หนังและแอนิเมชั่นดันยอดค้าไทย-สหรัฐโตสร้างมูลค่ากว่า1.8พันล้าน

12 พ.ย. 2561 | 08:28 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

“DITP”เผยภายหลังเข้าร่วมเจรจาการค้างาน American Film Market & Conferences (AFM) 2018 ณ นครลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-7 พฤศจิกายน 2561 ประสบความสำเร็จในการส่งเสริม 8 ธุรกิจบันเทิงไทย เจรจาการค้ากับบริษัทผู้สร้างผู้ผลิตภายในงานรวมจำนวน 296 นัดหมายเจรจา สร้างมูลค่าการเจรจาการค้ากว่า 1,800 ล้านบาท

film

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือ “DITP” กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ตลาดหนังและแอนิเมชั่นที่งาน American Film Market & Conferences (AFM) 2018 ณ เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีนี้บรรยากาศภายในห้องเจรจาการค้าค่อนข้างคึกคัก มีนักลงทุน ผู้สร้าง ผู้กำกับ ผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกาและนานาชาติ สนใจเข้าร่วมเจรจาการค้ารวมจำนวนกว่า 296 นัดหมาย สร้างมูลค่าการเจรจาการค้ากว่า 1,800 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนให้ความสนใจกับภาพยนตร์ไทย จากกระแสต่อเนื่องความดังของภาพยนตร์ไทยเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง (Bad Genius) มาสู่ภาพยนตร์เรื่องใหม่ Homestay ของบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด

film1

รวมถึงการตอบรับที่ดีของภาพยนตร์เรื่อง The Lake ของบริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งผลให้ภาพรวมของภาพยนตร์ไทยได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น เช่นเดิมทุกปีที่ภาพยนตร์แนวผี สยองขวัญและบู๊ยังคงได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ แต่พิเศษสำหรับปีนี้ภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้นานาชาติให้การตอบรับเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงธุรกิจด้านการบริการก่อนและหลังการถ่ายทำ (Production Service) จากมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำแรงจูงใจ (Incentive Measures) ตามนโยบายของรัฐบาลในการดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย

film4

ทั้งนี้ ผลการเจรจาการค้าที่สำคัญที่เกิดขึ้นภายในงาน อาทิ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด สามารถปิดการขาย ภาพยนตร์เรื่อง Homestay กับบริษัท Twin จากประเทศญี่ปุ่นได้ทันทีในวันแรกของการจัดงาน และสามารถปิดการขายกับบริษัท Vie Vision Pictures จากประเทศไต้หวัน ภาพยนตร์เรื่องใหม่ Friend Zone ซึ่งยังไม่ได้ออกฉายในประเทศไทยแต่ขายได้แล้วในต่างประเทศ นอกจากนั้นบริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด ได้ร่วมเจรจาการค้ากับบริษัท ผู้ลงทุนจากประเทศสหรัฐอเมริกาในการสร้างภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย จำนวน 3 เรื่อง และบริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เจรจาการค้ากับบริษัท Echelon Studios จากประเทศสหรัฐอเมริกา รูปแบบในการทำธุรกิจคล้ายกับ Netflix ซึ่งเป็นกล่อง Set Top Box ชื่อว่า Roku ซึ่งจะมีภาพยนตร์จากต่างประเทศทั่วโลกให้ชม ได้ติดต่อขอซื้อภาพยนตร์จากบริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด รวมถึงมีการร่วมลงทุนผลิตภาพยนตร์อีกด้วย

film2

นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการไทย ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมธุรกิจบันเทิงไทย ผ่านกิจกรรมการตลาดบนเวทีโลก เพื่อแสดงศักยภาพของการเป็นศูนย์กลางทางความคิดสร้างสรรค์ที่พร้อมจะดึงดูดนักลงทุนในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ขยายโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อให้สอดรับกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

e-book-1-503x62-7