาด ความเสี่ยงระยะยาวที่นักลงทุนทองควรจับตา

16 พ.ย. 2561 | 01:12 น.
คอลัมน์ ครบเครื่องเรื่องทอง กับ YLG

พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

จบไปแล้วการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ โดยครั้งนี้มีจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติ ศาสตร์การเลือกตั้งที่ไม่ใช่การเลือกตั้งประธานาธิบดี (ปธน.) ทั้งนี้ในปี 2014 มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งแค่ 36% เท่านั้น ขณะที่ปีนี้มีการลงทะเบียนใช้สิทธิอยู่ระหว่าง 45-50% และมีอัตราการใช้สิทธิในกลุ่มชาวอเมริกันที่มีอายุน้อยสูงมากขึ้นอีกด้วย สำหรับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ปรากฏว่าเดโมแครตพลิกกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร (House)ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ขณะที่รีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา(Senate)

ชัยชนะครั้งแรกในรอบ 8 ปี ของพรรคเดโมเครตในสภาผู้แทนราษฎร(House) อาจทำให้วาระการดำรงตำแหน่งช่วง 2 ปีสุดท้ายของปธน.ทรัมป์ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากกว่าที่เคย เพราะนอกจากพรรคเดโมแครตจะสามารถเปิดการไต่สวนในกรณีต่างๆ อาทิ การแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2016 รวมถึงตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของทรัมป์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ผลกระทบที่จะเกิดต่อนโยบายต่างๆทั้งในแง่ของนโยบายภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสามารถสรุปผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ดังนี้

พรรคเดโมแครตสามารถยับยั้งการออกนโยบายภายในประเทศหรือผ่านร่างกฎหมายต่างๆ โดยส.ส.พรรคเดโมแครตไม่น่าจะยอมให้มีการผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับใหม่(Tax Cut 2.0) หรืออาจมีการยื่นข้อเสนอในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการปฏิรูปภาษีปี 2017 ในบางส่วน อย่างไรก็ตามข้อเสนอดังกล่าวไม่น่าจะได้คะแนนถึง 60 คะแนนในชั้นวุฒิสภา และพรรคเดโมแครตจะไม่ยอมให้มีการยกเลิกโอบามาแคร์อย่างแน่นอน และจะไม่มีลดกฎระเบียบการเงิน(ดอดด์-แฟรงก์) เช่นเดียว กัน ดังนั้นความหวังที่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆจึงริบหรี่ลง นั่นส่งผลเชิงลบต่อสกุลเงินดอลลาร์อย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันที่ 7 พฤศจิกายน

[caption id="attachment_347208" align="aligncenter" width="503"] โดนัลด์ ทรัมป์ โดนัลด์ ทรัมป์[/caption]

อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตจะไม่สามารถยับยั้งนโยบายต่างประเทศของปธน.ทรัมป์ได้ เพราะปธน.ทรัมป์สามารถดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างอิสระและสามารถประกาศจุดยืนฝ่ายเดียว จึงคาดว่าสหรัฐฯจะยังคงมาตรการควํ่าบาตรอิหร่านต่อไปตามเดิม ด้านสงครามการค้ากับจีนจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าปธน.ทรัมป์จะพยายามแสวงหาทางออกร่วมกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุม สุดยอดจี 20 จะเปิดฉากขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่การเก็บภาษีนำเข้ายังดำเนินต่อไป ยกเว้นในส่วนของภาษีนำเข้ากับ EU และญี่ปุ่นที่พรรคเดโมแครต อาจคัดค้านเพราะมองว่าทั้ง EU และญี่ปุ่นต่างก็เป็นพันธมิตรทางการค้า ในแง่ของการเจรจากับเกาหลีเหนือเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีจะยังคงดำเนินต่อไปเช่นเดียวกัน แต่ตลาดเชื่อว่ามีนโยบายต่างประเทศบางส่วนที่พรรคเดโมแครต อาจร่วมมือกับรีพับลิกันในสภาคองเกรส อาทิ การเพิ่มมาตรการควํ่าบาตรรัสเซีย เช่นเดียวกับการควํ่าบาตรซาอุดีอาระเบียอันเนื่องมาจากการฆาตกรรมนายคาชอกกี

อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งออกมาเป็นไปตามที่โพลล์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ประกอบกับพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันอาจมีความร่วมมือในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้การคานอำนาจกันระหว่าง 2 พรรคการเมืองในสภาคองเกรสทำให้ตลาดมองว่าความแข็งกร้าวด้านนโยบายการค้าของปธน.ทรัมป์อาจลดลง ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นมองว่าผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นไม่ได้แย่มากนักและมุมมองดังกล่าวหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯทะยานขึ้นกว่า +2% ในวันที่ 7 พฤศจิกายน จนส่งผลกดดันให้ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้

แต่นี่คือจุดเริ่มต้นที่นักลงทุนจะต้องจับตา เพราะการเมืองสหรัฐฯภายในสภาคองเกรสที่ถูกแบ่งเป็น 2 พรรคถือเป็นหนังม้วนยาวที่ยังไม่แน่นอนว่าจะจบลงแบบ Happy Ending หรือ Sad Ending อีกทั้งยังมีอุปสรรคสำคัญๆรออยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงชัตดาวน์ที่อาจเพิ่มขึ้นไปจนถึงการที่สมาชิกระดับสูงของพรรคเดโมแครตเตรียมที่จะตรวจสอบการใช้อำนาจของปธน.ทรัมป์ในหลายประเด็น อาทิ ความพยายามของคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ในการสกัดกั้นบริษัท AT&T Inc จากการเข้าครอบครองบริษัท Time Warner และประเด็นที่ว่าเจ้าหน้าที่พยายามลงโทษ Amazon.com Inc ด้วยการผลักดันให้กรมไปรษณีย์สหรัฐฯ ขึ้นราคาค่าขนส่งสำหรับบริษัทดังกล่าว ดังนั้นการเมืองสหรัฐฯ จึงได้กลายเป็นปัจจัยระยะยาวที่นักลงทุนทองคำจะต้องจับตามองต่อเนื่องในปี 2019

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,418 วันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2561

e-book-1-503x62-7-1-503x62