เรียนรู้การทำธุรกิจ ... ปูพื้นฐาน "กิจการครอบครัว"

16 พ.ย. 2561 | 06:22 น.
ข่าวคราวของนักแสดงที่เลือกการทำงานบันเทิงควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจส่วนตัว มักมีให้เห็นกันมาตลอด แต่หนึ่งหนุ่มนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย อย่าง "บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์" เขาคนนี้มีข่าวการเข้าไปลุยทำธุรกิจโน่นนี่นั่นเยอะมาก และล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวไปกับบทบาท "ประธานบริษัท เจทีเอ็น 888 จำกัด" เริ่มประกาศให้เห็นความชัดเจนของการก้าวสู่วิถีผู้บริหารอย่างชัดเจน

106055

"คุณบอย" บอกว่า ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวคนจีนที่ทำธุรกิจมาอยู่แล้ว คุณแม่ก็ทำธุรกิจบริหารอาคาร
อพาร์ตเมนต์ให้เช่า ส่วนตัวเขาเองที่เข้ามาอยู่ในแวดวงการบันเทิง ก็ตระหนักดีว่า วงการนี้มาเร็วไปเร็ว และไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นจากวิชาความรู้ที่รํ่าเรียนมาในคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผนวกเข้ากับการเป็นพรีเซนเตอร์และการที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มธุรกิจหลาย ๆ แห่ง ทำให้เขาได้เรียนรู้การทำตลาด การสร้างแบรนด์ไปในตัว

"ผมเคยไปสมัครเป็นดีเทลยา แต่เขาไม่รับ" บอยเล่า และเขาเคยมีความฝันที่อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งที่รํ่าเรียนมา เมื่อสบโอกาส เขาจึงสร้างธุรกิจสกินแคร์ ภายใต้แบรนด์ "โบจิทีแคร์" โดยอาศัยช่องทางขายที่กำลังบูมสุด ๆ คือ ช่องทางออนไลน์ หรือ การขายในรูปแบบอี-คอมเมิร์ซ เป็นการเปิดตลาดในช่วงเริ่มต้นเสียเลย

นักบริหารหน้าใหม่คนนี้ ไม่ได้ใหม่แกะกล่องในแวดวงธุรกิจ เพราะมีประสบการณ์มากมายกับการทำธุรกิจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ร้านโฟรเซนโยเกิร์ต "ปาร์ตี้ แลนด์" (PARTY LAND) ที่ร่วมหุ้นกับคู่จิ้น "มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า" ธุรกิจแรกที่ลงทุนลงแรงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ด้วยเงินทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านบาท ธุรกิจต่อมา คือ ร้านอาหารชื่อ "ซูชิ ชิน" (Sushi Shin) ที่ร่วมหุ้นกับ "เจิน-ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ" ดาราสังกัดวิก 3 ด้วยกัน และยังมีหุ้นส่วนนอกวงการคนอื่น ๆ อีก ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์พรีเมียมซูชิ เปิดสาขาแรกที่ Nihonmura Building ทองหล่อ 13 ตอนนี้ปาไป 2 สาขา กำลังจะเปิดสาขาที่ 3 เร็ว ๆ นี้ และอีกร้าน คือ "โกเบ สเต็ก" ที่มีแล้ว 5 สาขา ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจ คือ การนำเข้า "ซุปเพอร์ก้า" (Superga) แบรนด์รองเท้าจากอิตาลี เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เพื่อนชวนร่วมหุ้น แต่ตอนนี้หยุดไปแล้ว


S__39968875

จนล่าสุด กับแบรนด์สกินแคร์ "BoJi Tea Care" ที่ลงทุนผลิตเองในนาม บริษัท จีทีเอ็น 888 จำกัด ที่เริ่มต้นด้วยการทำตลาดออนไลน์กับเป้าหมายยอดขาย 100 ล้านบาท สิ้นปี 2561 และจะไต่ขึ้นเป็น 500 ล้านบาท ภายในไตรมาสแรกของปี 2562 หลังจากนั้นขยายตลาดต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพาร์ตเนอร์อยู่แล้วที่ สปป.ลาว

ที่ผ่านมา 'บอย' ใช้โอกาสในการเป็นนักแสดง พรีเซนเตอร์ และพิธีกร เรียนรู้การทำตลาด ศึกษา และซึมซับมาเรื่อย ๆ และเขายังมีแนวคิดที่จะไปเทกคอร์สด้านการตลาดและการบริหารเพิ่มเติมเมื่อมีเวลา โดยระหว่างนี้ยังมุ่งมั่นการทำงาน ทั้งในแวดวงบันเทิงและการสร้างธุรกิจควบคู่กันไปก่อน โดยให้ความสำคัญกับทั้ง 2 ส่วนเท่า ๆ กัน เพราะธุรกิจที่สร้างขึ้น ก็คือ การปูพื้นฐานเพื่อสร้างธุรกิจของครอบครัวในอนาคต

เป้าหมายในการสร้างธุรกิจของผู้บริหารนักแสดงคนนี้ คือ การทำในสิ่งที่ชอบและสนใจกับสิ่งนั้นจริง ๆ ที่สำคัญเมื่อลงมือทำแล้ว ต้องซื่อสัตย์และจริงใจกับลูกค้า และทุก ๆ คน

"ตอนนี้ผมเรียนรู้จากลูกค้า เรียนรู้จากสิ่งที่เราสัมผัส … ผมว่ามันละเอียดกว่าตำรา ถ้าอ่านตำรา มันอาจเป็นอะไรที่เป็นหลักสูตร ง่าย เร็ว สะดวก แต่ถ้าเรียนกับลูกค้า อาจจะสะเปะสะปะ มันอาจทำให้ช้า แต่มันละเอียดกว่า ได้เรียนรู้มากกว่า ผมอาจจับผิดจุดบ้าง ถูกจุดบ้าง แต่มันละเอียดดี"

ตบท้ายอีกนิด กับความคิดที่ไม่ใช่แค่นักแสดง ขายหน้าตาไปวัน ๆ "บอย-ปกรณ์" บอกว่า การเป็นนักแสดงสามารถช่วยเรื่องพีอาร์ได้ดี ทำให้คนรู้จักร้านเร็วขึ้น คนรู้จักสิ่งที่เราทำเร็วขึ้น ส่วนมันจะดีขึ้นแค่ไหน อยู่ที่คุณภาพและบริการของเราจริง ๆ … ผมคุยกับคนอื่นได้ง่ายอยู่แล้ว เวลาเราเจอลูกค้า เราก็กล้าคุย แต่ตรงนั้นมัน คือ เรื่องพีอาร์ ต่อให้การพีอาร์ดี แต่ถ้าบริการและสินค้าไม่ดี มันก็ไปไม่รอด มันต้องทำให้ดีกว่าพีอาร์ แรงพีอาร์ทำให้ลูกค้ามาที่ร้าน แต่การที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาที่ร้าน หรือ กลับมาซื้อสินค้าซํ้า ทั้งบริการและสินค้าต้องมีคุณภาพจริง ๆ


หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3418 ระหว่างวันที่ 15 - 17 พฤศจิกายน 2561

595959859