มติป.ป.ช.ขยายเวลายื่นทรัพย์สิน-หนี้สิน "นายก-กก.สภามหาวิทยาลัย" ขีดเส้น "อธิบดีสถาบันอุดมศึกษา-ประธาน-รองปธ.- กก.สภาสถาบันพระปกเกล้า" มีผลใช้บังคับใช้ 31 มกราคม 62
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.เผยว่า ตามที่ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องกำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 2 ธันวาคม 2561 นั้น
ต่อมามีกรณีที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ให้เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทบทวนการออกประกาศดังกล่าว ในส่วนของตำแหน่งของนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว เห็นว่าตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย ยังคงเป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่เนื่องจากเป็นตำแหน่งใหม่ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หากจะให้ประกาศฯ มีผลใช้บังคับทันทีกับผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะกระทบต่อการบริหารงานงานในมหาวิทยาลัย จึงมีมติให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังกล่าว เฉพาะในส่วนของตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย โดยไม่รวมถึงตำแหน่งอธิการบดี ทั้งในสถาบันอุดมศึกษา ในกำกับของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดของรัฐ ตามข้อ 7.8.7 และ ข้อ 7.10.6 ของประกาศ
รวมถึงตำแหน่งประธานสภาสถาบัน รองประธานสภาสถาบัน และกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้าตามข้อ 7.8.6.1 ให้ขยายระยะเวลาในการบังคับใช้ออกไปอีก 60 วัน นับแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2561 และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 31 มกราคม 2562 เพื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะได้รวบรวมความคิดเห็นของบุคลากรทางการศึกษา ภาคส่วนต่างๆ ของสังคม เพื่อพิจารณา ในรายละเอียดต่อไป