ตีกลับรถไฟแหลมฉบัง-ทวาย ‘บอร์ดร.ฟ.ท.’หวั่นไม่คุ้มลงทุน/ส่อทับซ้อนสายไทย-ญี่ปุ่น

03 มี.ค. 2559 | 10:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บอร์ดรฟท.ตีกลับผลศึกษาโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือน้ำลึกทวาย จี้ตรวจสอบความคุ้มค่าการลงทุน เหตุเพราะส่อแววทับซ้อนรถไฟไทย-ญี่ปุ่น ล่าสุดแผนฟื้นฟูรฟท.ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ทั้งการจัดหาขบวนรถและการก่อสร้างเส้นทางต่างๆ "วุฒิชาติ" เผยผลการเจรจรากับบริษัทน้ำมันทางท่อในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อจะแล้วเสร็จภายใน 45 วัน เร่งเดินหน้างานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อให้แล้วเสร็จตามแผน

นายสราวุธ เบญจกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า รฟท.นำเสนอผลการศึกษาโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบังกับท่าเรือน้ำลึกทวาย ต่อบอร์ดของการรถไฟฯ ถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเห็นว่าบางช่วงของเส้นทางจะไปทับซ้อนกับโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่น จึงให้กลับไปพิจารณาว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ปริมาณสินค้าที่จะมาใช้บริการมีมาจากไหน จำนวนมากน้อยเพียงใด

โดยกรณีดังกล่าวนี้บอร์ดยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบใดๆ ตามที่รฟท.นำเสนอขออนุมัติดำเนินการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือกเพื่อออกแบบรายละเอียด แต่ให้รฟท.รับกลับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในแนวเส้นทางดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ วิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม

"ตามผลการศึกษายังเห็นว่าไม่มีความคุ้มค่าด้านการลงทุน จึงให้ไปพิจารณาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางหรือไม่ ประการสำคัญเส้นทางดังกล่าวยังมีการทับซ้อนโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ บอร์ดให้รฟท.กลับไปตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนนำเสนอเพื่อเห็นชอบในโอกาสต่อไป ซึ่งโครงการนี้ต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากว่าจ้างไปแล้วต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง"

ทั้งนี้กรณีความคืบหน้าแผนปฏิบัติการภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการรฟท.นั้นได้รับรายงานถึงความคืบหน้าในหลายยุทธศาสตร์ตามที่รฟท.ได้รายงานให้กระทรวงคมนาคมรับทราบไปแล้ว โดยให้รฟท.จัดผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนโดยเฉพาะเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ

"ต้องสามารถบอกข้อเท็จจริงได้ว่า โครงการเหล่านั้นอยู่ในขั้นตอนไหน อย่างไร การดำเนินงานเป็นไปตามแผนฟื้นฟูหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่และการจัดหาขบวนรถ เป็นต้น
ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่ารฟท.กล่าวว่า บอร์ดให้หาข้อมูลเพิ่มเติมกรณีโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือน้ำลึกทวาย ส่วนกรณีแผนฟื้นฟูรฟท.นั้นบอร์ดได้กำชับให้รฟท.ปฏิบัติตามที่คณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (อนุคจร.) มีมติที่ได้รายงานไปแล้วนั้น

"ให้เร่งดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่อนุคจร.กำหนดไว้ ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้าในหลายประเด็นทั้งการก่อสร้างเส้นทาง การจัดหาขบวนรถและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้เปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนไปแล้ว หลังจากนั้นจะเร่งนำเสนอข้อมูลทั้งหมดให้บอร์ดรฟท.และกระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันต่อไป"

ทั้งนี้นายวุฒิชาติยังกล่าวถึงกรณีการแก้ไขปัญหารื้อย้ายท่อขนส่งน้ำมันของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ที่อยู่ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นอุปสรรคของการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อของรถไฟสายสีแดงนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยบริษัทดังกล่าวเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน (ภายใน 24 มีนาคมนี้) ตามที่ตกลงกันไว้ หลังจากนั้นรฟท.จะเร่งก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อให้แล้วเสร็จตามแผนต่อไป

"ตกลงกันแล้วจะแล้วเสร็จภายใน 45 วันนี้หรือประมาณวันที่ 24 มีนาคมนี้ โดยไม่ต้องรอให้ศาลพิจารณา ผลการตกลงเป็นไปตามแผน หลังจากนั้นจะเร่งก่อสร้างสัญญาที่ 1 ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อให้แล้วเสร็จตามแผนต่อไป"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,136 วันที่ 3 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2559