ผ่ามาตรการ "ยาแรง" ฟื้น "ทัวริสต์จีน" !!

13 พ.ย. 2561 | 03:50 น.
การชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนนับจากไตรมาส 3 ที่ไทยโดนวิกฤติหลายเด้ง นับจากเหตุเรือล่ม ส่งผลให้การติดลบของนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไทยจึงอยู่ในระดับตัวเลข 2 หลัก ซึ่งถือว่ารุนแรงกว่าการชะลอตัวของประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ที่เขาโดนกันเด้งเดียว


หวั่นสงครามการค้าจีน-มะกัน
จากปัจจัยความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนต่อสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ส่งผลค่าเงินหยวนเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง ในเดือน ก.ย. ลดลงกว่า 5.59% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ม.ค. และดัชนีตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ที่เคยอยู่ในระดับสูงสุด 3470 จุด ในเดือน ม.ค. ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ไตรมาส เหลือที่ระดับ 2717 จุด หรือลดลง 22.7% จากเดือน ม.ค. ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีน และกำลังเป็นปัจจัยท้าทายด้านการท่องเที่ยวที่ต้องจับตาในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า

ทั้งด้วยสเกลการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีนตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ทำให้การลงทุนเพื่อรองรับจีนที่พุ่งมาเกือบเฉียด 10 ล้านคน จึงเกิดขึ้นมากมายในช่วงที่ผ่านมา และภาพรวมของการท่องเที่ยวไทยขณะนี้ มีรายได้คิดเป็น 21.20% ของจีดีพีประเทศ การชะลอตัวครั้งนี้ธุรกิจจึงระสํ่ากว่าที่ผ่านมา


MP22-3417-A

ฟรีค่าวีซ่าเริ่ม 15 พ.ย. นี้
นี่เองทำให้รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องอัดยาแรง โดยหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยเฉพาะมาตรการการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าในกรณียื่นขอรับการตรวจลงตราในสนามบิน (Visa On Arrival) หรือ VOA ในสนามบิน

มาตรการครั้งนี้ นับว่า ใจปํ้ากว่าเมื่อปลายปี 2559 ที่ไทยมีปัญหาการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน จากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ตอนนั้นไทยได้ใช้มาตรการให้ส่วนลดค่าวีซ่า VOA จำนวน 1 พันบาท จากปกติคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 2 พันบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สตม. ได้ส่งเรื่องนี้ไปให้ทางกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะออกประกาศราชกิจจานุเบกษาเพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2561 - 13 ม.ค. 2562 เป็นระยะเวลาราว 60 วัน และ สตม. ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ในการรองรับนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคิวยาวในสนามบิน


ชี้เอเยนต์จีนเริ่มตอบรับ
นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า กล่าวว่า แม้ไทยจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA หัวละ 2 พันบาท แต่ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวก็มีมากถึงคนละ 5 หมื่นบาทต่อทริป การไม่เก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวรายได้ที่หายไปแค่ 4% ต่อคนเท่านั้น น้อยมากหากเทียบกัน

ล่าสุด แอตต้าได้หารือร่วมกับเอเยนต์จีน พบว่า มาตรการนี้ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากเขามองว่า ไทยยังยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน และเริ่มมั่นใจว่าจะมีการดูแลเรื่องความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนที่ดีกว่าเดิม ซึ่งมาตรการนี้อาจจะพอหยุดเลือดได้บางส่วน แทนจากก่อนหน้านี้ที่หากไม่มีมาตรการนี้ แอตต้าคาดว่า ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ตลาดจีนจะหายไปราว 3-4 แสนคน สูญรายได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท และน่าจะดึงกลับมาได้ในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า

ขณะนี้ เอเยนต์จีนจะต้องไปโปรโมต รวมถึงดำเนินการเรื่องจองโรงแรมในไทย และการยื่นขออนุญาตเปิดเที่ยวบินชาร์เตอร์ หรือ เพิ่มเที่ยวบินประจำขึ้นมาอีกครั้ง จากเดิมก่อนหน้านี้ที่มีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมาราว 300 เที่ยวบิน และเดือนนี้ไม่ตํ่ากว่า 500 เที่ยวบิน ซึ่งรอให้ทางเอเยนต์จีนสรุปเรื่องเหล่านี้ให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถประเมินและคาดการณ์ตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้และปีหน้าได้ใหม่อีกครั้ง


498385

"สมคิด" ดึงบิ๊กจีนโปรโมตไทย
อีกทั้งในการเดินทางไปเยือนจีนของ รองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยังได้หารือกับ นายแจ็ค หม่า ประธานบริหารอาลีบาบากรุ๊ป เพื่อขอความร่วมมือจากอาลีบาบาช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวของไทยผ่านทางเว็บไซต์ของอาลีบาบา เพื่อจัดแคมเปญพิเศษ "วันคนโสด" วันที่ 11 เดือน 11 (พ.ย.) เพราะมีชาวจีนติดตามกว่า 800 ล้านคน และอาลีบาบาได้ขอให้ไทยเร่งทำคลิปไปเผยแพร่ผ่านช่องทางดังกล่าวเพื่อเชิญชวนคนจีนไปเที่ยว

ทั้งรองนายกฯสมคิดยังได้หารือกับผู้บริหาร บริษัท สปริงแอร์ไลน์ฯ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนตํ่ารายใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อกรุยทางในการทำงานร่วมกับการบินไทย จัดเส้นทางบินให้สอดคล้องกัน เพื่อกระตุ้นให้คนจีนมาเที่ยวเมืองรองของไทย และบันทึกคลิบวิดีโอประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยนำไปเผยแพร่ในโซเชียลชั้นนำของจีน เช่น แอพพลิเคชัน Tik Tok


ปั๊มจีน-อาเซียน 5 แสนคน
ในส่วนของการทำตลาดของ ททท. ที่จะเป็นเรื่องของบิ๊กแพ็กเกจ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ททท. จะมุ่งทำ "จอยต์ มาร์เก็ตติ้ง" โดยอัดฉีดงบเพิ่มอีก 120 ล้านบาท ให้สำนักงาน ททท. ทั้ง 5 แห่งในจีน รวมถึงสำนักงานต่าง ๆ ในอาเซียน เฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อสำนักงาน เพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนราว 4 แสนคน และนักท่องเที่ยวจากอาเซียนราว 1 แสนคน รวมแล้วกว่า 5 แสนคน ให้มาเที่ยวไทยในช่วงเดือน พ.ย. นี้ ถึงเดือน ม.ค. ปีหน้า รวมถึงร่วมมือกับการบินไทยในการผลักดันให้เกิดกระจายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง

รวมไปถึงการร่วมมือกับผู้ประกอบการศูนย์การค้า สปา โรงพยาบาล ร้านอัญมณี จัดโครงการอเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล "พาสปอร์ต พริวิเลจ" ในช่วงวันที่ 15 พ.ย. นี้ - 15 ม.ค. 2562 โดยเมื่อนักท่องเที่ยวแสดงพาสปอร์ตก็จะได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มจากโปรโมชันปกติ


เพิ่มไลฟ์การ์ด 12 หาดภูเก็ต
ทั้งในแง่ของความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางเรือ ล่าสุด ทาง จ.ภูเก็ต ได้เพิ่มไลฟ์การ์ดดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่เป็นชายหาดทั้ง 12 ชายหาดทั่วเกาะภูเก็ต โดยมีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณสนับสนุนเกือบ 40 ล้านบาท ในปี 2562 เพื่อหวังฟื้นตลาดจีนให้กลับคืนมาอีกครั้ง


รายงาน โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร

หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3417 ระหว่างวันที่ 11 - 14 พฤศจิกายน 2561

595959859